รู้หรือไม่ว่า Chrome Extensions และ Plugins เหล่านี้ คือเคล็ดลับความสำเร็จของนักการตลาดมืออาชีพ! มาดูกันว่า 15 ตัวเด็ดที่ Marketing Agency เขาใช้กันมีอะไรบ้าง การทำการตลาดออนไลน์ให้ประสบความสำเร็จในยุคนี้ ไม่ใช่แค่การโพสต์คอนเทนต์สวยๆ หรือยิงแอดอย่างเดียวอีกต่อไป แต่ต้องอาศัย digital marketing tools และเทคนิคต่างๆ เข้ามาร่วมด้วย แต่ปัญหาคือ มีเครื่องมือมากมายเหลือเกินจนเลือกไม่ถูก แล้วนักการตลาดมืออาชีพเขาใช้ตัวช่วยอะไรกันบ้างล่ะ?
Table of Contents
บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึก 15 Marketing Chrome Extensions และ Plugins ที่เหล่า Marketing Agency ชั้นนำใช้งานจริง! ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์คู่แข่ง, ลงมือทำ SEO, การปรับปรุง Website, หรือแม้กระทั่งการยิงโฆษณาบน Facebook หรือ Google รับรองว่า Extensions และ Plugins เหล่านี้จะช่วยยกระดับงานการตลาดของคุณไปอีกขั้น พร้อมเผยเคล็ดลับการใช้งาน digital tools แบบมือโปรที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน! เตรียมตัวพบกับตัวช่วยที่จะทำให้การทำงานการตลาดของคุณง่ายขึ้น รวดเร็วขึ้น และมีประสิทธิภาพมากขึ้นกว่าที่เคย!

เครื่องมือ Digital Marketing Tools สาย SEO
1. SEO Meta in One Click

เป็น Chrome Extension ที่นิยมในเหล่า SEO Specialist ในการตรวจ On-page SEO โดยเฉพาะ
ฟีเจอร์สำคัญ:
- แสดง meta title, meta description และ meta keyword
- วิเคราะห์โครงสร้าง heading (H1-H6)
- ตรวจสอบ canonical URL และ hreflang
- แสดงชื่อผู้แต่ง
- แสดง alt text ของรูปภาพทั้งหมด
- วิเคราะห์ความยาวของเนื้อหาและจำนวนคำ
- ตรวจสอบ sitemap และ robot.txt
ข้อจำกัด
- เน้นเฉพาะข้อมูล โดยไม่มีคำแนะนำเชิงลึกเกี่ยวกับการปรับปรุง
2. Ahrefs tool bar

เครื่องมือจาก Ahrefs ที่ช่วยให้ทำ SEO ง่ายขึ้นในเฉพาะของการทำ SEO Strategy, Keyword Research และ Off page SEO เช่น Domain Rating (DR), URL Rating (UR), Backlinks, คำหลักที่ติดอันดับ ฯลฯ โดยไม่ต้องเข้าเว็บ Ahrefs เหมาะกับการวิเคราะห์คู่แข่งและโอกาสทำอันดับ
ฟีเจอร์สำคัญ:
- แสดง keyword idea ที่ผู้คนค้นหา
- ส่อง Top Pages ของเว็บไซต์คู่แข่ง
- ตรวจสอบจำนวนและคุณภาพ Backlink
- ประเมินค่า domain rating
- ตรวจสอบ Schema Markup ของแต่ละเว็บไซต์
ข้อจำกัด
- เข้าถึงได้เพียงบางฟีเจอร์ในเวอร์ชั่นฟรี
3. Keyword Surfer

ส่วนขยายที่ช่วยให้คุณเห็นปริมาณการค้นหา (Search Volume) ของคีย์เวิร์ดโดยตรงใน Google Search พร้อมทั้งแสดงข้อมูลเกี่ยวกับ CPC, คำหลักที่เกี่ยวข้อง และโครงสร้างของหน้าเว็บที่ติดอันดับ เหมาะกับการวิจัยคีย์เวิร์ด
4. GMBSpy

เป็นอีกหนึ่ง Chrome Extension ที่โดดเด่นในปี 2025 เนื่องจากการทำ SEO บน Google My Business เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นในประเทศไทย GMBSpy สามารถตรวจสอบได้ว่าแต่ละเว็บไซต์ลงทะเบียนกับ Google ว่า เป็นเว็บไซต์ประเภทใด เช่น สถานพยาบาล, โรงเรียน, หรือ เอเจนซี่ ซึ่งเราสามารถดู Category ของแต่ละเว็บไซต์ได้บน Google Map เมื่อเริ่มต้นใช้งาน Chrome Extension นี้
5. GSC Guardian

เครื่องมือที่ช่วยดูแลและตรวจสอบข้อมูลใน Google Search Console (GSC) ให้กับเจ้าของเว็บไซต์ นักการตลาด หรือ SEO Specialist โดยเฉพาะ มีข้อดีหลักๆคือ เราสามารถดูข้อมูลใน GSC ได้ว่า Google Algoritm มีการอัพเดทตอนไหน และ การอัพเดทนั้น ส่งผลต่อ performance ของเว็บไซต์เราอย่างไรในแง่ของ click, impression, ctr, และ ranking
เครื่องมือ Digital Marketing Tools สาย Website
1. Wappalyzer

ช่วยส่องเทคโนโลยีที่เว็บไซต์ใช้ในการพัฒนาได้ละเอียด ไม่ว่าจะเป็น Content Management System, Data Base, Analytics, CDN, Programming languages, Javascript Library และ อื่น
2. Toggle Javascript

Chrome Extension ที่เอาไว้เปิดปิด Javascript ของเว็บไซต์ เพื่อช่วยตรวจสอบว่าเว็บไซต์ยังคงทำงานได้ดีเมื่อปิด JavaScript สาเหตุที่ต้องตรวจสอบเพราะ Google อ่าน javascript ไม่เก่ง เมื่อมีเว็บไซต์บางประเภทที่ใช้ javascript เป็นหลัก มีโอกาสสูงที่ Google จะอ่านไม่เข้าใจ ส่งผลให้เว็บไซต์ไม่สามารถถูกไป Index และ Rank ได้สูงบน Google
3. Lighthouse

Lighthouse สามารถตรวจสอบค่า Core Web Vitals หรือก็คือประสิทธิภาพการทำงานของเว็บไซต์ทั้งในรูปแบบ Desktop และ Mobile ในสายตาของ Google ได้ ยิ่งมีค่าคะแนน Core Web Vitals สูง, Google ยิ่งกล้าที่จะหยิบเว็บเราไปแสดงผลในอันดับสูง
4. Redirect Path

แสดง HTTP status code และการ redirect ทั้งหมดที่เกิดขึ้นเมื่อเข้าถึงเว็บไซต์ URL ใด URL นึง เช่น https://anga.co.th/blog มีการ 301 redirect เข้า https://anga.co.th/blog/
5. WhatFont

ส่อง Font ที่แต่ละเว็บไซต์ใช้ พร้อมระบุ color code, style, weight, size, และ line height ที่เว็บไซต์ใช้ได้อย่างรวดเร็วเพียง 1 คลิ๊ก
เครื่องมือสำหรับ Paid Media ที่เอเจนซี่ใช้งาน
1. Meta Pixel Helper

ตรวจสอบ Meta Pixel Events ที่เกิดขึ้นบนเว็บไซต์ เช่น page_view, add_to_cart, subscribe_button, และ อื่นๆ เพื่อเป็นการตรวจสอบว่าเว็บไซต์นี้ติด Tracking อะไรบ้าง และ ส่ง event ใดขึ้น Meta บ้าง
2. Tag Assistant

ตรวจสอบ Google Tag ที่อยู่บนเว็บไซต์ ไม่ว่าจะเป็น Google Tag หรือ Google Analytics บางเว็บไซต์หาก Tracking มีปัญหา อาจจะเป็นเพราะมีการติด Tracking ซ้ำซ้อน
3. GA Debug

ตรวจสอบว่า Tracking ที่ติดตั้งบนเว็บไซต์และส่งขึ้น Google Analytics มีการส่งขึ้นอย่างสมบูรณ์แบบหรือไม่
4. GTM Fixer

Chrome Extension น้องใหม่ที่พึ่งถูกสร้างขึ้นในปี 2025 ช่วยให้การติด Tag ใน Google Tag Manager เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น เช่น มีฟีเจอร์ Search Boxes เพื่อให้ค้นหาหรือฟิลเตอร์ tag ตามประเภทได้ง่ายยิ่งขึ้น อีกทั้งยังมีฟีเจอร์ Tag Error Highlighter in Preview ซึ่งคือการแจ้งเตือนว่า Tag ที่คุณสร้างขึ้นมาผิดพลาดอย่างไร และ สุดท้าย คือ Event Name Checker หรือก็คือ เป็นตัวช่วยในการตรวจสอบการตั้งชื่อ event ให้ตรงตาม documentation ของทาง Google
5. GA4 Fixer

เมื่อมี GTM แล้ว พลาดไม่ได้ที่ GA4 เองก็มี Chrome Extension เหมือนกัน ซึ่ง GA4 Fixer เป็นเครื่องมือที่ทำให้ user interface ของ GA4 มีความ user-friendly กับผู้ใช้งานมากยิ่งขึ้น เช่น การคำนวณ %total ของ report ทั้งหมด, การทำ sticky header และ การสร้างระบบ copy and paste เพียงการลากคลุมที่ตัวเลข