05 AUGUST 25
49
นักการตลาดออนไลน์มักจะรู้จัก Google Analytics 4 กันอยู่แล้ว แต่หลาย ๆ คนกลับไม่รู้จักว่า Google Tag Manager คืออะไร ANGA Mastery ขอบอกเลยว่า Google Tag Manager หรือ GTM คือสิ่งสำคัญ และมีประโยชน์มากกับการติดตามผลลัพธ์จากการรันโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่าง Facebook Ads หรือ Google ที่มีปลายทางเป็นเว็บไซต์ ซึ่งเครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณจัดการแท็กต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย ไม่ต้องใส่โค้ดที่แสนจะยุ่งยาก ก่อนที่จะไปลงคอร์สสอน Google Tag Manager ลองมาทำความรู้จักว่า Tag Manager คืออะไรในบทความนี้ก่อนได้เลย ไม่แน่ว่าคุณอาจจะทำเป็นด้วยตัวเองเลยก็ได้ เพราะเราสอนขั้นตอนการติดตั้งให้ด้วย
Google Tag Manager หรือ GTM คือระบบที่ช่วยให้เราจัดการโค้ดติดตามข้อมูลต่าง ๆ บนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันได้อย่างสะดวก ทำให้ไม่ต้องแก้ไขโค้ดหลักของเว็บไซต์โดยตรงเมื่อต้องการเพิ่มหรือแก้ไขการติดตามผลลัพธ์ ซึ่ง GTM จะทำให้การเพิ่มแท็กต่าง ๆ อย่าง โค้ดสำหรับติดตามการเข้าชมจาก Google Analytics, Facebook Pixel หรือ Google Ads เป็นเรื่องง่าย นักการตลาดออนไลน์สามารถติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้งานและเก็บข้อมูลที่จำเป็นได้โดยไม่ต้องรบกวนนักพัฒนาเว็บไซต์แต่อย่างใด
พูดง่ายๆ คือ Google Tag Manager เป็นเหมือนศูนย์รวมสำหรับการจัดการแท็กการตลาด ช่วยให้คุณติดตั้งและปรับเปลี่ยนแท็กเหล่านี้ได้เอง ทำให้การเก็บข้อมูลเพื่อวิเคราะห์และปรับปรุงแคมเปญการตลาดเป็นไปอย่างราบรื่นนั่นเอง
Google Tag Manager ทำงานโดยอาศัยองค์ประกอบหลักสามส่วนที่จะช่วยให้คุณติดตามและเก็บข้อมูลบนเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่ แท็ก ทริกเกอร์ และตัวแปร โดยมีรายละเอียดดังนี้
แท็ก (Tags) คือโค้ดเล็ก ๆ ที่บอกให้ระบบทำหน้าที่บางอย่าง เช่น การรวบรวมข้อมูลการเข้าชมเว็บไซต์ด้วย Google Analytics หรือการติดตั้ง Facebook Pixel เพื่อติดตามพฤติกรรมของผู้ใช้ แท็กเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถเก็บข้อมูลที่สำคัญสำหรับการทำการตลาดได้
ทริกเกอร์ (Triggers) คือเงื่อนไขที่กำหนดว่าแท็กที่คุณสร้างไว้จะทำงานเมื่อไหร่ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถตั้งค่าให้แท็กทำงานเมื่อมีคนเข้ามาดูหน้าใดหน้าหนึ่งบนเว็บไซต์ เมื่อมีการคลิกปุ่ม หรือเมื่อมีการกรอกแบบฟอร์มสำเร็จ เพราะทริกเกอร์จะทำหน้าที่เหมือนตัวกระตุ้นให้แท็กส่งข้อมูลออกไปตามเงื่อนไขที่คุณตั้งไว้ เพื่อให้คุณได้รับข้อมูลที่ตรงกับวัตถุประสงค์การติดตามของคุณ
ตัวแปร (Variables) คือข้อมูลเพิ่มเติมที่ใช้เสริมการทำงานของแท็กและทริกเกอร์ ช่วยให้การเก็บข้อมูลมีความแม่นยำมากขึ้น ตัวแปรมีทั้งแบบที่ GTM เตรียมไว้ให้ เช่น ข้อมูลการคลิก (Click), หน้าที่ดู (Page) หรือแบบที่คุณสามารถกำหนดขึ้นเองได้ ตัวแปรช่วยให้คุณสามารถระบุข้อมูลเฉพาะเจาะจงที่ต้องการติดตามได้ เช่น ID ของบัญชี Google Analytics หรือ URL ของหน้าเว็บที่ต้องการให้แท็กทำงาน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำและเป็นประโยชน์ต่อการวิเคราะห์ของคุณ
การติดตั้ง Google Tag Manager (GTM) บนเว็บไซต์มีประโยชน์หลายอย่างที่ช่วยให้การบริหารจัดการข้อมูลและการตลาดดิจิทัลของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น
GTM ช่วยให้คุณสามารถติดตั้ง อัปเดต หรือลบแท็กต่าง ๆ ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขโค้ดหลักของเว็บไซต์บ่อยครั้ง ทำให้กระบวนการทำงานรวดเร็วขึ้นและลดความเสี่ยงที่จะเกิดข้อผิดพลาด คุณจึงไม่ต้องพึ่งพานักพัฒนามากนักในการจัดการแท็กเหล่านี้
ด้วย GTM คุณสามารถจัดการแท็กทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการติดตามข้อมูลและการตลาดได้ในแพลตฟอร์มเดียว ไม่ว่าจะเป็นแท็กของ Google Analytics, Facebook Pixel หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ ทำให้การทำงานเป็นระเบียบและสะดวกต่อการตรวจสอบผลลัพธ์
GTM ช่วยให้คุณสามารถติดตามการกระทำของผู้ใช้บนเว็บไซต์ได้อย่างหลากหลาย เช่น การคลิกลิงก์ การกดปุ่ม การส่งแบบฟอร์ม การเพิ่มสินค้าลงตะกร้า หรือแม้แต่การเลื่อนหน้าจอ การเก็บข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมและความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนยิ่งขึ้น
เมื่อใช้งาน GTM ร่วมกับเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลอื่นๆ เช่น Google Analytics คุณจะสามารถมองเห็นภาพรวมของ Customer Journey และประสิทธิภาพของการทำการตลาดดิจิทัลได้อย่างแม่นยำ ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการปรับปรุงกลยุทธ์และแคมเปญต่าง ๆ ให้ดียิ่งขึ้น
GTM เป็นเครื่องมือที่ใช้งานได้ฟรี ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจ้างนักพัฒนามาแก้ไขโค้ดเว็บไซต์บ่อย ๆ นอกจากนี้ การจัดการแท็กที่ง่ายและรวดเร็วยังช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน ทำให้คุณสามารถมุ่งเน้นไปที่การวิเคราะห์และวางแผนการตลาดได้มากขึ้น
Google Tag Manager ทำงานโดยการเป็นตัวกลางในการจัดการโค้ดติดตามข้อมูลต่าง ๆ บนเว็บไซต์ของคุณ แทนที่จะต้องฝังโค้ดเหล่านั้นลงในเว็บไซต์โดยตรง คุณเพียงแค่ติดตั้งโค้ดของ GTM เพียงครั้งเดีย; เมื่อผู้ใช้งานทำกิจกรรมบางอย่างบนเว็บไซต์ เช่น คลิกที่ลิงก์หรือโหลดหน้าเว็บ GTM จะทำหน้าที่เรียกใช้แท็กที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรมนั้น ๆ และส่งข้อมูลออกไปโดยอัตโนมัติ ซึ่งหลักการทำงานนี้ช่วยลดปริมาณโค้ดบนเว็บไซต์โดยรวม ทำให้เว็บไซต์ทำงานได้เร็วขึ้นและลดโอกาสเกิดข้อผิดพลาด นอกจากนี้ GTM ยังทำงานร่วมกับทริกเกอร์และตัวแปร เพื่อให้แน่ใจว่าแท็กจะทำงานในเวลาและเงื่อนไขที่เหมาะสมตามที่คุณต้องการอีกด้วย
การติดตั้ง Google Tag Manager เป็นขั้นตอนสำคัญที่จะช่วยให้คุณจัดการและติดตามข้อมูลบนเว็บไซต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นี่คือวิธีการติดตั้งที่คุณสามารถทำตามได้ง่าย
เริ่มต้นด้วยการเข้าไปที่เว็บไซต์ของ Google Tag Manager แล้วเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Google ของคุณ จากนั้นให้คลิกเพื่อ สร้างบัญชีใหม่ คุณจะต้องตั้งชื่อบัญชีและชื่อคอนเทนเนอร์ ซึ่งมักจะเป็นชื่อโดเมนของเว็บไซต์ และเลือกประเทศที่เกี่ยวข้อง
หลังจากสร้างบัญชีเรียบร้อย ระบบจะแสดงโค้ด GTM ที่คุณต้องนำไปติดตั้งบนเว็บไซต์ โดยปกติแล้ว จะมีโค้ด 2 ส่วนที่คุณต้องนำไปวาง
หากคุณใช้แพลตฟอร์มอย่าง WordPress สามารถติดตั้งผ่านปลั๊กอิน "Google Tag Manager for WordPress" ได้ เพียงแค่คัดลอก GTM ID จากบัญชีของคุณแล้วนำไปวางในช่องที่กำหนดในปลั๊กอิน
เมื่อติดตั้งโค้ดเรียบร้อย คุณสามารถ ตรวจสอบการทำงาน ได้โดยใช้ฟังก์ชัน "Preview" ใน Google Tag Manager หากการเชื่อมต่อสำเร็จ คุณจะเห็นหน้าต่างยืนยันการเชื่อมต่อ
หลังจากมั่นใจว่าทุกอย่างทำงานถูกต้องแล้ว ให้กดปุ่ม "Submit" หรือ "Publish" ใน Google Tag Manager เพื่อเผยแพร่การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดไปยังเว็บไซต์ เท่านี้ GTM ของคุณก็จะพร้อมใช้งานแล้ว
หลังจากรู้แล้วว่า Google Tag Manager คืออะไร จะเห็นได้ว่ามันช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะจริง ๆ ปกติการใส่โค้ดติดตามต่าง ๆ เป็นเรื่องยุ่งยากและต้องพึ่งพาคนอื่น โดยเฉพาะทีม IT หรือ Web Developer แต่ตอนนี้คุณสามารถทำเองได้ในที่เดียว ทั้งโค้ด Google Analytics เพื่อดูสถิติเว็บ โค้ดโฆษณาเฟซบุ๊ก หรือโค้ดอื่น ๆ ที่ต้องการ ถึงแม้จะดูซับซ้อนตอนแรก แต่พอใช้ไปสักพักก็จะชินและรู้สึกว่าไม่อยากกลับไปทำแบบเก่าอีก เพราะสะดวกและควบคุมได้เองหมดนั่นเอง
หากใครสนใจการ Tracking และการอ่านค่า Data บนเว็บไซต์ หรือยังไม่มั่นใจว่าควรเรียน Google Tag Manager ที่ไหนดี คลาสเรียนของ ANGA Mastery เรามีเปิดคลาสสอนสด (Onsite) สอนการใช้งานโปรแกรม Google Tag Manager (GTM) ติด Tracking บน Website ติดตามพฤติกรรมผู้ใช้งาน เพื่อวัดผลการตลาดแบบ data-driven ผ่านคอร์สเรียน Google Tag Manager
หรือหากใครสนใจลงเรียนทั้งแบบแพ็คคู่ สามารถลงทะเบียนคอร์ส Master Website Tracking by GTM and GA4 ได้เลย คอร์สเรียน Onsite เรียน 2 วันเต็ม! สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดคอร์สเรียนได้ที่ LINE OA - ANGA Mastery เพื่อรับสิทธิ์ Early Bird มูลค่า — 21,900-. (จากปกติ 31,900-.) ได้เลย!
พัฒนาสกิลที่ถูกต้องสำหรับผู้นำ
ด้านการตลาดออนไลน์
5 AUGUST
เข้าใจอาชีพครีเอเตอร์คืออะไร? อาชีพยอดนิยมแห่งยุคดิจิทัล พร้อมเจาะลึกบทบาทสำคัญ ทักษะที่ต้องมี และวิธีการสร้างรายได้ของคอนเทนต์ครีเอเตอร์
5 AUGUST
5 AUGUST
5 AUGUST
5 AUGUST
5 AUGUST
ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ