Inbound Marketing คืออะไร กลยุทธ์มัดใจลูกค้าด้วยแรงดึงดูด

By Rachavit Whangpatanathon I MD at ANGA Group

21 APRIL 25

8

in.webp

ทุกวันนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่แยกออกแล้วว่าโพสต์ไหนเป็นโฆษณาบ้าง และในทุก ๆ วันพวกเขาจะเจอโฆษณาเยอะมาก ทำให้ผู้บริโภครู้สึกเหมือนโดนยัดเยียดและเบื่อหน่าย การทำการตลาดแบบ Inbound Marketing จึงเป็นสิ่งที่ผู้บริโภครู้สึกดีด้วยมากกว่า เพราะ Inbound Marketing คือการทำการตลาดแบบดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาแบรนด์เอง ไม่ใช่การที่แบรนด์ยัดเยียดสิ่งต่าง ๆ ไปให้พวกเขา และ Inbound Marketing ก็ช่วยให้ธุรกิจเติบโตขึ้นได้อย่างยั่งยืนและคุ้มค่ามากกว่าด้วย มาทำความรู้จักกับ Inbound Marketing ให้มากขึ้นกับ ANGA Mastery ผ่านบทความนี้ได้เลย

Inbound Marketing คืออะไร

Inbound Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่เน้นการดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาแบรนด์เอง แทนที่จะเป็นแบรนด์ที่เข้าไปรบกวนลูกค้า ด้วยการส่งมอบคอนเทนต์ที่มีคุณค่าและมีประโยชน์ต่อกลุ่มเป้าหมาย ทำให้พวกเขาค้นพบแบรนด์ด้วยความสนใจและความสมัครใจ กลายเป็นการสร้างความสัมพันธ์ที่เริ่มต้นจากความไว้วางใจ ซึ่งต่างจากการตลาดแบบดั้งเดิมที่มักจะยัดเยียดโฆษณาไม่ว่าผู้บริโภคจะสนใจหรือไม่ก็ตาม ซึ่ง Inbound Marketing ถูกคิดค้นโดยบริษัท HubSpot และได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เพราะสอดคล้องกับพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ที่มักจะค้นหาข้อมูลเองก่อนตัดสินใจซื้อ การทำ Inbound Marketing ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้แบรนด์กลายเป็นตัวเลือกแรกในใจลูกค้า เมื่อพวกเขาพร้อมจะซื้อสินค้าหรือบริการ

3 หลักการของ Inbound Marketing 

  1. Attract (ดึงดูด) สร้างคอนเทนต์ที่มีคุณค่าเพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายที่มีโอกาสกลายเป็นลูกค้า ให้เข้ามาสำรวจและรู้จักแบรนด์ผ่านบทความ โซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์
  2. Engage (มีส่วนร่วม) เมื่อกลุ่มเป้าหมายสนใจแล้ว ต้องสร้างการมีส่วนร่วมด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ช่วยแก้ปัญหาของพวกเขาได้จริง ทำให้เกิดความไว้วางใจและเพิ่มโอกาสในการตัดสินใจซื้อ
  3. Delight (ผูกใจ) สร้างความประทับใจต่อเนื่องด้วยการให้บริการที่เหนือความคาดหมาย มีการให้คำปรึกษาที่เป็นประโยชน์ และบริการหลังการขายที่ดี เพื่อให้ลูกค้ากลายเป็นผู้สนับสนุนแบรนด์ในระยะยาว

ดังนั้น การทำ Inbound Marketing จึงเป็นกระบวนการที่ค่อย ๆ เปลี่ยนคนแปลกหน้าให้กลายเป็นผู้เยี่ยมชม จากนั้นพัฒนาเป็นลูกค้า และท้ายที่สุดคือผู้สนับสนุนแบรนด์ที่แข็งแกร่ง ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืนและมีต้นทุนทางการตลาดที่คุ้มค่ากว่าการทำการตลาดแบบดั้งเดิม

Inbound Marketing vs Outbound Marketing ต่างกันอย่างไร

Outbound Marketing คือการทำการตลาดแบบ "แรงผลัก" ที่แบรนด์เป็นฝ่ายรุกเข้าหาลูกค้าเอง โดยส่งสารหรือโฆษณาออกไปยังกลุ่มเป้าหมายในวงกว้าง ไม่ว่าพวกเขาจะพร้อมรับสารนั้นหรือไม่ก็ตาม ลักษณะเด่นคือมักเป็นการสื่อสารทางเดียว และบางครั้งอาจไปขัดจังหวะกิจกรรมที่ผู้รับสารกำลังทำอยู่ จึงเรียกอีกอย่างว่าเป็นการตลาดแบบรบกวน (Interruption Marketing) เช่น โฆษณาทางโทรทัศน์ วิทยุ ป้ายบิลบอร์ด การโทรขายตรง (Cold Call) การส่งอีเมลหรือ SMS โปรโมชั่นไปยังรายชื่อที่ไม่ได้ขอรับข้อมูล รวมถึงการยิงโฆษณาออนไลน์แบบกว้าง ๆ บน Facebook Ads, TikTok Ads, Instagram Ads หรือ Google Ads

  • วิธีการเข้าถึงลูกค้า Outbound เป็นการผลักสารออกไปหากลุ่มเป้าหมาย ในขณะที่ Inbound เป็นการดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาหาแบรนด์เอง
  • การเลือกกลุ่มเป้าหมาย Outbound เน้นการเข้าถึงคนจำนวนมาก (Mass Marketing) ส่วน Inbound จะเจาะจงกลุ่มเป้าหมายที่มีแนวโน้มจะสนใจสินค้าหรือบริการจริง ๆ
  • ความสมัครใจของผู้รับสาร Outbound มักไม่ได้รับความยินยอมจากผู้รับสารก่อน แต่ Inbound จะเป็นแบบขออนุญาต (Permission-Based) โดยผู้รับเลือกที่จะเปิดรับข้อมูลเอง
  • เนื้อหาการสื่อสาร Outbound เน้นพูดถึงตัวสินค้าและการขายโดยตรง ขณะที่ Inbound เน้นการให้ข้อมูลที่มีคุณค่าและแก้ปัญหาให้กลุ่มเป้าหมาย
  • งบประมาณ Outbound มักต้องใช้งบประมาณสูงเพื่อให้เข้าถึงคนจำนวนมาก ส่วน Inbound สามารถเริ่มต้นได้ด้วยงบประมาณที่น้อยกว่า แต่ต้องใช้เวลาและความอดทน
  • ระยะเวลาเห็นผล Outbound ให้ผลลัพธ์เร็วกว่าในระยะสั้น ในขณะที่ Inbound มักใช้เวลานานกว่าแต่ให้ผลยั่งยืนในระยะยาว

Inbound Marketing มีอะไรบ้าง

กลยุทธ์การตลาดแบบ Inbound Marketing สามารถทำได้หลายวิธี และคุณสามารถทำหลาย ๆ วิธีบนหลากหลายช่องทางควบคู่กันไปได้ มาดูกันดีกว่าว่าตัวอย่าง Inbound Marketing ที่น่าสนใจและยังได้ผลดีอยู่ในปี 2025 นั้นมีอะไรบ้าง

1. Content Marketing

Content Marketing คือการสร้างเนื้อหาที่มีคุณค่าและตรงความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เช่น บทความ อินโฟกราฟิก วิดีโอ หรือ e-book เพื่อให้ข้อมูล ช่วยแก้ปัญหา หรือสร้างแรงบันดาลใจ โดยไม่เน้นการขายตรง ๆ  การทำ Content Marketing ที่ดีจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ทำให้คุณกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายตาของกลุ่มเป้าหมาย และเมื่อพวกเขาพร้อมจะซื้อสินค้าหรือบริการ แบรนด์ของคุณก็จะเป็นตัวเลือกแรก ๆ  ที่พวกเขานึกถึง

2. Search Engine Optimization (SEO)

SEO คือการปรับแต่งเว็บไซต์และเนื้อหาให้มีโอกาสติดอันดับสูงในผลการค้นหาของ Google เมื่อผู้ใช้ค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือธุรกิจของคุณ ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของ Inbound Marketing เพราะช่วยให้ลูกค้าที่กำลังค้นหาข้อมูลสามารถพบเจอธุรกิจของคุณได้ในจังหวะที่พวกเขากำลังสนใจจริง ๆ การทำ SEO ครอบคลุมทั้งการทำ Keyword Research การปรับแต่งเว็บไซต์ทั้งด้านเทคนิคและเนื้อหา รวมถึงการสร้างลิงก์จากเว็บไซต์อื่นมายังเว็บของคุณ (Backlink) ด้วย

3. Social Media Marketing

Social Media Marketing คือการใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ในการสร้างการมีส่วนร่วมกับกลุ่มเป้าหมาย แชร์คอนเทนต์ที่มีคุณค่า และสร้างความสัมพันธ์อันดีกับชุมชนออนไลน์ ช่องทางโซเชียลมีเดียเป็นพื้นที่สำคัญที่ช่วยให้แบรนด์สามารถพูดคุยกับลูกค้าได้โดยตรง รับฟังความคิดเห็น ตอบคำถาม และสร้างตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน การมีกลยุทธ์โซเชียลมีเดียที่ดีจะช่วยเพิ่มการเข้าถึง สร้างการรับรู้แบรนด์ และนำทราฟฟิกมาสู่เว็บไซต์ของคุณได้มากขึ้น

4. Email Marketing

Email Marketing คือการส่งข้อมูลที่มีคุณค่าและเกี่ยวข้องไปยังผู้ที่สมัครรับข่าวสารจากคุณ เพื่อสร้างความสัมพันธ์ ให้ข้อมูลเพิ่มเติม และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ อีเมลยังคงเป็นช่องทางที่มีประสิทธิภาพสูงในการทำ Inbound Marketing เพราะเป็นการสื่อสารโดยตรงกับผู้ที่สนใจธุรกิจของคุณแล้ว การส่งอีเมลที่ปรับให้เข้ากับความสนใจและพฤติกรรมของผู้รับแต่ละคน จะช่วยเพิ่มอัตราการเปิดอ่าน การคลิก และการตัดสินใจซื้อได้อย่างมีนัยสำคัญ

5. Lead Generation & Nurturing

Lead Generation เป็นกระบวนการเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นลูกค้าเป้าหมายที่มีข้อมูลติดต่อ ผ่านการนำเสนอคอนเทนต์พิเศษหรือข้อเสนอที่น่าสนใจ เช่น e-book แลกกับอีเมล หลังจากนั้น Lead Nurturing คือการดูแลและให้ข้อมูลที่เหมาะสมกับลูกค้าเป้าหมายแต่ละคน เพื่อค่อย ๆ สร้างความเชื่อมั่นและนำพวกเขาไปสู่การตัดสินใจซื้อ การวางแผน Lead Generation & Nurturing ที่ดีจะช่วยเพิ่มอัตราการแปลงผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นลูกค้า และช่วยให้ธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน

สรุป

ตอนนี้คุณก็คงจะรู้แล้วว่า Inbound Marketing คือวิธีการตลาดที่เน้นดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาเราเอง แทนที่จะไปยัดเยียดขายของให้เขาแบบโต้ง ๆ  โดยการทำ Inbound Marketing จะเป็นการที่เราสร้างเนื้อหาดี ๆ ที่ตรงกับสิ่งที่ลูกค้าต้องการ ตั้งแต่ช่วงที่เขาเริ่มสนใจไปจนถึงตัดสินใจซื้อ ไม่ว่าจะเป็นบทความ SEO การทำ SEO โพสต์ในโซเชียล หรือส่งอีเมลที่มีประโยชน์ก็ตาม สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร แล้วมอบสิ่งนั้นให้เขาอย่างธรรมชาติ วิธีนี้จะช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง และสร้างลูกค้าที่เชื่อใจเราในระยะยาว

Related News

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ