แจก 10 โปรแกรมหา Keyword ฟรี ใช้ทำ SEO ให้ติดอันดับในปี 2025

By Rachavit Whangpatanathon I MD at ANGA Group

19 MAY 25

28

33.webp

การหาคีย์เวิร์ด (Keyword) หรือ Keyword Research เป็นกระบวนการเริ่มต้นของการทำ SEO (Search Engine Optimization) ที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะจะช่วยให้คุณค้นพบคีย์เวิร์ดหรือคำค้นหาที่กลุ่มเป้าหมายใช้ในการค้นหาจริง และเมื่อคุณนำคีย์เวิร์ดเหล่านั้นมาปรับแต่งบนเว็บไซต์หรือใช้ในการเขียนบทความ SEO ล่ะก็ โอกาสที่กลุ่มเป้าหมายจะเจอกับเว็บไซต์คุณก็จะง่ายขึ้น นำไปสู่การเพิ่ม Organic Traffic และ Conversion Rate อย่างต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งการทำ Keyword Research ที่มีประสิทธิภาพ จะต้องอาศัยโปรแกรมเข้ามาช่วย เพื่อให้คุณทราบว่าแต่ละคำมี Search Volume (ปริมาณการค้นหาโดยเฉลี่ย) อยู่ที่เท่าไหร่ มี Search Intent (เจตนาในการค้นหา) แบบไหน และควรนำมาทำ SEO หรือเปล่า? ใครที่กำลังตามหาตัวช่วยอยู่ล่ะก็ วันนี้ ANGA Mastery ได้เอาโปรแกรมหา Keyword ฟรีมาฝากกัน

1. Google Keyword Planner

Google Keyword Planner คือโปรแกรมหา Keyword ฟรี จาก Google โดยคุณสามารถค้นพบคีย์เวิร์ดที่ต้องการหรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องได้อย่างง่ายดาย พร้อมเช็กได้ว่าแต่ละคำมี Search volume เท่าไหร่ และถ้าอยากได้คีย์เวิร์ดใหม่ ๆ มาทำ SEO ก็สามารถใช้ Google Keyword Planner ค้นหาคีย์เวิร์ดจากเว็บไซต์หรือหน้าเว็บที่ต้องการได้ว่า URL เหล่านั้นติดอันดับด้วยคีย์เวิร์ดคำไหนบ้าง ทั้งนี้ โปรแกรมหา Keyword ฟรีตัวนี้จะมีข้อจำกัดอยู่บ้าง ถ้าบัญชีของคุณมีการลงโฆษณา Google Ads ร่วมด้วย ถึงจะสามารถดู Search Volume ได้อย่างแม่นยำ แต่ถ้าไม่ได้ยิงแอดระบบจะแสดงจำนวนการค้นหาแบบโดยประมาณ เช่น 100 - 1,000 เป็นต้น

2. Google Search Console

Google Search Console หรือ GSC เป็นอีกหนึ่งเว็บหา Keyword ฟรี ที่เปิดให้บริการโดย Google หลัก ๆ แล้ว GSC จะถูกใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเว็บไซต์ ทำให้คุณเห็นว่าผู้คนค้นหาเว็บคุณด้วยคำอะไร, แต่ละคำได้รับการแสดงผลและคลิกกี่ครั้ง, ตำแหน่งเฉลี่ยของเว็บคุณบนผลการค้นหาอยู่ที่เท่าไหร่ ฯลฯ ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณรู้จักเว็บไซต์ตัวเองดีขึ้น และยังสามารถค้นพบคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ ได้ด้วย แต่ GSC จะไม่ระบุ Search Volume ให้ คุณจึงต้องนำคีย์เวิร์ดที่สนใจไปค้นหา Search Volume บนโปรแกรมอื่นอย่าง Google Keyword Planner แทน

3. Google Trends

Google Trends เป็นเครื่องมือหา Keyword ฟรีที่ช่วยให้คุณดูแนวโน้มความนิยมของคีย์เวิร์ดตามช่วงเวลาต่าง ๆ ได้ ทำให้รู้ว่าคำค้นหาไหนกำลังมาแรง สามารถใช้งานได้ง่าย ๆ โดยเข้าไปที่ trends.google.com พิมพ์คีย์เวิร์ดที่สนใจ จากนั้นระบบจะแสดงกราฟความนิยมย้อนหลังพร้อมเปรียบเทียบได้สูงสุด 5 คำ นอกจากนี้ยังบอกความนิยมตามภูมิภาคและช่วงเวลาด้วย เช่น คำไหนมีคนค้นหามากในช่วงเทศกาล หรือนิยมในจังหวัดไหนเป็นพิเศษ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้คุณวางแผนคอนเทนต์ได้ตรงจุดและรู้ว่าควรใช้คีย์เวิร์ดไหนในช่วงเวลาใดจึงจะได้ผลดีที่สุด

4. SEMrush

SEMrush โปรแกรมหา Keyword ฟรีที่ได้รับความนิยมสูง เนื่องจากมีฟีเจอร์เด่นอย่างการวิเคราะห์คู่แข่ง คุณสามารถดูได้ว่าเว็บคู่แข่งติดอันดับด้วยคีย์เวิร์ดอะไร แต่ละคีย์เวิร์ดมีคนค้นหาเท่าไรต่อเดือน และแข่งขันยากแค่ไหน คุณสามารถค้นหาคีย์เวิร์ดได้โดยเข้าไปที่ Keyword Magic Tool แล้วพิมพ์คีย์เวิร์ดตั้งต้นที่ต้องการ จากนั้นระบบก็จะแสดงคำที่เกี่ยวข้องมาให้ นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์ Keyword Gap สำหรับเปรียบเทียบคีย์เวิร์ดระหว่างเว็บไซต์ของคุณกับคู่แข่งอีกด้วย

5. Ubersuggest

Ubersuggest อีกหนึ่งโปรแกรมหา Keyword ฟรีที่พัฒนาโดย Neil Patel สามารถค้นหาคีย์เวิร์ดได้ฟรี 3 ครั้งต่อวัน และสามารถใส่คีย์เวิร์ดได้ 3 คำ/ครั้ง นอกจากจะแนะนำไอเดียคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ แล้ว ยังระบุปริมาณการค้นหาต่อเดือน และระดับความยากในการแข่งขันสำหรับทำ SEO ของคีย์เวิร์ดนั้น ๆ ให้ด้วย พร้อมราคาโฆษณาต่อคลิก สำหรับผู้ที่ต้องการหาคีย์เวิร์ดไปใช้ในการทำโฆษณา Google Ads

6. Ahrefs

Ahrefs มีทั้งเวอร์ชันฟรีและแบบเสียเงิน คุณสามารถหา Keyword ฟรีได้โดยเข้าไปที่ฟีเจอร์ Keyword Generator พร้อมแสดงข้อมูลปริมาณการค้นหาต่อเดือนและความยากในการแข่งขันให้ทราบ นอกจากนี้ Ahrefs ยังมีความสามารถอื่น ๆ ที่ครอบคลุมการทำ SEO แบบครบวงจรด้วย ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์เว็บไซต์  ตรวจสอบ Backlink หรือวิเคราะห์คู่แข่งก็ตาม

7. KWFinder

KWFinder เครื่องมือหา Keyword จาก Mangools มีจุดเด่นด้านการใช้ในการค้นหา Long Tail Keyword ที่มีการแข่งขันไม่สูงนัก รองรับการค้นหาคีย์เวิร์ดในหลาย ๆ ภาษา รวมถึงคีย์เวิร์ดภาษาไทยด้วย ใครที่สนใจก็สามารถเข้าไปใช้งานได้ฟรีผ่านเว็บไซต์ โดยตัวคีย์เวิร์ดจะมาพร้อมปริมาณคำค้นหา ระดับความยาก และราคาโฆษณาต่อคลิกเช่นกัน 

8. Wordtracker Scout

Wordtracker Scout เป็นส่วนขยายของ Google Chrome ที่ช่วยวิเคราะห์คีย์เวิร์ดจากเว็บไซต์ที่คุณกำลังเปิดอยู่ เครื่องมือนี้จะสแกนเนื้อหาบนหน้าเว็บและแสดงคีย์เวิร์ดสำคัญในรูปแบบเวิร์ดคลาวด์ ทำให้คุณสามารถวิเคราะห์คีย์เวิร์ดที่คู่แข่งใช้ได้ หรือหาไอเดียคีย์เวิร์ดใหม่ ๆ จากเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจคุณ เครื่องมือนี้ใช้งานง่าย เพียงคลิกที่ไอคอนบนเบราว์เซอร์ขณะดูเว็บไซต์ แล้วระบบจะวิเคราะห์ให้ทันที เหมาะสำหรับนักการตลาดที่ต้องการวิเคราะห์คู่แข่งอย่างรวดเร็วหรือหาคีย์เวิร์ดที่มีศักยภาพจากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ

9. Moz

Moz สามารถใช้หาคีย์เวิร์ดได้ผ่านฟีเจอร์ Keyword Explorer ที่แสดงทั้งปริมาณการค้นหา ความยากในการแข่งขัน และอัตราการคลิกของแต่ละคีย์เวิร์ด พร้อมคะแนน Priority Score ที่ช่วยเลือกคีย์เวิร์ดที่น่าใช้ที่สุด นอกจากนี้ยังวิเคราะห์เจตนาของผู้ค้นหาว่าต้องการข้อมูล อยากซื้อของ หรือทำธุรกรรม ทำให้คุณสามารถสร้างเนื้อหาได้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย และช่วยคัดกรองคีย์เวิร์ดที่ไม่เกี่ยวข้องออกไป จุดเด่นของ Moz คือฐานข้อมูลคีย์เวิร์ดที่ครอบคลุมและค่า Domain Authority ที่เป็นมาตรฐานในวงการ SEO คุณสามารถเริ่มใช้งานเวอร์ชันฟรีได้ทันที

10. Keywordtool.io

Keywordtool.io เว็บหา Keyword ฟรีที่ใช้งานง่าย เพียงพิมพ์คีย์เวิร์ดที่สนใจลงในช่องค้นหา ระบบจะแสดงรายการคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องทันที จุดเด่นของเครื่องมือนี้คือช่วยค้นหา Long-tail Keyword ได้เป็นอย่างดี สำหรับเวอร์ชันฟรีจะมีข้อจำกัดตรงที่ระบบจะไม่แสดงปริมาณการค้นหาและระดับการแข่งขัน รวมถึงคุณต้องสมัครสมาชิกกับเว็บไซต์นี้ก่อนจึงจะใช้งานได้

สรุป

ไม่จำเป็นต้องพึ่งบริษัทรับทำ SEO หรือการลงคอร์สเรียน SEO เสมอไป คุณสามารถหา Keyword ฟรี ง่าย ๆ ด้วยตัวเองได้แล้ว โดยโปรแกรมหา Keyword ฟรีทั้ง 10 ตัวที่เราเอามาฝากกันนี้ มีทั้งโปรแกรมที่ใช้งานได้แบบฟรี ๆ ในระยะยาวและโปรแกรมที่เปิดให้ทดลองใช้ฟรีแบบจำกัดครั้งด้วย หากธุรกิจของคุณมีการทำโฆษณา Google Ads อยู่แล้ว แนะนำให้ใช้ Google Keyword Planner เลย เพราะทั้งฟรีและ Search Volume ที่ได้ก็แม่นยำด้วย แต่ถ้าคุณไม่ได้ทำโฆษณาล่ะก็ อาจจะใช้เว็บหา Keyword ฟรีหลาย ๆ เว็บ เพื่อเปรียบเทียบหาเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ที่สุด แล้วค่อยตัดสินใจซื้อแพ็กเกจพรีเมียมเพื่อใช้ในระยะยาวก็ได้เช่นกัน

ANGA Mastery คอร์สเรียนการตลาดโดยตรงจาก Agency สอนจากประสบการณ์และ Insight เชิงลึก เปิดสอนทั้งคอร์สเรียน SEO, คอร์สสอน Google Ads, คอร์สเรียน Google Analytics 4, คอร์สเรียน Facebook Ads และอื่น ๆ ทั้ง Public Training และ In-house Training

Related News

Yoast SEO เครื่องมือปรับแต่ง SEO บน WordPress

รู้จัก Yoast SEO คืออะไร เครื่องมือช่วยปรับแต่ง SEO ยอดนิยมบนเว็บไซต์ WordPress พร้อมเช็กลิสต์ใช้ตรวจสอบโครงสร้างเนื้อหา ไต่อันดับสูงบน Google

DuckDuckGo คืออะไร เครื่องมือค้นหาที่ถูกมองว่า “ปลอดภัย” ที่สุด

ค้นหาข้อมูลอย่างปลอดภัยด้วย DuckDuckGo คือ Search Engine ที่ให้ความสำคัญกับความสำคัญของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ ไม่มีการเก็บประวัติ ไร้การยิงแอดติดตาม

แจกตัวอย่าง PDCA ในการทํางาน (Plan-Do-Check-Act)

เรียนรู้ PDCA คืออะไร มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร พร้อมตัวอย่าง PDCA ในการทำงานจริงของเอเจนซี่ SEO ร้านอาหาร และโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่เห็นผลจริง

Yoast SEO เครื่องมือปรับแต่ง SEO บน WordPress

รู้จัก Yoast SEO คืออะไร เครื่องมือช่วยปรับแต่ง SEO ยอดนิยมบนเว็บไซต์ WordPress พร้อมเช็กลิสต์ใช้ตรวจสอบโครงสร้างเนื้อหา ไต่อันดับสูงบน Google

DuckDuckGo คืออะไร เครื่องมือค้นหาที่ถูกมองว่า “ปลอดภัย” ที่สุด

ค้นหาข้อมูลอย่างปลอดภัยด้วย DuckDuckGo คือ Search Engine ที่ให้ความสำคัญกับความสำคัญของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ ไม่มีการเก็บประวัติ ไร้การยิงแอดติดตาม

แจกตัวอย่าง PDCA ในการทํางาน (Plan-Do-Check-Act)

เรียนรู้ PDCA คืออะไร มีประโยชน์ต่อธุรกิจอย่างไร พร้อมตัวอย่าง PDCA ในการทำงานจริงของเอเจนซี่ SEO ร้านอาหาร และโรงงานผลิตเสื้อผ้าที่เห็นผลจริง

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ