MarTech คืออะไร? ผลักดันธุรกิจให้เติบโตด้วยเทคโนโลยี

ANGA Mastery

28 JUNE 24

110

เราต่างรู้ดีว่าสิ่งที่จะช่วยเร่งยอดขายและสร้างกำไรให้แก่ธุรกิจได้เร็วขึ้นนั้น มาจากการโปรโมตสินค้าและทำการตลาดในรูปแบบต่าง ๆ ซึ่งขั้นตอนในการทำการตลาดก็มีมากมายและค่อนข้างที่จะซับซ้อนอย่างมาก ไหนจะต้องมารีเสิร์ชว่าลูกค้าคือใคร วิเคราะห์ช่องทางในการทำการตลาด คิดคอนเทนต์เพื่อสื่อสารออกไป และอื่น ๆ อีกมากมาย ถ้าใช้แรงของมนุษย์อย่างเราล้วน ๆ คงจะใช้เวลานานอย่างแน่นอน ด้วยเหตุนี้ สิ่งที่เรียกว่า “MarTech” จึงเข้ามามีบทบาทอย่างมากในปัจจุบัน

ในช่วงพักหลังมากนี้ เราเชื่อว่าบรรดานักการตลาดและเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ คงจะได้ยินได้เห็นคำว่า MarTech อยู่บ่อย ๆ แต่อาจจะยังไม่เข้าใจว่า MarTech คืออะไร MarTech มีอะไรบ้าง หรือสามารถนำไปใช้งานเพื่อสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจได้อย่างไร ในวันนี้ ANGA Mastery จะมาอธิบายให้คุณทราบกันในบทความนี้!

MarTech คืออะไร?

MarTech คืออะไร? MarTech ย่อมาจาก Marketing Technology คือเทคโนโลยีทางการตลาดที่จะช่วยให้นักการตลาดทำงานได้สะดวก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะสามารถนำมาใช้งานได้กับทุกขั้นตอนของการทำการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ การวางกลยุทธ์ การผลิตเนื้อหา การจัดการแคมเปญ และยังรวมไปถึงการวัดผลลัพธ์ด้วย ซึ่ง MarTech จะอยู่ในรูปแบบของเครื่องมือ ซอฟต์แวร์ และแพลตฟอร์ม

MarTech ช่วยแก้ปัญหาให้เจ้าของธุรกิจได้อย่างไร?

หัวใจหลักของการทำธุรกิจคือการตอบสนองความต้องการของลูกค้าและทำให้ลูกค้ามีความพึงพอใจมากที่สุด หากคุณผลิตสินค้าออกมาไม่ตรงกับความต้องการของลูกค้า ไม่ตอบโจทย์การใช้งาน หรือมีคุณภาพไม่ดี จนทำให้ลูกค้าเกิดความไม่พึงพอใจ อาจเป็นไปได้ว่าลูกค้าจะไม่มีการซื้อสินค้าซ้ำหรือบอกต่อในทางที่ดีอย่างแน่นอน

แล้วคุณจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกค้าต้องการอะไร? ลูกค้าเป็นกลุ่มคนที่มีลักษณะ พฤติกรรม อาชีพ อายุ ความชื่นชอบแบบไหน? และควรใช้ช่องทางไหนในการส่งสารไปยังกลุ่มลูกค้าของคุณ? MarTech จะช่วยอุดรูรั่วและแก้ปัญหาเหล่านี้ให้แก่ธุรกิจของคุณเอง โดยมีรายละเอียดดังนี้

1. ช่วยเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง

MarTech ประเภท Data Analytics และ CRM จะช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้าอย่างลึกซึ้ง จากการวิเคราะห์ข้อมูลในเชิงลึก ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจความสนใจ พฤติกรรม และความต้องการของลูกค้าได้อย่างถ่องแท้ จากนั้นก็จะช่วยให้คุณแบ่งกลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำ คาดการณ์ความต้องการของลูกค้าล่วงหน้า และช่วยให้คุณนำข้อมูลต่าง ๆ ไปปรับแต่งสร้างเนื้อหาได้ตรงกับความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างตรงจุด

2. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร

MarTech ประเภท Marketing Automation Platforms จะช่วยจัดการงานด้านการตลาดให้กับคุณอย่างรวดเร็วและง่ายดายขึ้นมากกว่าเดิม อย่าง Chatbot จะใช้ในการโต้ตอบกับลูกค้าและตอบคำถามเบื้องต้น ทำให้ลูกค้าไม่ต้องอารมณ์เสียกับการรอคำตอบนาน หรือ ActiveCampaign ที่มีคุณสมบัติในการเก็บรวบรวมข้อมูลลูกค้า เชื่อมต่อกับลูกค้า และส่งอีเมลออกไปหาลูกค้าได้ในซอฟต์แวร์เดียว เป็นต้น

3. ขยายธุรกิจอย่างยั่งยืน

MarTech ประเภท SEO (Search Engine Optimization) จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้ดีบนโลกออนไลน์ และมีฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน เพราะเครื่องมือ SEO จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีประสิทธิภาพและติดอันดับบนหน้าแรกของ Google ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าใหม่และทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักได้ โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเสียค่าใช้จ่ายในการยิงโฆษณาทุก ๆ เดือน

แนะนำ MarTech Tools ที่น่าสนใจสำหรับเจ้าของธุรกิจ

คุณก็ได้ทราบไปแล้วว่า MarTech ช่วยแก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดให้แก่ธุรกิจของคุณอย่างไร ต่อไปลองมาดูกันว่า MarTech Tools ที่สำหรับเจ้าของธุรกิจจะมีอะไรกันบ้าง โดยเราก็จัดมาให้ครบทั้งในส่วนของเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล, เครื่องมือ CRM, เครื่องมือการตลาดแบบอัตโนมัติ, เครื่องมือ SEO และเครื่องมือ Social Media Management เลยทีเดียว

1. เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)

MarTech Tools ประเภท Data Analytics ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมายและผู้ใช้งานบนช่องทางของเรา อาทิ พฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์, ความสนใจ, แหล่งที่มาของผู้ใช้งาน, ดู Customer Journey, ที่มาของ Conversion Rate, จำนวนคนที่เข้ามาใช้งานบนเว็บไซต์, จำนวนผู้ติดตาม, ชี้จุดบกพร่องที่ควรแก้ไขของเว็บไซต์, ตรวจสอบคุณภาพของเว็บไซต์ ฯลฯ

ตัวอย่าง : Google Analytics 4 , Adobe Analytics, Google Search Console, Microsoft Power BI, Segment, Heap

2. เครื่องมือ CRM (Customer Relationship Management)

MarTech Tools ประเภท CRM (Customer Relationship Management) จะช่วยให้คุณสามารถจัดการกับข้อมูลลูกค้าที่มีอยู่จำนวนมากได้อย่างมากประสิทธิภาพ เพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี และนำมาซึ่งยอดขายของธุรกิจ โดยจะเริ่มตั้งแต่การเก็บข้อมูลลูกค้าแบบครบวงจร, วิเคราะห์และทำความเข้าใจลูกค้า, มอบประสบการณ์ที่ดีให้แก่ลูกค้า, กระตุ้นยอดขาย, ติดตาม Sales Pipeline และสรุปผลลัพธ์ออกมาเป็นรายงาน

ตัวอย่าง : HubSpot, Salesforce, Zoho, Monday, Pipedrive, Freshsales, Zendesk, Sales Creatio

3. เครื่องมือการตลาดแบบอัตโนมัติ (Marketing Automation)

MarTech Tools ประเภท Marketing Automation จะเป็นเครื่องมือที่เรานำมาช่วยงาน โดยมีการทำงานแบบอัตโนมัติ อาทิ อีเมลยืนยันการสั่งซื้อสินค้า, อีเมลต้อนรับ Lead ใหม่, ส่ง SMS แจ้งโปรโมชัน, สร้าง Landing Page, วิเคราะห์ข้อมูล, แชทบอทโต้ตอบอัตโนมัติ หรือปรับปรุงเนื้อหา เป็นต้น

ตัวอย่าง : Mailchimp, ActiveCampaign, Autopilot, Klaviyo

4. เครื่องมือ SEO (Search Engine Optimization)

MarTech Tools ประเภท SEO จะช่วยให้นักการตลาดสามารถทำ Keyword Research เพื่อค้นหาคีย์เวิร์ด (Keyword) ที่เหมาะสมกับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงเรายังสามารถใช้เครื่องมือ SEO ในการวิเคราะห์เว็บไซต์ ปรับปรุงเนื้อหา ปรับแต่งเว็บไซต์ หรือวางกลยุทธ์การทำ SEO ให้ติดอันดับเหนือคู่แข่งได้อีกด้วย

ตัวอย่าง : Ahrefs, SEMrush, KWFinder, Moz, Screaming frog, Alexa Traffic Rank

5. เครื่องมือ Social Media Management

MarTech Tools ประเภท Social Media Management จะใช้สำหรับการจัดการบัญชี Social Media ต่าง ๆ ของธุรกิจและกระตุ้นให้เกิด Engagement เพิ่มขึ้น เช่น จัดการทีมงาน, การสร้างคอนเทนต์, การตั้งเวลาโพสต์, วิเคราะห์ข้อมูลผู้ติดตาม, วิเคราะห์ผลลัพธ์, เช็กว่ามีคนพูดถึงเราอย่างไรบ้าง และสรุปผล (Report)

ตัวอย่าง : Hootsuite, Buffer, Sprout Social, Social Listening, Zocial Eye, Sendible, Zoho Social

สรุปบทความ

ตกลงว่า MarTech คืออะไร? เราจะมาสรุปให้อ่านกันอีกครั้ง! MarTech คือเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับการทำการตลาด ซึ่งเป็นได้ทั้งเครื่องมือ ซอฟต์แวร์ และแพลตฟอร์ม มีข้อดีคือช่วยให้เราสามารถจัดการงานด้านการตลาดได้อย่างง่ายดายมากขึ้น ทำให้เราไม่ต้องใช้ทรัพยากรคนเยอะเกินจำเป็น ช่วยประหยัดเวลาในการทำงาน และในขณะเดียวกันก็ช่วยผลักดันการเติบโตของธุรกิจไปในตัว

ซึ่ง MarTech Tools ไม่ได้มีแค่ในบทความนี้ที่เรายกตัวอย่างมากเท่านั้น ยังมีอีกกว่า 8,000 อย่างเลยทีเดียว (จากข้อมูลของ ChiefMartec ในปี 2023) ซึ่งเราคาดว่าในอนาคตคงมีเครื่องมือใหม่ ๆ ออกมาให้ใช้กันอย่างต่อเนื่องแน่นอน สำหรับใครที่สนใจใน MarTech ก็สามารถซื้อมาทดลองใช้กันได้เลย ไม่แน่ว่าบางทีคุณอาจจะติดใจจนอยากบอกต่อก็เป็นได้


Related News

รู้จักศิลปะการสั่งงาน มอบหมายงาน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

เรียนรู้เทคนิคการสั่งงานและมอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตและสร้างทีมที่แข็งแกร่ง พร้อมตัวอย่างและวิธีปฏิบัติ

5 เทคนิคการจัดสัมมนาออนไลน์ (Webinar) ให้ประสบความสำเร็จ

เรียนรู้ 5 เทคนิคการจัดสัมมนาออนไลน์ (Webinar) ให้ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การวางแผน การเตรียมเนื้อหา ไปจนถึงการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วม

No-Code และ Low-Code คืออะไร พร้อมแจกเครื่องมือการใช้งาน

ทำความรู้จัก No-Code และ Low-Code เทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณสร้างแอปและเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด พร้อมแนะนำเครื่องมือยอดนิยม

รู้จักศิลปะการสั่งงาน มอบหมายงาน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุด

เรียนรู้เทคนิคการสั่งงานและมอบหมายงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มผลผลิตและสร้างทีมที่แข็งแกร่ง พร้อมตัวอย่างและวิธีปฏิบัติ

5 เทคนิคการจัดสัมมนาออนไลน์ (Webinar) ให้ประสบความสำเร็จ

เรียนรู้ 5 เทคนิคการจัดสัมมนาออนไลน์ (Webinar) ให้ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การวางแผน การเตรียมเนื้อหา ไปจนถึงการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วม

No-Code และ Low-Code คืออะไร พร้อมแจกเครื่องมือการใช้งาน

ทำความรู้จัก No-Code และ Low-Code เทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณสร้างแอปและเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องเขียนโค้ด พร้อมแนะนำเครื่องมือยอดนิยม

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมอทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ