Google My Business คือเครื่องมือสำคัญ ที่ทุกธุรกิจห้ามพลาด

ANGA Mastery

30 OCTOBER 24

336

no.19.webp

Google My Business คือเครื่องมือสำคัญ ที่ทุกธุรกิจห้ามพลาด

เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ ไม่ว่าใครก็ต้องหันมาพึ่งพาการทำการตลาดออนไลน์กันทั้งนั้น เพราะเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือข้อมูลบนโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักและเติบโตได้เร็วกว่าธุรกิจที่ไม่มีข้อมูลบนโลกออนไลน์เลย ยิ่งธุรกิจใดมีการปักหมุดแผนที่ลงไปใน Google Maps และใส่ข้อมูลรายละเอียดของธุรกิจอย่างครบครันด้วยล่ะก็ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ในวันนี้ ANGA Mastery จะมาแนะนำให้คุณรู้จักว่า Google My Business คืออะไร บอกได้เลยว่าสิ่งนี้ช่วยธุรกิจของคุณได้มาก ทั้งธุรกิจที่มีหน้าร้านก็ดี หรือธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านก็ตาม อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการทำ SEO พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ Local SEO ให้กับธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

Google My Business คืออะไร

Google My Business คือเครื่องมือฟรีจาก Google ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจทุกประเภทและธุรกิจทุกขนาด โดยเฉพาะกับธุรกิจท้องถิ่น (ธุรกิจที่อยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ อย่างร้านข้าวมันไก่แถวบ้านคุณ หรือร้านขายวัสดุก่อสร้างในจังหวัดขอนแก่น) เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจ จากการมีตัวตนบน Google Search (เครื่องมือค้นหาที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดในโลก) ผ่านบริการ Google My Business ซึ่งสามารถเรียกสั้น ๆ ได้ว่า GMB และในปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น Google Business Profile แล้ว

 

ANGA Google My Business .png

 

จุดเด่นของ Google My Business และฟีเจอร์การใช้งาน

  • Google My Business เปิดให้ใช้บริการฟรี ไม่เสียค่าใช้จ่าย
  • ฟีเจอร์รีวิวให้ดาวและแสดงความคิดเห็นสำหรับธุรกิจ
  • การเพิ่มข้อมูลและรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจ อาทิ ชื่อ เบอร์โทรศัพท์ สถานที่ตั้ง เว็บไซต์ อีเมล วันเวลาในการเปิดทำการ ฯลฯ
  • สามารถเพิ่มรูปภาพของธุรกิจ รวมถึงสินค้าและบริการลงไปใน Google My Business ได้
  • สามารถโพสต์ข่าวสารและอัปเดตข้อมูลของธุรกิจได้ตลอดเวลา
  • ปักหมุดแผนที่ตั้งของร้านหรือธุรกิจบน Google Maps 

 

ประโยชน์ของการทำ Google My Business

Google My Business คือเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการสร้างโอกาสในการเติบโตให้แก่ธุรกิจบนโลกออนไลน์ และนี่คือประโยชน์ของ Google My Business ที่เราสรุปมาให้แล้ว เพิ่มโอกาสในการทำให้ธุรกิจถูกมองเห็นและเป็นที่รู้จัก จากการที่ผู้บริโภคค้นหาสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ

  • ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ เพราะโปรไฟล์ธุรกิจที่มีข้อมูล รูปภาพ และรีวิวจากลูกค้าครบถ้วน เหมือนได้รับการการันตี ซึ่งจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจได้เป็นอย่างดี
  • สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก เกี่ยวกับพฤติกรรมการค้นหาธุรกิจของลูกค้าได้
  • ช่วยดันอันดับ SEO บน Google SERPs (หน้าแสดงผลการค้นหาของ Google)

 

วิธีสมัครใช้งาน Google My Business 

การสมัครใช้งาน Google My Business เป็นขั้นตอนสำคัญในการสร้างตัวตนให้กับธุรกิจของคุณบนแพลตฟอร์มของ Google ซึ่งสมัครง่ายมากและไม่ยุ่งยากเลย แถมยังไม่มีค่าใช้จ่ายอีกด้วย แต่ก็อาจจะต้องใส่ใจเรื่องความถูกต้องของข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจของคุณสักนิดนึง เพื่อยืนว่าธุรกิจของคุณมีตัวตนอยู่จริง ๆ การสมัคร Google My Business ในวันนี้จะส่งผลดีต่อธุรกิจของคุณบน Google Search และ Google Maps อย่างแน่นอน

  1. เข้าไปที่ https://www.google.com/business/ และคลิก "จัดการเลย" หรือ "เริ่มต้นใช้งาน"
  2. ลงชื่อเข้าใช้ด้วยบัญชี Google หรือ Gmail ของคุณ
  3. กรอกชื่อธุรกิจของคุณ หรือคำอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับธุรกิจ > คลิก “ดำเนินการต่อ”
  4. เลือกประเภทธุรกิจที่เหมาะสมที่สุดกับกิจการของคุณ (ค้าปลีกออนไลน์, ร้านค้าในพื้นที่,  ธุรกิจบริการ)
  5. ป้อนหมวดหมู่ธุรกิจและระบุที่อยู่ของธุรกิจให้ครบถ้วนและถูกต้อง
  6. ปักหมุดที่ตั้งธุรกิจของคุณบนแผนที่ Google ให้แม่นยำ
  7. เพิ่มข้อมูลการติดต่อ เช่น หมายเลขโทรศัพท์ เว็บไซต์ และอีเมลลงไป
  8. ระบุพื้นที่ให้บริการ หากธุรกิจของคุณให้บริการนอกสถานที่หรือจัดส่งสินค้า
  9. เลือกวิธียืนยันธุรกิจ ซึ่งอาจเป็นทางโทรศัพท์ อีเมล หรือไปรษณีย์
  10. ตรวจสอบและยืนยันข้อมูลทั้งหมดอีกครั้งก่อนบันทึก

 

บทสรุป

Google My Business คือเครื่องมือสำคัญที่คุณควรสมัครเข้าไปใช้งานให้เร็วที่สุด เพราะ Google My Business จะเพิ่มโอกาสในการทำให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักมากขึ้น และถ้าคุณเป็นธุรกิจที่มีหน้าร้าน เหล่ากลุ่มเป้าหมายก็จะเดินทางมาร้านของคุณได้ง่าย ๆ ผ่านที่ตั้งที่คุณได้ปักหมุดไว้ ซึ่งจะนำไปสู่ยอดขายของธุรกิจ นอกเหนือจากการใช้งาน Google My Business แล้ว เรายังอยากให้คุณทำการตลาดบน Google ด้วยวิธีอื่น ๆ อย่าง Google Ads (การยิงโฆษณา) และ SEO (การปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนหน้าการค้นหา) ร่วมด้วย โดยทั้ง 3 ส่วนดังกล่าวจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่กันนั่นเอง

 

Related News

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ