การยิงโฆษณาบน Facebook ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “เงินเยอะ” เพียงอย่างเดียว แต่สิ่งสำคัญคือ การจัดสรรงบประมาณ (Budget Optimization) อย่างชาญฉลาด เพราะแม้จะใช้งบเท่ากัน แต่ผลลัพธ์ (Conversions) ที่ได้อาจแตกต่างกันหลายเท่า
ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึก Budget Testing Scenario หรือสถานการณ์การทดสอบการใช้งบโฆษณา โดยเปรียบเทียบ Adset Budget Optimization (ABO) กับ Campaign Budget Optimization (CBO) เพื่อให้คุณเลือกวิธีที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ
Adset Budget Optimization (ABO)
ใน ABO งบประมาณถูกกำหนดแยกให้แต่ละ Ad Set โดยตรง เช่น ถ้าคุณมี 3 Ad Set และกำหนดงบ 10 ดอลลาร์ต่อ Ad Set ระบบจะใช้ตามนั้น
📌 ตัวอย่าง: งบในการยิงโฆษณาตอยู่ที่ 30 บาทต่อวัน
- Ad Set 1 ได้เงินไป 10 บาท แต่สร้าง Conversion ได้มากที่สุด
- Ad Set 2 ได้เงินไป 10 บาท แต่สร้าง Conversion ปานกลาง
- Ad Set 3 ได้เงินไป 10 บาท แต่สร้าง Conversion เพียงเล็กน้อย
ระบบจะแจกแจงงบประมาณลงไปให้ Ad Set 1,2, และ 3 เท่ากันในทุกๆวัน ถึงแม้ว่าหากลงทุนกับ Ad set 1 จะได้ผลลัพทธ์ดีที่สุดก็ตาม
ข้อดีของ ABO:
- ควบคุมงบ Ad Set ได้ละเอียด เหมาะสำหรับการทดสอบ Target Audience หรือ Creative ใหม่ ๆ
- ผู้ลงโฆษณามีอิสระกำหนดการใช้จ่ายตรงจุดที่อยากเน้น
ข้อเสีย:
- อาจทำให้งบถูกใช้ไปกับ Ad Set ที่ไม่ทำงานดี
- ไม่ยืดหยุ่น เพราะระบบไม่สามารถโยกงบไปยัง Ad Set ที่ทำงานดีกว่าได้
Campaign Budget Optimization (CBO)
ใน CBO คุณกำหนดงบรวมในระดับ Campaign เช่น 30 บาท จากนั้น Facebook จะกระจายงบไปยัง Ad Set ต่าง ๆ โดยอัตโนมัติ ตาม Performance ที่ดีที่สุด
ตัวอย่าง: งบในการยิงโฆษณาตอยู่ที่ 30 บาทต่อวัน
- Ad Set 1 ได้เงินไป 10 บาท แต่สร้าง Conversion ได้มากที่สุด
- Ad Set 2 ได้เงินไป 10 บาท แต่สร้าง Conversion ปานกลาง
- Ad Set 3 ได้เงินไป 10 บาท แต่สร้าง Conversion เพียงเล็กน้อย
ระบบจะแจกแจงงบประมาณลงไปให้ Ad Set 1 มากที่สุด เพราะ Ad Set นี้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีที่สุด หมายความว่าในวันถัดๆไป โครงสร้างงบประมาณโฆษณาจะเป็นรูปแบบดังนี้
- Ad Set 1 ได้เงินไป 27 บาท แต่สร้าง Conversion ได้มากที่สุด
- Ad Set 2 ได้เงินไป 2 บาท แต่สร้าง Conversion ปานกลาง
- Ad Set 3 ได้เงินไป 1 บาท แต่สร้าง Conversion เพียงเล็กน้อย
ข้อดีของ CBO:
- ระบบใช้ Machine Learning ช่วย Optimize งบแบบเรียลไทม์
- เพิ่มโอกาสได้ Conversions มากขึ้นโดยไม่ต้องคอยปรับงบเอง
- ประหยัดเวลาในการบริหารจัดการ
ข้อเสีย:
- ผู้ลงโฆษณาควบคุมงบต่อ Ad Set ได้ยาก
- หากมีการทดสอบ Audience/Creative ใหม่ อาจโดนระบบตัดงบเร็วเกินไป
แล้วควรเลือกใช้ ABO หรือ CBO?
การเลือกขึ้นอยู่กับ เป้าหมายและสถานการณ์การยิงโฆษณา:
- ใช้ ABO → เมื่อคุณมีกลุ่มลูกค้าที่คุณมั่นใจว่าในโลกออฟไลน์ ลูกค้าที่เดินเข้าหน้าร้านของคุณ เป็นคนกลุ่มนี้ ประเภทนี้
- ใช้ CBO → เมื่อคุณยังไม่เจอกลุ่มลูกค้าที่ชัดเจน และ ต้องการให้ Facebook ตามหากลุ่มลูกค้าที่ให้ Conversion ที่ดีสุดที่สุด
📊 บทสรุป
การทำ Facebook Ads ให้คุ้มค่าที่สุด ไม่ใช่แค่ใส่เงินลงไปมาก ๆ แต่คือ การรู้จักเลือกวิธีจัดการงบ (Budget Optimization) ให้เหมาะกับสถานการณ์ ไม่มีวิธีไหนดีกว่ากันขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเป้าหมายทางธุรกิจ เมื่อผสมผสานสองวิธีเข้าด้วยกัน คุณจะได้ทั้ง Data ที่แม่นยำและ Conversion ที่คุ้มค่ากับทุกบาทที่ลงทุน
ถ้าอยากสร้าง Facebook Campaign แบบเห็นผล พร้อมได้เทคนิค Insight จากประสบการณ์เอเจนซี่ชั้นนำ สามารถมาเรียนกับเรา ANGA Mastery!
คอร์สเรียน Essential Facebook Ads เปิดแล้ว!
พิเศษ! สิทธิ์ Early Bird จ่ายเพียง 8,900 (จาก 12,900 บาท)
>> หากคุณยังไม่พร้อมตัดสินใจ สามารถปรึกษาเราหรือ <<
จองสิทธิ์ Early Bird ฟรี! ที่ LineOA: @angamastery
วันที่: 29 พฤศจิกายน 2568 เวลา: 9.00 – 16.00 น. สถานที่: Dusit Central Park Offices
ลงทะเบียนเรียนและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
LineOA : @angamastery