แจก 35 เครื่องมือ SEO (SEO Tools) ที่ช่วยได้จริง ฉบับ 2025

By Rachavit Whangpatanathon I MD at ANGA Group

03 JANUARY 25

34

AM-C13.webp

การเลือกใช้ SEO Tools หรือเครื่องมือ SEO ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสมกับการดำเนินงาน สามารถประหยัดเวลาและทรัพยากรในการทำ SEO ได้มากกว่าที่คิด แต่ด้วยความที่ในท้องตลาดมี SEO Tools ให้เลือกใช้งานมากมาย คุณคงสับสนไม่ใช่น้อยว่าจะใช้ SEO Tools ตัวไหนดี? ด้วยเหตุนี้ ANGA Mastery จึงได้รวบรวมและคัดเลือกเครื่องมือ SEO ที่มีคุณภาพและตอบโจทย์การทำ SEO Marketing มาฝากกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น เราก็ได้คัดมาเฉพาะเครื่องมือ SEO ที่ใช้งานได้จริงเท่านั้น เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมกับธุรกิจและเป้าหมายของคุณได้อย่างคุ้มค่าที่สุด และไม่ต้องเสียเวลาในการลองผิดลองถูก

เปิดลิสต์ 35 SEO Tools ที่เอเจนซี่ตัวจริงเค้าใช้กัน

เราได้รวบรวม SEO Tools ที่เหล่าเอเจนซี่ชั้นนำใช้งานกันอยู่ทุกวันมาแชร์ให้คุณได้รู้ โดยคัดมาแล้ว 35 รายการจากเครื่องมือ SEO นับร้อยในตลาด รับรองว่าแต่ละตัวช่วยงานได้จริงและคุ้มค่ากับการลงทุน พร้อมแนะนำจุดเด่นและการนำไปใช้งานให้คุณรู้

1. Google Search Console

Google Search Console เป็นเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ให้ข้อมูลครบถ้วนเกี่ยวกับประสิทธิภาพเว็บไซต์ในผลการค้นหา ทั้งข้อมูล Impressions, Clicks, ตำแหน่งการจัดอันดับเฉลี่ย และอัตราการคลิก นอกจากนี้ยังช่วยตรวจสอบ Backlink และแจ้งเตือนปัญหาต่างๆ ที่อาจส่งผลต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์

2. Google Analytics

Google Analytics แพลตฟอร์มวิเคราะห์พฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์แบบเจาะลึก เผยให้เห็นข้อมูลสำคัญเช่นแหล่งที่มาของทราฟฟิก การใช้งานบนอุปกรณ์ต่างๆ และข้อมูลทางประชากรศาสตร์ ช่วยให้เข้าใจว่าผู้เข้าชมมีคุณภาพมากน้อยเพียงใดและชอบเนื้อหาแบบไหน

3. Google Keyword Planner

เครื่องมือวางแผนคีย์เวิร์ดจาก Google ที่แสดงข้อมูลปริมาณการค้นหาและระดับการแข่งขันแบบเรียลไทม์ ช่วยค้นพบโอกาสทางการตลาดและคีย์เวิร์ดที่มีศักยภาพในการทำ SEO พร้อมประมาณการงบประมาณสำหรับการทำโฆษณา

4. Ahrefs

เครื่องมือ SEO ครบวงจรที่โดดเด่นด้านการวิเคราะห์ Backlink และติดตามอันดับเว็บไซต์ มาพร้อมฟีเจอร์ค้นหาคีย์เวิร์ดที่แม่นยำ ช่วยให้เข้าใจกลยุทธ์ของคู่แข่งและวางแผนการทำ SEO ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5. SEMrush

แพลตฟอร์ม SEO ที่ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดและการวิเคราะห์คู่แข่ง พร้อมฟีเจอร์ตรวจสอบคุณภาพ Backlinks และแนะนำวิธีปรับปรุงเว็บไซต์ ช่วยให้เห็นภาพรวมการทำ SEO และวางกลยุทธ์ได้ครอบคลุม

6. Moz Pro

เครื่องมือวิเคราะห์ SEO ที่เน้นความง่ายในการใช้งาน มาพร้อมฟีเจอร์ค้นหาคีย์เวิร์ด ตรวจสอบ Backlink และติดตามอันดับ รวมถึงให้คำแนะนำในการปรับปรุงเว็บไซต์แบบเข้าใจง่าย เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นทำ SEO

7. Screaming Frog

โปรแกรมสแกนเว็บไซต์ที่รวบรวมข้อมูลทางเทคนิคทั้งหมด เช่น โครงสร้าง URL, Meta Tags และลิงก์ภายใน ช่วยค้นหาปัญหา SEO และให้ข้อมูลสำหรับการปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์อย่างละเอียด

8. Yoast SEO

ปลั๊กอิน WordPress ยอดนิยมที่ช่วยปรับแต่ง On-page SEO แบบครบวงจร ทั้งการจัดการ Meta Tags, XML Sitemap และการวิเคราะห์เนื้อหา พร้อมให้คำแนะนำในการปรับปรุงที่เข้าใจง่ายแบบเรียลไทม์

9. Answer The Public

เครื่องมือค้นหาคำถามที่ผู้คนสนใจเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่ต้องการ โดยรวบรวมข้อมูลจากการค้นหาจริง ช่วยให้เข้าใจความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและสร้างเนื้อหาที่ตรงใจ

10. Ubersuggest

เครื่องมือวิเคราะห์ SEO ที่ให้ข้อมูลคีย์เวิร์ดและการแข่งขันในราคาที่จับต้องได้ พร้อมฟีเจอร์วิเคราะห์คู่แข่งและแนะนำกลยุทธ์การทำเนื้อหา เหมาะสำหรับธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง

11. Google Lighthouse

เครื่องมือตรวจสอบประสิทธิภาพเว็บไซต์จาก Google ที่วัดผลทั้งด้านความเร็ว, การเข้าถึง, SEO และการใช้งานบนมือถือ พร้อมให้คำแนะนำในการปรับปรุงที่ชัดเจนและนำไปปฏิบัติได้จริง

12. GTmetrix

เครื่องมือวิเคราะห์ความเร็วเว็บไซต์ที่ให้ข้อมูลละเอียดเกี่ยวกับการโหลดหน้าเว็บ พร้อมคำแนะนำในการปรับปรุงประสิทธิภาพแบบเจาะจง ช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นและรองรับผู้ใช้งานได้ดีขึ้น

13. SEOquake

ส่วนขยายเบราว์เซอร์ที่แสดงข้อมูล SEO แบบเรียลไทม์สำหรับทุกเว็บไซต์ที่เข้าชม ทั้งค่า Domain Authority, Backlinks และข้อมูลการจัดอันดับ ช่วยให้วิเคราะห์คู่แข่งได้อย่างรวดเร็ว

14. Rank Math

ปลั๊กอิน WordPress ทางเลือกที่มาพร้อมฟีเจอร์ SEO ขั้นสูง เช่น Schema Markup อัตโนมัติ, การเชื่อมต่อกับ Google Search Console และการวิเคราะห์ SEO แบบเรียลไทม์

15. Google Trends

เครื่องมือดูเทรนด์การค้นหาที่แสดงความนิยมของคีย์เวิร์ดตามช่วงเวลาและภูมิภาค ช่วยในการวางแผนเนื้อหาและการทำ SEO ตามความสนใจของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป

16. WP Rocket

ปลั๊กอินเพิ่มความเร็วสำหรับ WordPress ที่ช่วยจัดการ Cache และปรับแต่งการทำงานของเว็บไซต์ให้เร็วขึ้น พร้อมฟีเจอร์การบีบอัดไฟล์และการโหลดแบบ Lazy Load ที่ช่วยเพิ่มคะแนน Core Web Vitals

17. Imagify

เครื่องมือบีบอัดรูปภาพอัตโนมัติที่รักษาคุณภาพไว้ได้ดีเยี่ยม สามารถลดขนาดไฟล์รูปภาพทั้งเว็บไซต์ได้ในคลิกเดียว ช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้นโดยไม่เสียคุณภาพของภาพ

18. ShortPixel

เครื่องมือจัดการรูปภาพที่รองรับไฟล์หลากหลายรูปแบบ ทั้ง JPG, PNG, WebP และ PDF มาพร้อมระบบสำรองไฟล์ต้นฉบับและตัวเลือกการบีบอัดที่ยืดหยุ่น

19. Google My Business

แพลตฟอร์มจัดการข้อมูลธุรกิจบน Google ที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและโอกาสในการปรากฏบนการค้นหาแบบท้องถิ่น พร้อมระบบจัดการรีวิวและการโต้ตอบกับลูกค้า

20. Google Tag Manager

เครื่องมือจัดการโค้ดติดตามและสคริปต์ต่างๆ บนเว็บไซต์ ช่วยให้การติดตั้งและจัดการโค้ดวิเคราะห์ต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องแก้ไขโค้ดเว็บไซต์โดยตรง

21. SERP Robot

เครื่องมือตรวจสอบอันดับการค้นหาที่แม่นยำ สามารถติดตามอันดับได้ทั้งแบบท้องถิ่นและทั่วโลก พร้อมรายงานการเปลี่ยนแปลงอันดับแบบละเอียด

22. Copyscape

เครื่องมือตรวจสอบความซ้ำซ้อนของเนื้อหาที่ช่วยป้องกันปัญหา Duplicate Content โดยเปรียบเทียบเนื้อหากับเว็บไซต์อื่นๆ ทั่วโลก

23. Broken Link Checker

เครื่องมือตรวจสอบลิงก์เสียที่ช่วยค้นหาและแก้ไขลิงก์ที่ไม่ทำงานบนเว็บไซต์ พร้อมรายงานสถานะของลิงก์แบบเรียลไทม์

24. Mobile-Friendly Test

เครื่องมือจาก Google ที่ช่วยทดสอบการแสดงผลบนมือถือ พร้อมให้คำแนะนำในการปรับปรุงเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้ดียิ่งขึ้น

25. Schema Markup Generator

เครื่องมือสร้างโค้ด Schema Markup แบบอัตโนมัติที่ช่วยให้ข้อมูลเว็บไซต์แสดงผลใน Rich Snippets บน Google ได้อย่างสมบูรณ์

26. SEO Writing Assistant

เครื่องมือช่วยเขียนเนื้อหาที่วิเคราะห์และให้คำแนะนำในการปรับปรุงเนื้อหาให้เป็นมิตรกับ SEO แบบเรียลไทม์ พร้อมตรวจสอบความอ่านง่ายและการใช้คีย์เวิร์ด

27. LSIGraph

เครื่องมือค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับคีย์เวิร์ดหลัก ช่วยให้เนื้อหามีความหลากหลายและเป็นธรรมชาติมากขึ้น เพิ่มโอกาสในการติดอันดับสำหรับคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง

28. Looker Studio

แพลตฟอร์มสร้างรายงาน SEO แบบโต้ตอบที่เชื่อมต่อกับข้อมูลจากหลายแหล่ง ช่วยให้การวิเคราะห์และนำเสนอผลลัพธ์ทำได้อย่างมืออาชีพ

29. BrightLocal

เครื่องมือ SEO สำหรับธุรกิจท้องถิ่นที่ช่วยจัดการข้อมูลธุรกิจบนแพลตฟอร์มต่างๆ พร้อมระบบติดตามอันดับการค้นหาแบบท้องถิ่น

30. SERPstat

แพลตฟอร์ม SEO ที่รวมเครื่องมือวิเคราะห์คีย์เวิร์ด, คู่แข่ง และ Backlink ไว้ในที่เดียว พร้อมระบบวิเคราะห์เนื้อหาและการติดตามอันดับ

31. KWFinder

เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดที่เน้นความง่ายในการใช้งาน แสดงระดับการแข่งขันและโอกาสในการติดอันดับอย่างชัดเจน เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น

32. AlsoAsked

เครื่องมือแสดงคำถามที่เกี่ยวข้องจาก People Also Ask บน Google ช่วยในการวางแผนเนื้อหาและการตอบคำถามที่กลุ่มเป้าหมายสนใจ

33. SEO Site Checkup

เครื่องมือตรวจสอบสุขภาพเว็บไซต์ที่วิเคราะห์ปัจจัย SEO ทั้งหมดพร้อมให้คะแนนและคำแนะนำในการปรับปรุง

34. Grammarly

เครื่องมือตรวจสอบไวยากรณ์และการเขียนที่ช่วยปรับปรุงคุณภาพเนื้อหาให้อ่านง่ายและน่าเชื่อถือ ส่งผลดีต่อการทำ SEO

35. Hunter.io

เครื่องมือค้นหาอีเมลที่ช่วยในการทำ Outreach SEO และสร้าง Backlinks โดยค้นหาข้อมูลติดต่อของเว็บไซต์เป้าหมายได้อย่างแม่นยำ

สรุป

จากเครื่องมือ SEO ทั้ง 35 รายการที่เราแนะนำไป คุณอาจไม่จำเป็นต้องใช้ทุกเครื่องมือ แต่ควรเลือก SEO Tools ที่จำเป็นและเหมาะสมกับขนาดธุรกิจ งบประมาณ และเป้าหมายของคุณ ที่สำคัญอย่าลืมว่าเครื่องมือเหล่านี้เป็นเพียงตัวช่วย แต่การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพและการทำ SEO อย่างต่อเนื่องต่างหากที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จได้อย่างยั่งยืนนอกจากนี้ ถ้าคุณมองว่าการทำ SEO มันยากเกินไป อยากได้ที่ปรึกษา SEO หรือมองหาคอร์สเรียน SEO อยู่ล่ะก็ ANGA Mastery เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยในปี 2025 

Related News

รวมทุกเรื่องที่ควรรู้สำหรับการเปิดคลินิกความงาม 2025

เช็กลิสต์สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเปิดคลินิกความงาม ก่อนเปิดต้องรู้อะไรบ้าง ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ มีความเสี่ยงอะไรบ้าง และควรทำการตลาดอย่างไรในปี 2025

10 วิธีทำการตลาดคลินิกความงามที่เห็นผลจริงในปี 2025

เปิดแผนและวิธีทำการตลาดคลินิกความงามที่เห็นผลจริง ช่วยดันยอดขายให้ปัง เพิ่มการเข้าถึงอย่างแม่นยำ และทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นในปี 2025

เปิด 10 ทักษะและหน้าที่ Online Marketing ที่สำคัญในปี 2025

ทำความเข้าใจหน้าที่ Online Marketing และทักษะที่นักการตลาดออนไลน์ควรมีติดตัวในปี 2025 เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจและเปิดโอกาสให้กับตัวเอง

รวมทุกเรื่องที่ควรรู้สำหรับการเปิดคลินิกความงาม 2025

เช็กลิสต์สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเปิดคลินิกความงาม ก่อนเปิดต้องรู้อะไรบ้าง ใช้เงินลงทุนเท่าไหร่ มีความเสี่ยงอะไรบ้าง และควรทำการตลาดอย่างไรในปี 2025

10 วิธีทำการตลาดคลินิกความงามที่เห็นผลจริงในปี 2025

เปิดแผนและวิธีทำการตลาดคลินิกความงามที่เห็นผลจริง ช่วยดันยอดขายให้ปัง เพิ่มการเข้าถึงอย่างแม่นยำ และทำให้ธุรกิจของคุณโดดเด่นในปี 2025

เปิด 10 ทักษะและหน้าที่ Online Marketing ที่สำคัญในปี 2025

ทำความเข้าใจหน้าที่ Online Marketing และทักษะที่นักการตลาดออนไลน์ควรมีติดตัวในปี 2025 เพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจและเปิดโอกาสให้กับตัวเอง

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ