วิธีทำ SEO ให้ติดหน้าแรกฉบับเอเจนซี่ ปี 2025

By Rachavit Whangpatanathon I MD at ANGA Group

17 DECEMBER 24

133

ANGA-GNA-c2.webp

จากประสบการณ์ของ ANGA Mastery ที่ได้ดูแลเว็บไซต์ธุรกิจมามากกว่า 300 เว็บไซต์ เราพบว่าวิธีทำ SEO ในปี 2025 กำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก โดยเฉพาะหลังจากที่ Google ได้อัพเดท Algorithm ครั้งใหญ่ล่าสุด เมื่อ March 2024 และการเติบโตของ AI ทำให้เทคนิคการทำ SEO แบบเดิมๆ อาจไม่เพียงพออีกต่อไป

ข้อมูลหลังจากการอัพเดท Algorithm พบว่า 70% ของเว็บไซต์ที่เคยติดอันดับดีด้วยวิธีการทำ SEO แบบเก่า จะเริ่มเสียอันดับและ Traffic ไปกว่า 40-60% เนื่องจากไม่ได้ปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง ดังนั้นในบทความนี้ เราได้รวบรวม 7 เทคนิคทำ SEO เพื่อเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในปี 2025 แบบเจาะลึกทุกขั้นตอน ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณไม่เพียงแค่ติดหน้าแรก แต่ยังรักษาอันดับได้อย่างยั่งยืนในยุคที่การแข่งขันสูงขึ้นเรื่อยๆ

7 วิธีทำ SEO ให้ติดหน้าแรก Google ในปี 2025

จากการวิเคราะห์ข้อมูลของ ANGA Mastery เราพบว่าเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จในการทำ SEO ล้วนมีการประยุกต์ใช้เทคนิคทั้ง 7 ข้อนี้อย่างครบถ้วน หรือที่เราเรียกว่า “เทคนิค ASEO” โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังการอัพเดท Algorithm ล่าสุดของ Google ที่เน้นเรื่อง User Experience และ E-E-A-T มากขึ้น มาดูกันว่าแต่ละเทคนิคมีรายละเอียดอะไรบ้าง

1. Technical SEO Foundation

การวางรากฐานทางเทคนิคที่แข็งแกร่งคือจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด จากประสบการณ์ดูแลเว็บไซต์กว่า 300 เว็บของ ANGA พบว่าปัญหาด้านเทคนิคสามารถทำให้ Traffic หายไปได้ถึง 60% ภายในเวลาเพียง 1 เดือน โดยเฉพาะในกรณีที่มีการย้ายเว็บไซต์หรือปรับปรุงระบบครั้งใหญ่ ปัญหาที่พบบ่อยที่สุดคือการตั้งค่า Server ผิดพลาดและการมี Broken Links จำนวนมาก ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการ Crawl และ Index ของ Google

สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ

  • Crawling Optimization: ตรวจสอบและแก้ไข Broken Pages, ปรับแต่ง Robots.txt, พัฒนา Internal Link Structure
  • Indexing Management: จัดการ Meta Tags, Schema Markup, Canonical Tags อย่างถูกต้อง
  • Site Architecture: ใช้ Flat Site Structure ที่ช่วยให้ทั้งผู้ใช้และ Google Bot เข้าถึงทุกหน้าได้ง่าย
  • Core Web Vitals: เน้นการปรับแต่ง LCP, FID, CLS ให้ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของ Google

2. Search Experience Enhancement (SXO)

ปี 2025 เป็นยุคที่ User Experience กลายเป็นหัวใจสำคัญของ SEO อย่างแท้จริง จากการวิเคราะห์ข้อมูลของเราพบว่าเว็บไซต์ที่มี Avg. Time on Page สูงมีโอกาสติดอันดับดีกว่าถึง 43% เมื่อเทียบกับเว็บไซต์ที่มีเวลาเฉลี่ยต่ำ นี่เป็นเพราะ Google ให้ความสำคัญกับ User Signals มากขึ้น โดยพิจารณาจากพฤติกรรมการใช้งานจริงของผู้เข้าชมเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็นระยะเวลาที่ใช้บนเว็บไซต์ อัตราการ Bounce หรือการมีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหา

กลยุทธ์หลัก

  • ออกแบบ UX UI  ให้ User Journey ที่ราบรื่น
  • เพิ่ม Engagement metrics ด้วย Interactive Content
  • ปรับแต่ง Mobile Experience ให้สมบูรณ์แบบ
  • วิเคราะห์และปรับปรุง User Flow อย่างต่อเนื่อง

3. Authority Building Through External Signals

การสร้างความน่าเชื่อถือในปี 2025 ไม่ใช่แค่เรื่องของการได้ Backlinks อีกต่อไป แต่เป็นเรื่องของการสร้าง Digital Footprint ที่แข็งแกร่งบนโลกออนไลน์ จากการศึกษาของทีม ANGA พบว่าแบรนด์ที่มี Brand Mentions และ Social Signals ที่แข็งแกร่งมีโอกาสติดอันดับสูงกว่าคู่แข่งถึง 3 เท่า แม้จะมีจำนวน Backlinks น้อยกว่า นี่คือสัญญาณที่ชัดเจนว่า Google กำลังให้ความสำคัญกับ Brand Authority มากกว่าแค่ลิงก์ที่ชี้มายังเว็บไซต์

แนวทางการพัฒนา

  • สร้าง Brand Mentions บนแพลตฟอร์มที่น่าเชื่อถือ
  • พัฒนา Social Signals ผ่าน Engagement ที่แท้จริง
  • รวบรวม User Reviews และ Testimonials ที่มีคุณภาพ
  • สร้าง Digital PR ที่เน้นคุณค่าต่อผู้ใช้

4. Strategic Link Building

การสร้าง Backlinks ในปี 2025 เน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ จากการวิเคราะห์ข้อมูลพบว่า Backlink คุณภาพสูงเพียง 1 ลิงก์ สามารถส่งผลต่อการจัดอันดับได้มากกว่า Backlinks ทั่วไป 10 ลิงก์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อลิงก์นั้นมาจากแหล่งที่มีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณโดยตรง นี่คือเหตุผลที่เราต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์การสร้าง Backlinks ให้เน้นคุณภาพและความเกี่ยวข้องมากกว่าปริมาณ

กลยุทธ์การสร้าง Backlinks

  • เน้นการได้ลิงก์จากเว็บไซต์ที่มี Domain Authority สูง
  • สร้าง Content Partnerships กับผู้นำในอุตสาหกรรม
  • พัฒนา Digital Assets ที่มีคุณค่าต่อการแชร์
  • ใช้ Local SEO Strategy เพื่อสร้าง Relevant Local Links

5. SILO Content Architecture

หนึ่งในวิธีสำคัญในการทำ SEO คือการโครงสร้างเนื้อหาแบบ SILO ที่ไม่ใช่แค่การจัดหมวดหมู่เนื้อหาธรรมดา แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศของเนื้อหาที่เชื่อมโยงกันอย่างชาญฉลาด จากประสบการณ์ของเราในการทำ Content Restructuring ให้กับลูกค้ากว่า 100 เว็บไซต์ พบว่าการจัดโครงสร้างแบบ SILO สามารถเพิ่ม Organic Traffic ได้เฉลี่ย 40% ภายในเวลา 3 เดือน โดยไม่ต้องเพิ่มเนื้อหาใหม่แต่อย่างใด นี่เป็นเพราะ Google สามารถเข้าใจความสัมพันธ์ของเนื้อหาและความเชี่ยวชาญของเว็บไซต์ในแต่ละหัวข้อได้ชัดเจนขึ้น

วิธีการจัดโครงสร้าง

  • แบ่งเนื้อหาเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน
  • สร้าง Internal Links ที่เชื่อมโยงเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
  • พัฒนา Topic Clusters ที่ครอบคลุม
  • สร้าง Pillar Content สำหรับแต่ละหมวดหมู่

6. E-E-A-T Content Development

ในยุคที่ AI Content กำลังท่วมท้นอินเทอร์เน็ต การสร้างเนื้อหาตามหลัก E-E-A-T คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นในสายตา Google เพราะ Google ต้องการนำเสนอเนื้อหาที่มาจากผู้เชี่ยวชาญตัวจริง มีประสบการณ์จริง และน่าเชื่อถือ จากการศึกษาพบว่าเว็บไซต์ที่มีการแสดงความเชี่ยวชาญและประสบการณ์อย่างชัดเจน มีโอกาสติดอันดับสูงกว่าเว็บไซต์ที่มีแต่เนื้อหาทั่วไปถึง 2.5 เท่า โดยเฉพาะในหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้องกับ YMYL (Your Money Your Life)

องค์ประกอบสำคัญ

  • Experience: แชร์ประสบการณ์จริงจากการทำงาน
  • Expertise: แสดงความเชี่ยวชาญผ่านเนื้อหาเชิงลึก
  • Authoritativeness: สร้างการยอมรับในวงการ
  • Trustworthiness: นำเสนอข้อมูลที่เชื่อถือได้พร้อมแหล่งอ้างอิง

7. Smart Keyword Strategy

การวิจัยและใช้ SEO Keyword ในปี 2025 ไม่ใช่แค่การหาคำที่คนค้นหาเยอะแล้วเอามายัดใส่เนื้อหาอีกต่อไป แต่เป็นการเข้าใจ Search Intent อย่างลึกซึ้ง เราพบว่า 65% ของเว็บไซต์ที่ล้มเหลวในการทำ SEO เกิดจากการเลือกใช้ Keywords ที่ไม่ตรงกับ Search Intent ของผู้ใช้ การเข้าใจว่าทำไมคนถึงค้นหาคำนั้นๆ และต้องการอะไรจากการค้นหา จึงสำคัญยิ่งกว่าปริมาณการค้นหาของ Keywords

กลยุทธ์การใช้ Keywords

  • วิเคราะห์ Search Intent ทั้ง 5 ประเภท
    • Informational: สร้างเนื้อหาที่ให้ความรู้
    • Navigational: ปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์
    • Commercial: นำเสนอข้อมูลเปรียบเทียบ
    • Transactional: เพิ่ม Conversion Elements
    • Local: ปรับแต่ง Local SEO
  • ใช้ AI Tools วิเคราะห์ Keyword Trends
  • พัฒนา Long-tail Keywords Strategy
  • สร้าง Topic Clusters รอบ Main Keywords

สรุปอนาคตของ SEO ในปี 2025

SEO กับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ในปี 2025 ไม่ใช่แค่การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับ แต่เป็นการสร้างระบบนิเวศที่แข็งแรงและยั่งยืน ซึ่งจำเป็นต้องมีความรู้จากคอร์สเรียน Marketing ที่ครอบคลุม ทั้งด้านเทคนิค การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และการวิเคราะห์ข้อมูลผ่านคอร์สเรียน Google Analytics 4 พร้อมทั้งปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี AI ที่กำลังเปลี่ยนแปลงวงการ

สำหรับผู้ที่สนใจคลาสสอน SEO หรือต้องการพัฒนาทักษะผ่านหลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ANGA Mastery มีโปรแกรมที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับผู้บริหาร โดยเฉพาะคอร์สเรียน SEO Strategy for Executives ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจการวางกลยุทธ์อย่างเป็นระบบ โดยไม่ลืมว่าเป้าหมายสุดท้ายคือการสร้างคุณค่าให้กับผู้ใช้งานอย่างแท้จริง

ติดตามข่าวสารการตลาดและธุรกิจ และอัพเดทความรู้ด้าน SEO ได้ที่ ANGA Mastery เรายินดีให้คำปรึกษาและแนะนำหลักสูตรที่เหมาะกับการพัฒนาธุรกิจของคุณ

Related News

รวมทุกเรื่องที่ควรรู้สำหรับการเปิดคลินิกความงาม 2025

เช็กลิสต์สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเปิดคลินิกความงาม ก่อนเปิดต้องรู้อะไรบ้าง ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ มีความเสี่ยงอะไรบ้าง และควรทำการตลาดอย่างไรในปี 2025

10 วิธีทำการตลาดคลินิกความงามที่เห็นผลจริงในปี 2025

เปิดแผนและวิธีทำการตลาดคลินิกความงามที่เห็นผลจริง ช่วยดันยอดขายให้ปัง เพิ่มการเข้าถึงอย่างแม่นยำ และทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นในปี 2025

เปิด 10 ทักษะและหน้าที่ Online Marketing ที่สำคัญในปี 2025

ทำความเข้าใจหน้าที่ Online Marketing และทักษะที่นักการตลาดออนไลน์ควรมีติดตัวในปี 2025 เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจและเปิดโอกาสให้กับตัวเอง

รวมทุกเรื่องที่ควรรู้สำหรับการเปิดคลินิกความงาม 2025

เช็กลิสต์สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเปิดคลินิกความงาม ก่อนเปิดต้องรู้อะไรบ้าง ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ มีความเสี่ยงอะไรบ้าง และควรทำการตลาดอย่างไรในปี 2025

10 วิธีทำการตลาดคลินิกความงามที่เห็นผลจริงในปี 2025

เปิดแผนและวิธีทำการตลาดคลินิกความงามที่เห็นผลจริง ช่วยดันยอดขายให้ปัง เพิ่มการเข้าถึงอย่างแม่นยำ และทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นในปี 2025

เปิด 10 ทักษะและหน้าที่ Online Marketing ที่สำคัญในปี 2025

ทำความเข้าใจหน้าที่ Online Marketing และทักษะที่นักการตลาดออนไลน์ควรมีติดตัวในปี 2025 เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจและเปิดโอกาสให้กับตัวเอง

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ