ทำความรู้จัก แลนดิ้งเพจ (Landing Page) คืออะไร?

By Rachavit Whangpatanathon I MD at ANGA Group

24 JANUARY 25

71

35.webp

การตลาดออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่การมีเว็บไซต์สวยๆ หรือการยิงโฆษณาเท่านั้น แต่ต้องมีจุดหมายปลายทางที่ออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นลูกค้า นั่นคือเหตุผลที่ Landing Page กลายเป็นอาวุธลับที่นักการตลาดดิจิทัลให้ความสำคัญ

นักการตลาดมืออาชีพอย่างเราๆ รู้ดีว่าความลับของเว็บไซต์ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ อยู่ที่การมี Landing Page ที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน เปรียบเสมือนพนักงานขายที่คอยแนะนำสินค้าให้กับลูกค้าแต่ละคนตลอด 24 ชั่วโมง งั้นในบทความนี้ เรามาดูกันว่าทำไม Landing Page ถึงสำคัญนัก และจะสร้างอย่างไรให้ขายของได้จริง ไปดูกันเลย 

ทำความรู้จัก Landing Page ให้เข้าใจง่ายๆ

เรามักพบ แลนดิ้งเพจ Facebook หรือแลนดิ้งเพจที่มาจากลิงก์ในอีเมลหรือโฆษณาจาก Google, Bing, YouTube, Facebook, Instagram, Twitter หรือสถานที่อื่นๆ เปรียบเสมือนคุณเดินเข้าร้านแล้วมีพนักงานคอยแนะนำสินค้าที่คุณกำลังมองหาอย่างตรงจุด นั่นแหละคือหลักการทำงานของ Landing Page หรือหน้าเว็บที่ถูกออกแบบมาเฉพาะเพื่อนำเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการโดยเฉพาะ

จุดเด่นของ Landing Page คือการมีเป้าหมายเดียวที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการให้คนซื้อของ สมัครสมาชิก หรือลงทะเบียนรับข้อมูล ต่างจากหน้าเว็บทั่วไปที่มักมีลิงก์ให้คลิกไปหลายที่จนเกิดความสับสน

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังเดินในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ที่มีของวางขายนับพันรายการ เทียบกับการเดินเข้าร้านเฉพาะทางที่มีแต่สินค้าที่คุณกำลังมองหา แบบไหนจะช่วยให้คุณตัดสินใจซื้อได้ง่ายกว่ากัน?

สิ่งที่ทำให้ Landing Page ต่างจากหน้าเว็บทั่วไป

คุณเคยสังเกตไหมว่าทำไมเวลาคลิกโฆษณาบางชิ้น เรามักจะถูกพาไปยังหน้าเว็บที่ดูแตกต่างจากหน้าหลักของเว็บไซต์นั้นๆ? นั่นเพราะมันคือ Landing Page ที่ถูกออกแบบมาพิเศษ

หน้าเว็บทั่วไปมักเต็มไปด้วยเมนูมากมาย ทั้งแถบด้านบน ด้านข้าง หรือแม้แต่ส่วนท้ายของหน้าเว็บ แต่ Landing Page จะตัดทุกอย่างที่ไม่จำเป็นออกไป เหลือแค่สิ่งที่จะช่วยให้คนตัดสินใจง่ายขึ้น

องค์ประกอบที่ทำให้ Landing Page ขายดี

เปรียบเหมือนการจัดร้านค้า ทุกอย่างต้องวางในตำแหน่งที่เหมาะสม และต้องสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  1. หัวข้อที่ดึงดูดความสนใจ (Headline) ไม่ใช่แค่การตั้งชื่อให้สวยหรู แต่ต้องบอกให้ได้ว่าลูกค้าจะได้อะไร เช่น แทนที่จะเขียนว่า "แอพจัดการร้านค้าออนไลน์" ลองเปลี่ยนเป็น "ประหยัดเวลาบริหารร้านออนไลน์ได้ถึง 3 ชั่วโมงต่อวัน" ดูสิว่าแบบไหนน่าสนใจกว่ากัน
  2. รูปภาพและวิดีโอที่สื่อความหมาย รูปภาพที่ดีต้องเล่าเรื่องได้ ถ้าคุณขายครีมบำรุงผิว แทนที่จะใช้แค่รูปกระปุกครีม ลองใส่ภาพ Before/After ที่เห็นผลชัดเจน หรือวิดีโอสั้นๆ ที่แสดงให้เห็นว่าครีมใช้งานง่ายแค่ไหน
  3. ปุ่มกดที่ชวนให้คลิก (Call-to-Action) คำว่า "คลิกที่นี่" หรือ "สมัครสมาชิก" อาจไม่น่าสนใจเท่า "รับส่วนลด 50% ทันที" หรือ "เริ่มต้นธุรกิจใน 5 นาที" คำที่ใช้ต้องกระตุ้นให้อยากคลิก และบอกให้รู้ว่าจะได้อะไรหลังจากคลิก

เทคนิคการสร้าง Landing Page ให้น่าสนใจ

การสร้าง Landing Page ที่ดีเหมือนการเล่าเรื่องที่น่าสนใจ คุณต้องจับความสนใจผู้อ่านตั้งแต่ประโยคแรก และค่อยๆ พาเขาไปสู่จุดที่อยากซื้อสินค้าหรือบริการของคุณ

การจัดวางองค์ประกอบให้น่าติดตาม

เริ่มจากส่วนบนสุดที่ต้องสะดุดตาและน่าสนใจ อาจใช้ภาพขนาดใหญ่ที่สื่อถึงความสำเร็จหรือความสุขที่ลูกค้าจะได้รับ ตามด้วยหัวข้อที่โดนใจ และคำอธิบายสั้นๆ ที่ชวนให้อ่านต่อ

ถัดลงมาควรเป็นรายละเอียดที่สำคัญ แต่ไม่ใช่การเขียนยาวเหยียดจนน่าเบื่อ ให้แบ่งเป็นส่วนๆ ใช้หัวข้อย่อยที่น่าสนใจ และแทรกรูปภาพหรือวิดีโอที่เกี่ยวข้อง

การสร้างความน่าเชื่อถือ

คนส่วนใหญ่จะไม่ซื้อของจากคนแปลกหน้า นี่คือเหตุผลที่คุณต้องใส่สิ่งที่สร้างความน่าเชื่อถือลงไป เช่น

  • รีวิวจากลูกค้าจริง พร้อมรูปและชื่อ
  • ตัวเลขที่น่าประทับใจ เช่น "มีลูกค้าใช้บริการแล้วกว่า 10,000 ราย"
  • รางวัลหรือการรับรองจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
  • โลโก้ของลูกค้าองค์กรที่ใช้บริการ

วิธีทำให้ Landing Page ขายได้จริง

คุณเคยเจอไหม? สร้าง Landing Page มาสวยแล้ว แต่กลับไม่มีคนคลิกซื้อสักที บางทีปัญหาอาจไม่ได้อยู่ที่สินค้าหรือราคา แต่อยู่ที่วิธีการนำเสนอ มาดูเทคนิคที่จะช่วยให้ Landing Page ของคุณน่าสนใจและชวนให้คนอยากซื้อมากขึ้น

เทคนิคการเขียนเนื้อหาที่ขายได้

การเขียนที่ดีต้องเข้าใจจิตวิทยาของคนอ่าน ลองนึกว่าคุณกำลังคุยกับเพื่อนที่สนใจสินค้าของคุณ คุณจะพูดยังไงให้เขาสนใจ?

เริ่มจากการเล่าถึงปัญหาที่พวกเขาเจอ เช่น "เบื่อไหมกับการต้องนั่งตอบแชทลูกค้าทีละคน?" แล้วค่อยๆ นำเสนอวิธีแก้ปัญหา "ลองใช้ระบบตอบแชทอัตโนมัติของเรา ที่ช่วยคุณตอบลูกค้าได้พร้อมกัน 100 คน แถมตอบได้ 24 ชั่วโมง"

การออกแบบฟอร์มที่คนอยากกรอก

ปัญหาใหญ่ของหลาย Landing Page คือฟอร์มที่ยาวเกินไป ลองนึกดู ถ้าคุณสนใจรับส่วนลด 10% แต่ต้องกรอกข้อมูล 10 ช่อง คุณจะทำไหม?

แทนที่จะขอข้อมูลทุกอย่างตั้งแต่แรก ลองเริ่มจากแค่อีเมลก่อน พอได้อีเมลแล้วค่อยขอข้อมูลเพิ่มในภายหลัง นี่คือเทคนิคที่เรียกว่า Progressive Profiling ที่แบรนด์ดังๆ ใช้กัน

วิธีวัดผลและปรับปรุง Landing Page

การสร้าง Landing Page ไม่ใช่งานที่ทำครั้งเดียวแล้วจบ คุณต้องคอยดูว่ามันทำงานได้ดีแค่ไหน และปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อยๆ

ตัวชี้วัดที่ต้องจับตามอง

ไม่ต้องดูทุกตัวเลขจนปวดหัว แค่โฟกัสที่ตัวชี้วัดสำคัญๆ

  • อัตราการคอนเวิร์ท: จากคนที่เข้ามาดู มีกี่คนที่ทำตามที่เราต้องการ ถ้าต่ำกว่า 2% แสดงว่าต้องปรับปรุง
  • เวลาที่ใช้บนหน้าเว็บ: ถ้าคนออกไปภายใน 5 วินาที แสดงว่าหน้าเว็บอาจไม่น่าสนใจพอ
  • Heat Map: ดูว่าคนคลิกตรงไหนเยอะที่สุด แล้วจัดวางปุ่มสำคัญๆ ในจุดนั้น

วิธีทดสอบอย่างมืออาชีพ

นักการตลาดมืออาชีพใช้เทคนิคที่เรียกว่า A/B Testing คือการทดลองเปลี่ยนแปลงทีละอย่าง เช่น

  • ลองเปลี่ยนสีปุ่ม CTA จากสีน้ำเงินเป็นสีส้ม
  • ทดลองใช้หัวข้อที่ต่างกัน
  • ปรับตำแหน่งฟอร์มให้อยู่ซ้าย-ขวา

แล้วดูว่าแบบไหนได้ผลดีกว่ากัน อย่าเปลี่ยนหลายอย่างพร้อมกัน เพราะจะไม่รู้ว่าอะไรทำให้ผลลัพธ์ดีขึ้นหรือแย่ลง

สรุปเริ่มต้นทำ Landing Page อย่างไรดี?

Landing Page เป็นเครื่องมือสำคัญในการตลาดดิจิทัลที่มีเป้าหมายเฉพาะเจาะจง แตกต่างจากเว็บไซต์ทั่วไปตรงที่ถูกออกแบบมาเพื่อเปลี่ยนผู้เยี่ยมชมให้กลายเป็นลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ

หลักสำคัญในการสร้าง Landing Page ที่ดี คือ การมุ่งเน้นที่เป้าหมายเดียวชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้า สมัครสมาชิก หรือรับข้อมูล โดยจะต้องออกแบบให้ดึงดูดความสนใจตั้งแต่ประโยคแรก ด้วยการสร้างหัวข้อที่น่าสนใจ ใช้รูปภาพและวิดีโอที่สื่อความหมาย และมีปุ่มกดที่ชวนให้คลิก การนำเสนอเนื้อหายังต้องคำนึงถึงการรับทำ SEO เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การสร้างความน่าเชื่อถือเป็นปัจจัยสำคัญ ทำได้โดยการใส่รีวิวจากลูกค้าจริง ตัวเลขที่น่าประทับใจ และโลโก้ขององค์กรที่เคยใช้บริการ นอกจากนี้ การเขียนเนื้อหาต้องเข้าใจจิตวิทยาของผู้อ่าน โดยเริ่มจากการเล่าถึงปัญหาแล้วค่อยนำเสนอวิธีแก้

สิ่งสำคัญคือ Landing Page ไม่ใช่งานที่ทำครั้งเดียวแล้วจบ แต่ต้องคอยวัดผล ปรับปรุง และทดสอบอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น การวัดอัตราการคอนเวิร์ท การใช้ Heat Map และการทำ A/B Testing

สรุปแล้ว Landing Page ที่ดีที่สุดคือหน้าที่ทำให้ลูกค้าได้สิ่งที่ต้องการ และธุรกิจก็บรรลุเป้าหมายไปพร้อมกัน

Related News

Flash Sale คืออะไร มีส่วนช่วยในการเร่งยอดขายอย่างไร

รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับแฟลชเซลล์ Flash Sale คืออะไร ข้อดี ข้อเสียเหมาะกับธุรกิจแบบไหนบ้าง พร้อมแชร์เทคนิคการจัด Flash Saleในปี 2025

Cost Per Lead (CPL) คืออะไร คำนวณอย่างไร ทำไมคนยิงแอดต้องรู้

ทำความเข้าใจ Cost Per Lead คืออะไร ตั้งแต่วิธีคำนวณ สาเหตุที่ทำให้ Cost Per Lead (CPL) สูง พร้อมวิธีแก้ เพื่อผลลัพธ์จากการทำโฆษณาคุ้มค่าที่สุด

อาชีพ SEO Specialist คืออะไร เจาะลึกหน้าที่ ทักษะ และรายได้

ทำความรู้จักอาชีพ SEO Specialist คืออะไร ตำแหน่งนี้มีหน้าที่อะไรบ้าง ต้องมีทักษะอะไรติดตัว หางานยากไหม และได้เงินเดือนเท่าไหร่ อัปเดต 2025

Flash Sale คืออะไร มีส่วนช่วยในการเร่งยอดขายอย่างไร

รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับแฟลชเซลล์ Flash Sale คืออะไร ข้อดี ข้อเสียเหมาะกับธุรกิจแบบไหนบ้าง พร้อมแชร์เทคนิคการจัด Flash Saleในปี 2025

Cost Per Lead (CPL) คืออะไร คำนวณอย่างไร ทำไมคนยิงแอดต้องรู้

ทำความเข้าใจ Cost Per Lead คืออะไร ตั้งแต่วิธีคำนวณ สาเหตุที่ทำให้ Cost Per Lead (CPL) สูง พร้อมวิธีแก้ เพื่อผลลัพธ์จากการทำโฆษณาคุ้มค่าที่สุด

อาชีพ SEO Specialist คืออะไร เจาะลึกหน้าที่ ทักษะ และรายได้

ทำความรู้จักอาชีพ SEO Specialist คืออะไร ตำแหน่งนี้มีหน้าที่อะไรบ้าง ต้องมีทักษะอะไรติดตัว หางานยากไหม และได้เงินเดือนเท่าไหร่ อัปเดต 2025

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ