12 MARCH 25
1.1k
“Sitemap คืออะไร?” หนึ่งในคำถามที่ใครหลาย ๆ คนสงสัยกัน ซึ่งมักจะเกิดกับคนที่ไม่ได้มีส่วนร่วมในการสร้างเว็บไซต์ตั้งแต่เริ่มต้น Sitemap หมายถึงแผนที่เว็บไซต์ที่แสดงให้เห็นว่าแต่ละหน้าเพจมีการเชื่อมโยงกันอย่างไรบ้าง มีจุดประสงค์ก็เพื่อทำให้เว็บไซต์มีความเป็นระเบียบเรียบร้อยและทำให้ Googlebot หรือ Search Engine Bot สามารถเข้าถึงเนื้อหาในหน้าต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว (Crawl) นำไปสู่การจัดทำดัชนี (Index) และจัดอันดับเว็บไซต์บน Google หรือทำ SEO ติดหน้าแรกอย่างที่ทุก ๆ เว็บไซต์ต้องการ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ Sitemap Website คือสิ่งสำคัญในการสร้างเว็บไซต์และทำ SEO นั่นเอง มาศึกษาทำความเข้าใจว่า Sitemap คืออะไรอย่างละเอียด ทั้งประเภทและวิธีสร้างได้ในบทความนี้กับ ANGA Mastery ได้เลย
Sitemap คือแผนผังโครงสร้างเว็บไซต์ที่รวบรวมรายการหน้าเว็บเพจทั้งหมดเอาไว้อย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญของการทำ Technical SEO โดยจะทำหน้าที่เสมือนสารบัญที่ช่วยให้ Search Engine สามารถค้นพบ อ่าน ทำความเข้าใจการจัดวางเนื้อหาและความสัมพันธ์ระหว่างหน้าเว็บเพจต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์ได้อย่างชัดเจน พร้อมทั้งระบุว่าแต่ละหน้ามีเนื้อหาอะไร เข้าถึงได้จากลิงก์ไหน และมีความสำคัญมากน้อยเพียงใด จากนั้นก็นำไปจัดทำดัชนีและนำไปแสดงผลเป็นอันดับต่าง ๆ บน SERPs ส่งผลให้เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับบนผลการค้นหาได้ดีขึ้น โดยเฉพาะเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่มีหน้าเพจจำนวนมากและมีการอัปเดตเนื้อหาใหม่ ๆ อยู่เสมอ การมี Sitemap ที่ดีจะช่วยให้ Search Engine เข้าถึงและประมวลผลเนื้อหาเหล่านั้นได้รวดเร็วมากขึ้นนั่นเอง
Sitemap มีอยู่หลากหลายประเภทด้วยกัน โดยการเลือกทำ Sitemap ที่เหมาะสมกับเนื้อหาบนเว็บไซต์จะช่วยให้เว็บไซต์มีโครงสร้างที่เป็นระเบียบและเข้าถึงได้ง่าย ซึ่ง Sitemap แต่ละประเภทถูกออกแบบมาเพื่อจัดการกับเนื้อหาที่แตกต่างกัน ทำให้ทั้ง Search Engine และผู้ใช้งานสามารถค้นหาและเข้าถึงข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว ลองมาดูกันว่า Sitemap จะมีแบบไหนบ้าง และแต่ละแบบเหมาะกับการใช้งานอย่างไร
HTML Sitemap ทำหน้าที่เป็นสารบัญของเว็บไซต์ที่แสดงผลในรูปแบบหน้าเว็บเพจปกติ ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถมองเห็นโครงสร้างเว็บไซต์และนำทางไปยังหน้าต่าง ๆ ได้สะดวก มักพบได้ที่ส่วนท้ายของเว็บไซต์หรือเป็นหน้าแยกต่างหาก เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีเนื้อหาหลากหลายและต้องการช่วยให้ผู้ใช้ค้นหาข้อมูลได้ง่ายขึ้น
XML Sitemap คือแผนผังเว็บไซต์ที่ถูกจัดทำขึ้นเพื่อสื่อสารกับ Search Engine Bot โดยตรง ระบุรายละเอียดทุกหน้าเว็บเพจในรูปแบบที่ Bot เข้าใจได้ ทั้งตำแหน่ง URL ความถี่ในการอัปเดต และลำดับความสำคัญของเนื้อหา ช่วยให้ Search Engine สามารถค้นพบและจัดทำดัชนีเนื้อหาได้ครบถ้วน เหมาะกับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ที่มีการอัปเดตเนื้อหาอยู่บ่อย ๆ
News Sitemap ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเว็บไซต์ข่าวและสื่อที่มีการอัปเดตเนื้อหาสม่ำเสมอ ช่วยให้ข่าวใหม่ถูกค้นพบและแสดงผลใน Google News ได้รวดเร็วขึ้น เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่เน้นนำเสนอข่าวสารและต้องการให้เนื้อหาเข้าถึงผู้อ่านได้อย่างทันทีทันใด
Image Sitemap ช่วยให้ Search Engine เข้าใจและจัดหมวดหมู่รูปภาพบนเว็บไซต์ได้ดีขึ้น ระบุตำแหน่งและรายละเอียดของรูปภาพทั้งหมด ทำให้รูปภาพมีโอกาสปรากฏใน Google Image Search มากขึ้น เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีรูปภาพเยอะหรือใช้รูปภาพเป็นส่วนสำคัญของเนื้อหา
Video Sitemap ทำงานคล้ายกับ Image Sitemap แต่เน้นไปที่การจัดการวิดีโอ ช่วยให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาวิดีโอและแสดงผลในการค้นหาวิดีโอได้ดีขึ้น ไม่ว่าวิดีโอจะอยู่บนเว็บไซต์โดยตรงหรือฝากไว้บนแพลตฟอร์มอื่น เหมาะสำหรับเว็บไซต์ที่มีวิดีโอคอนเทนต์จำนวนมาก
เว็บไซต์ที่ดีและมีประสิทธิภาพพร้อมต่อการส่งเสริมให้บทความ SEO ติดอันดับบน Google ไม่ใช่เว็บไซต์ที่มีเพียงเนื้อหาที่ดีเท่านั้น แต่ต้องมีโครงสร้างเว็บไซต์ที่แข็งแรงและถูกจัดแจงอย่างเป็นระเบียบด้วย หากเว็บไซต์ไม่มี Sitemap ก็จะทำให้ Search Engine เข้าถึงและทำความเข้าใจเนื้อหาได้ยาก ทำให้เว็บไซต์ของคุณพลาดโอกาสในการติดอันดับ ถึงแม้จะมีเนื้อหาที่มีคุณภาพมาก ๆ ก็ตาม และต่อไปนี้คือข้อดีของการทำ Sitemap ที่คุณควรรู้
การวางแผนและเริ่มสร้าง Sitemap ควรทำตั้งแต่ขั้นตอนแรกของการพัฒนาเว็บไซต์ เพราะจะช่วยให้เห็นภาพรวมทั้งหมดว่าเว็บไซต์จะมีโครงสร้างอย่างไร มีกี่หน้า แต่ละหน้ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร ช่วยป้องกันปัญหาความสับสนและการแก้ไขที่ยุ่งยากในภายหลัง แต่ Sitemap ก็อาจไม่จำเป็นสำหรับทุกเว็บไซต์ โดยเฉพาะเว็บไซต์ขนาดเล็กที่มีไม่กี่หน้า หรือเว็บที่มีการทำ Internal Link อย่างเป็นระบบแล้ว แต่สำหรับเว็บไซต์ขนาดใหญ่ เว็บใหม่ที่ยังมี External Link น้อย หรือเว็บที่มีสื่อประกอบจำนวนมาก การมี Sitemap จะช่วยให้ Search Engine เข้าใจและจัดการเนื้อหาได้ดีขึ้น จึงแนะนำให้ทำมากกว่า
เมื่อพูดถึงการสร้าง Sitemap หลาย ๆ คนอาจคิดว่ามันเป็นเรื่องยากที่ต้องอาศัยทักษะของ Web Developer หรือต้องจ้างเอเจนซี่รับทำ SEO เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้ว มันมีวิธีสร้างหลายวิธีและก็ไม่ได้ยุ่งยากอย่างที่คิดด้วย ยิ่งถ้าเว็บไซต์ของคุณเป็น WordPress ด้วยล่ะก็ ก็สามารถติดตั้งปลั๊กอินให้สร้าง Sitemap แบบอัตโนมัติได้เลย ซึ่งในวันนี้เราก็จะมาสอนวิธีสร้าง Sitemap 3 วิธี ดังนี้
สำหรับเว็บไซต์ที่ใช้ระบบจัดการเนื้อหา (CMS) อย่าง WordPress, Wix หรือ Blogger มักจะมีฟีเจอร์หรือปลั๊กอินที่ช่วยสร้าง Sitemap ให้โดยอัตโนมัติ โดยเฉพาะ WordPress ที่มีปลั๊กอินยอดนิยมอย่าง Yoast SEO ที่ไม่เพียงช่วยสร้าง Sitemap แต่ยังจัดการเรื่อง SEO ได้ครบวงจร เมื่อมีการเพิ่มหรือแก้ไขเนื้อหา ระบบจะอัปเดต Sitemap ให้โดยอัตโนมัติทันที (แนะนำวิธีทำ SEO WordPress)
วิธีนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้ด้านการเขียนโค้ดหรือต้องการความสะดวกรวดเร็ว เครื่องมือออนไลน์อย่าง xml-sitemaps.com สามารถสร้าง Sitemap ได้ง่าย ๆ เพียงใส่ URL เว็บไซต์ ระบบจะสแกนและรวบรวมทุกหน้าเว็บเพจ จากนั้นสร้างเป็นไฟล์ XML ให้อัตโนมัติ วิธีนี้เหมาะกับเว็บไซต์ที่มีจำนวนหน้าไม่มากและไม่ได้อัปเดตเนื้อหาบ่อย เพราะทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลง คุณจะต้องสร้าง Sitemap ใหม่เรื่อย ๆ
สำหรับเว็บไซต์ขนาดเล็กที่มีไม่กี่สิบหน้า อาจจะเคยลงเรียน SEO มาบ้างหรือไม่เคยเรียนมาก่อนก็ตาม คุณสามารถสร้าง Sitemap เองได้โดยใช้โปรแกรมแก้ไขข้อความทั่วไป เช่น Notepad หรือ VS Code เขียนโครงสร้าง XML ตามมาตรฐานที่ Google กำหนด โดยระบุ URL ของทุกหน้า พร้อมข้อมูลเพิ่มเติมเช่น วันที่อัปเดตล่าสุด ความถี่ในการเปลี่ยนแปลง และลำดับความสำคัญ วิธีนี้ให้อิสระในการควบคุมทุกรายละเอียด แต่อาจยุ่งยากในการดูแลรักษาเมื่อเว็บไซต์มีการเปลี่ยนแปลงบ่อย
สรุปว่า Sitemap คือแผนผังเว็บไซต์ที่ทำให้ Search Engine อย่าง Google เข้าใจความสัมพันธ์และเนื้อหาบนหน้าต่าง ๆ ของเว็บไซต์ ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของการทำ Technical SEO ที่คุณต้องสร้างเอาไว้ตั้งแต่ช่วงการพัฒนาเว็บไซต์เลย โดย Sitemap ก็มีอยู่หลายประเภท แต่ละประเภทก็จะเหมาะกับขนาดของเว็บไซต์และประเภทเนื้อหาภายในเว็บไซต์ที่แตกต่างกันออกไป และที่สำคัญเลยคือ Sitemap ช่วยเพิ่มโอกาสในการติดอันดับบน Google ได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นเป้าหมายหลักที่ทุกเว็บไซต์ต่างต้องการ เพราะการติดอันดับในตำแหน่งสูง ๆ จะแสดงว่าคุณประสบความสำเร็จในการทำ SEO และมีโอกาสในการได้มาซึ่งลูกค้าใหม่นั่นเอง
สำหรับใครที่ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำเว็บไซต์และ SEO ทาง ANGA Mastery มีความรู้ดี ๆ ด้านการตลาดออนไลน์มาฝากคุณแบบจัดเต็ม สามารถคลิกอ่านเพิ่มเติมที่ได้เมนู ‘ข่าวสารการตลาดและธุรกิจ’ นอกจากนี้เรายังมีคอร์สเรียนการตลาด (Marketing) ที่สอนโดยผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านจากเอเจนซี่ชั้นนำมากประสบการณ์ให้เลือกเรียนกันด้วย ไม่ว่าจะเป็นคอร์สสอน Google Analytics 4 (เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล), คอร์สเรียน Google Ads (การยิงโฆษณาผ่าน Google) หรือคอร์สสอน Facebook Ads เป็นต้น
พัฒนาสกิลที่ถูกต้องสำหรับผู้นำ
ด้านการตลาดออนไลน์
26 MAY
คอร์สเรียน Google Tag Manager โดยตรงจากเอเจนซี่ สอนทุกเทคนิคการติดตั้ง Tracking โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
26 MAY
26 MAY
19 MAY
19 MAY
19 MAY
ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ