28 JUNE 24
316
ชีวิตของคนเรามีทั้งขาขึ้นและขาลง บางครั้งทุกอย่างก็ราบรื่นเหมือนโชคช่วย แต่บางครั้งก็มีปัญหาและอุปสรรคมากมายเข้ามาเหมือนกับโดนสวรรค์กลั่นแกล้ง ซึ่งเราสามารถเจอปัญหาได้ในทุก ๆ พาร์ทของชีวิต ไม่ว่าจะเป็นแง่ของการทำงานเอง หรือชีวิตส่วนตัว และความสัมพันธ์กับคนรอบข้างก็ตาม ดังนั้น การมีทักษะการแก้ปัญหา Problem Solving ติดตัวเอาไว้ย่อมเป็นผลดีกับตัวคุณอย่างแน่นอน
ซึ่งในวันนี้ ANGA Mastery จะมาอธิบายให้คุณทราบว่า Critical Thinking and Problem Solving คืออะไร มีความสำคัญและประโยชน์อย่างไร พร้อมกับแนะนำเทคนิค Problem Solving หรือเทคนิคในการแก้ไขปัญหาแบบมืออาชีพให้คุณทราบกัน เมื่ออ่านบทความนี้จบแล้ว คุณก็จะสามารถรับมือปัญหาต่าง ๆ ได้ดีกว่าเดิมและสามารถแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องใช้เวลากลุ้มใจกับมันนานเหมือนก่อนหน้านี้เลย
Critical Thinking and Problem Solving คือทักษะการคิดพิจารณาเพื่อตัดสินใจอย่างมีวิจารณญาณและสามารถหาทางออกในการแก้ปัญหาได้ดีที่สุด ซึ่งเป็นทักษะที่ผสานรวมกันระหว่าง Critical Thinking (การคิดเชิงวิพากษ์ หรือการคิดวิเคราะห์ข้อมูลอย่างมีเหตุผลและที่มาที่ไป) และ Problem Solving (การแก้ไขปัญหาด้วยวิธีที่ดีที่สุด)
โดยเป้าหมายของทักษะ Critical Thinking and Problem Solving คือ
ทำให้คุณเข้าใจปัญหาอย่างลึกซึ้ง สามารถแยกแยะข้อมูลได้ วิเคราะห์ข้อมูลอย่างละเอียด ตีความข้อมูลอย่างมีเหตุผล
ทำให้คุณสามารถวิเคราะห์ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถระบุปัญหาที่แท้จริงหรือต้นตอของปัญหาได้ และเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นในทุกแง่มุม
ทำให้ตัดสินใจได้เป็นอย่างดี เลือกทางที่ดีที่สุด และมีความรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่อาจเกิดขึ้นหลังตัดสินใจไปแล้ว
ทำให้คุณสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือปัญหาใหญ่ก็ตาม
ช่วยให้คุณตัดสินใจสิ่งต่าง ๆ ได้เร็วมากขึ้น
ช่วยให้คุณหาทางออกได้ดีมากกว่าเดิม
สามารถแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี
ช่วยให้คุณใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น ไม่ต้องจมอยู่กับปัญหานาน ๆ
ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาแบบเดิมซ้ำอีก
ช่วยลดข้อผิดพลาดจากการทำงาน
สามารถปัญหาได้ตั้งแต่ต้นเหตุยันปลายเหตุ
ถึงแม้ว่าเราทุกคนจะเจอปัญหาแบบเดียวกัน แต่ด้วยเงื่อนไขต่าง ๆ ของชีวิตและระดับของทักษะ Critical Thinking and Problem Solving ที่แตกต่างกัน ทำให้แต่ละคนมีความคิดและวิธีการแก้ปัญหาแตกต่างกันออกไป บางคนอาจจะถนัดการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในที่ทำงาน แต่บางคนอาจจะถนัดการแก้ไขปัญหาด้านความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลมากกว่า
เพื่อให้คุณสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างเป็นมืออาชีพ มีวิธีวิเคราะห์หาสาเหตุและทางออกอย่างละเอียด เรามาดูเทคนิค Problem Solving ที่ทางแองก้าเอามาฝากกันได้ดีกว่า ซึ่งจะแบ่งออกเป็น 5 ตอน ดังนี้
การระบุปัญหา (Problem Identification) เป็นการกำหนดว่าปัญหาคืออะไร มีความเร่งด่วนในการแก้ไขมากน้อยแค่ไหน สำคัญหรือไม่ มีข้อจำกัดในเรื่องใดหรือเปล่า จากนั้นคุณก็จะสามารถระบุขอบเขตของปัญหาได้ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยการใช้วิธี 5W1H เพื่อรวบรวมข้อมูลเบื้องต้น หรือวิธี Problem Statement Definition เพื่อให้เห็นภาพรวมชัดขึ้นก็ได้
การระบุปัญหาด้วยวิธี 5W1H
What (สิ่งที่เกิดขึ้นคืออะไร)
Who (ใครเกี่ยวข้องในเรื่องนี้บ้าง)
Where (ปัญหาเกิดขึ้นที่ไหน)
When (ช่วงเวลาที่เกิดปัญหาขึ้นคือเมื่อไหร่)
Why (สาเหตุของปัญหานี้มาจากอะไร)
How (วิธีการของปัญหาที่เกิดขึ้น เกิดขึ้นได้อย่างไร)
การระบุปัญหาด้วยวิธี Problem Statement Definition
คุณกำลังแก้ปัญหาให้กับใครและใครเป็นผู้ตัดสินใจในเรื่องนี้
ปัญหาเกิดจากอะไร ทำไมคุณต้องแก้ปัญหานี้
เป้าหมายในการแก้ปัญหาคืออะไร (วัดจากอะไร)
ระยะเวลาที่จะใช้ในการแก้ปัญหา
ปัญหานี้มีความซับซ้อนมากแค่ไหน ต้องเจาะปัญหาลงไปลึกแค่ไหน เพื่อให้แก่ปัญหาได้
กำหนดขอบเขตว่าปัญหาที่ต้องแก้มีอะไรบ้าง อะไรที่ควรแก้และอะไรที่ไม่จำเป็นต้องแก้
หากผู้ที่เกี่ยวข้องกับปัญหานี้มีหลายคน ให้ทุกคนมาระดมสมองกันว่ามีวิธีไหนจะสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้บ้าง โดยให้อิสระในการแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่ เพื่อให้คุณได้มุมมองใหม่ ๆ ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
เมื่อได้ทางเลือกในการแก้ไขปัญหาหรือทางออกแล้ว ให้คุณมาวิเคราะห์ต่อว่าแต่ละทางมีข้อดีข้อเสียอย่างไร ทางออกไหนทำให้คุณได้ประโยชน์มากที่สุด ทางออกไหนมีประสิทธิภาพในระยะยาวมากกว่า หรือทางออกไหนคุ้มค่ามากที่สุด เป็นต้น โดยพิจารณาจาก 3 หลักการนี้
การได้รับประโยชน์สูงสุด (ผลลัพธ์ออกมาในแง่บวก มากกว่าแง่ลบ)
เกิดความพึงพอใจสูงสุด (ทางเลือกที่ทำให้ทุกฝ่ายพึงพอใจกับผลลัพธ์)
มีความเหมาะสมและช่วยแก้ปัญหาหลาย ๆ เรื่องได้ในครั้งเดียว
การแก้ไขปัญหา Problem Solving อย่างมืออาชีพ ไม่ใช่การคิดทางออกได้เมื่อไหร่และรีบแก้ทันที แต่เป็นการวางแผนขั้นตอนการแก้ไขปัญหาอย่างละเอียด รวมทั้งมีแผนสำรองไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินด้วย เพื่อให้ทุกขั้นต่อดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดข้อผิดพลาดน้อยที่สุด
เมื่อได้ทางออกและขั้นตอนการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดสำหรับทุกฝ่ายแล้ว ก็ลงมือแก้ปัญหาไปทีละขั้นตอนทีละเรื่อง โดยให้ความสำคัญกับเรื่องที่จำเป็นและเร่งด่วนก่อน ซึ่งทุกขั้นตอนก็ควรมีการประเมินสถานการณ์ร่วมด้วย ว่าผลลัพธ์จะออกมาดีหรือไม่อย่างไร หากท่าไม่ดีก็ให้เปลี่ยนไปใช้แผนสำรองที่วางเอาไว้แทน
ขอสรุปอีกครั้งว่า Critical Thinking and Problem Solving คือกระบวนการคิด วิเคราะห์ พิจารณา และแก้ไขปัญหาได้ดีที่สุด ซึ่งเทคนิค Problem Solving ที่เราแนะนำได้แก่การระบุปัญหาให้ชัด, การระดมสมองหาทางออก, การวิเคราะห์หาทางเลือกที่ดีที่สุด, การวางแผนอย่างเป็นขั้นเป็นตอน และการลงมือแก้ปัญหา ทุกสิ่งอย่างที่เราได้กล่าวไปในบทความนี้ จะช่วยให้คุณสามารถแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างเป็นมืออาชีพ สามารถรับมือกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นได้เป็นอย่างดี ใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น และมีคุณภาพชีวิตที่ดีมากกว่าเดิม
พัฒนาสกิลที่ถูกต้องสำหรับผู้นำ
ด้านการตลาดออนไลน์
24 NOVEMBER
ASEO (Adaptive Search Engine Optimization) การทำ SEO รูปแบบใหม่ ติดอันดับได้ง่ายและเร็วใน Google และ AI platforms
24 NOVEMBER
24 NOVEMBER
31 OCTOBER
30 OCTOBER
30 OCTOBER
ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ