02 DECEMBER 24
143
การติดอันดับบนหน้าแรกของ Google ไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือโชคช่วย แต่เป็นผลลัพธ์จากการวางกลยุทธ์ SEO อย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งกลยุทธ์ SEO ถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณโดดเด่นและเป็นที่สนใจ ANGA Mastery เข้าใจดีว่าการจะทำให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ บน Google นั้นต้องอาศัยการผสมผสานหลายปัจจัยเข้าด้วยกัน และในบทความนี้เราจะพาคุณไปเจาะลึกถึงกลยุทธ์ที่จะช่วยผลักดันให้เว็บไซต์ของคุณก้าวขึ้นสู่อันดับต้น ๆ บน Google ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
SEO คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับเครื่องมือค้นหาอย่าง Google เพื่อให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ บนหน้าผลการค้นหา ซึ่ง SEO ย่อมาจาก Search Engine Optimization มีจุดเด่นคือการช่วยเพิ่มโอกาสให้กลุ่มเป้าหมายเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้มากขึ้น และการทำ SEO ที่มีประสิทธิภาพนั้นจำเป็นต้องมีการวางกลยุทธ์อย่างรอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นการปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ และการสร้าง Backlink จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ ซึ่งทุกปัจจัยนี้จะส่งผลต่อ AI Overview ให้หยิบเว็บไซต์ของคุณเข้ามาเป็นแหล่งที่มามื่อผู้ใช้งานสอบถามเข้ามา
หัวใจสำคัญของการทำ SEO คือการทำความเข้าใจว่า Google ต้องการอะไร และผู้ใช้งานต้องการอะไร จากนั้นจึงวางกลยุทธ์ SEO ที่ตอบโจทย์ทั้งสองฝ่าย เพราะ Google มีเป้าหมายในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้แก่ผู้ใช้งาน ดังนั้นเว็บไซต์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้ดี ก็มีโอกาสสูงที่จะได้รับการจัดอันดับที่ดีจาก Google เช่นกัน ซึ่งการจะทำเช่นนั้นได้ จำเป็นต้องมีการวางแผนและดำเนินการอย่างเป็นระบบ
การทำ SEO มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ในปัจจุบัน เนื่องจากพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มักจะค้นหาข้อมูลผ่าน Google ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ โดยสถิติพบว่ามีการค้นหาบน Google มากกว่า 3.5 พันล้านครั้งต่อวัน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงโอกาสมหาศาลในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายผ่านการทำ SEO
นอกจากนี้ การทำ SEO ยังเป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า เพราะแม้จะใช้เวลาในการเห็นผลนานกว่าการทำโฆษณาแบบ PPC (Pay Per Click) แต่เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับบน Google แล้ว คุณจะได้รับ Organic Traffic อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายรายวันเหมือนการทำโฆษณา ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มักจะเชื่อถือผลการค้นหาแบบ Organic มากกว่าโฆษณา ส่งผลให้มีโอกาสปิดการขายได้สูงขึ้น
กลยุทธ์ SEO คือแผนการดำเนินงานที่วางไว้อย่างเป็นระบบ เพื่อผลักดันให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google และบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้ โดยกลยุทธ์ที่ดีต้องครอบคลุมทั้งการวิเคราะห์คู่แข่ง การศึกษาพฤติกรรมผู้ใช้งาน การค้นหาคีย์เวิร์ด และการวางแผนพัฒนาเว็บไซต์ในระยะยาว ซึ่งต้องปรับเปลี่ยนให้สอดคล้องกับอัลกอริทึมของ Google ที่มีการอัปเดตอยู่เสมอ
การวางกลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพจำเป็นต้องคำนึงถึงองค์ประกอบหลัก 3 ด้าน คือ Technical SEO (การปรับแต่งเทคนิคเบื้องหลังเว็บไซต์), On-Page SEO (การปรับแต่งเนื้อหาและโครงสร้างภายในเว็บไซต์) และ Off-Page SEO (การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับเว็บไซต์จากปัจจัยภายนอก) ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้ต้องทำงานประสานกันอย่างลงตัวเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
เราได้รวบรวมกลยุทธ์ SEO ที่มีประสิทธิภาพจริงและสอดคล้องกับอัลกอริทึมล่าสุดของ Google มาให้แล้ว มั่นใจได้เลยว่ากลยุทธ์เหล่านี้จะเป็นรากฐานที่ดีในการเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับ SEO และเว็บไซต์ของคุณแน่นอน
จริง ๆ การเลือกคีย์เวิร์ดมาใช้นั้น จะขึ้นอยู่กับเป้าหมายของการทำ SEO ในแต่ช่วงและแต่ละธุรกิจด้วย แต่ก็จะมีกลยุทธ์ในการเลือกคีย์เวิร์ดแบบพื้นฐานอยู่ นั่นก็คือการเลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการ, ต้องมีปริมาณการค้นหา (Search Volume) ไม่น้อยจนเกินไป, ระดับการแข่งขันต้องพอสู้ได้ และดูว่าคีย์เวิร์ดนั้นตรงกับเจตนาของผู้ค้นหาหรือไม่ เพื่อที่คุณจะสามารถสร้างคอนเทนต์ที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้จริง ๆ
การสร้างคอนเทนต์คุณภาพต้องยึดตามหลัก E-E-A-T Factor และ YMYL ของ Google โดยเนื้อหาต้องมาจากประสบการณ์จริงของผู้เขียน มีการแสดงความเชี่ยวชาญ แหล่งที่มามีความน่าเชื่อถือ และสามารถอ้างอิงได้ พร้อมทั้งนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่ายและให้ประโยชน์กับผู้อ่าน
Google ให้ความสำคัญกับประสบการณ์ผู้ใช้งานมากขึ้นเรื่อย ๆ ตั้งแต่ความเร็วในการโหลดเว็บไซต์ไปจนถึงการออกแบบที่ใช้งานง่าย เว็บไซต์ที่มี Bounce Rate ต่ำและผู้ใช้อยู่นานจะส่งสัญญาณบวกให้กับ Google ว่าเป็นเว็บไซต์ที่มีคุณภาพ
การสร้าง Backlink ที่มีคุณภาพยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ แต่ต้องเน้นคุณภาพมากกว่าปริมาณ มุ่งเน้นการได้ลิงก์จากเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือและมีเนื้อหาที่เกี่ยวกับธุรกิจของคุณ ซึ่งการทำ Guest Post คุณภาพสูงหรือการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าจนผู้อื่นต้องการแชร์ต่อเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่สุด
Technical SEO เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เว็บไซต์แข็งแกร่งในสายตา Google การปรับแต่งในส่วนนี้ต้องดูแลตั้งแต่ความเร็วเว็บไซต์ การรองรับการใช้งานบนมือถือ ไปจนถึงความปลอดภัยของเว็บไซต์ ซึ่งล้วนส่งผลต่ออันดับการแสดงผลบน Google ทั้งสิ้น เช่น การแก้ไข 404 Not Found การตรวจสอบสาเหตุ HTTP Error 500 หรือแม้กระทั่งการติด Schema Markup ด้วย Google Tag Manager
การทำ SEO เป็นกระบวนการต่อเนื่องที่ต้องมีการติดตามและปรับปรุงอยู่เสมอ การใช้เครื่องมืออย่าง Google Analytics 4 และ Google Search Console จะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้และประสิทธิภาพของเว็บไซต์ เพื่อนำข้อมูลมาปรับปรุงกลยุทธ์ SEO ให้ดียิ่งขึ้น
บริษัทจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ออนไลน์แห่งหนึ่ง ประสบปัญหาเว็บไซต์ไม่ติดอันดับบน Google และได้รับ Organic Traffic น้อยมาก แม้จะมีสินค้าคุณภาพดีและราคาแข่งขันกับเจ้าอื่นได้ จากการวิเคราะห์พบว่าเว็บไซต์มีปัญหาหลักคือขาดการทำ Technical SEO ที่ดี และเนื้อหาไม่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ จึงมีการวางกลยุทธ์ SEO ใหม่และปรับปรุง ดังนี้
หลังจากดำเนินการตามกลยุทธ์ SEO อย่างต่อเนื่อง 6 เดือน พบการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจน โดย Organic Traffic เพิ่มขึ้นถึง 250% เนื่องจากเว็บไซต์ติดอันดับบนหน้าแรก Google เพิ่มขึ้นถึง 45 คีย์เวิร์ด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับการเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งบ้าน
ที่สำคัญไปกว่านั้น คุณภาพของ Traffic ที่เข้ามายังดีขึ้น สังเกตได้จากอัตราการแปลงผลเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น 180% เนื่องจากผู้ใช้ที่เข้ามามีความตั้งใจซื้อสูง และได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนจากเนื้อหาบนเว็บไซต์ ส่งผลให้ยอดขายออนไลน์เติบโตขึ้น 200% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยไม่ต้องลงทุนในการทำโฆษณาเพิ่มเติม
SEO กับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ และความสำเร็จในการทำ SEO ไม่ได้มาจากการใช้เทคนิคใดเทคนิคหนึ่ง แต่เกิดจากการผสมผสานกลยุทธ์ SEO ที่ครอบคลุมทุกด้านเข้าด้วยกัน ทั้งการปรับแต่งเทคนิค การสร้างคอนเทนต์คุณภาพ และการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ผู้ใช้งาน เมื่อทำอย่างถูกต้องและครบถ้วน เว็บไซต์ของคุณจะไม่เพียงแค่ติดอันดับบน Google เท่านั้น แต่ยังสามารถรักษาตำแหน่งนั้นไว้ได้อย่างยั่งยืน ในปี 2025 การทำ SEO จะเปลี่ยนแนวทางใหม่ไปสู่ ASEO ซึ่งเป็น Framework ที่สามารถทำให้เว็บไซต์ติดอันดับสูงบน Google ได้ง่ายและไวยิ่งขึ้น หากใครอยากเชี่ยวชาญการทำ ASEO ตอนนี้ ANGA Mastery มีเปิดสอน SEO ซึ่งจะมีเนื้อหาเข้มข้นไม่เหมือนที่ไหนเพราะจะเป็นการสอนโดย เอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญด้าน SEO โดยเฉพาะอย่าง ANGA Bangkok
พัฒนาสกิลที่ถูกต้องสำหรับผู้นำ
ด้านการตลาดออนไลน์
4 JANUARY
รวบรวมมาให้แล้วกับ 10 คอร์สเรียน Google Analytic ที่มีคุณภาพและน่าสนใจจากสถาบันชั้นนำในปี 2025 ตอบโจทย์ผู้เรียนทุกระดับ และมีครบทุกรูปแบบการสอน
4 JANUARY
3 JANUARY
3 JANUARY
3 JANUARY
3 JANUARY
ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ