ความสำเร็จของแบรนด์ชั้นนำระดับโลกไม่ได้เกิดมาจากการเดาใจหรือคิดไปเองว่าลูกค้าชอบอะไร แต่มาจากการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจและขับเคลื่อนธุรกิจ Data Driven Marketing คือคำตอบสำหรับการทำการตลาดยุคใหม่ที่ใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนกลยุทธ์ พร้อมกับวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้สามารถออกแบบแคมเปญโฆษณาสินค้าที่น่าสนใจและกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ANGA Mastery จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า Data Driven Marketing คืออะไร มีความสำคัญและประโยชน์ในด้านใดบ้าง แนะนำขั้นตอนการทำ Data Driven Marketing และเอาตัวอย่างจากแบรนด์ดังมาฝากกันด้วย
Data Driven Marketing คืออะไร
Data Driven Marketing คือการทำการตลาดที่ใช้ข้อมูลเป็นตัวนำทางและตัดสินใจ เพราะข้อมูลสามารถบอกได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ชอบอะไร และมีพฤติกรรมการซื้ออย่างไรบ้าง โดยนักการตลาดจะรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าเชิงลึก นำไปสู่การออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสินค้า การพัฒนาบริการ การส่งมอบประสบการณ์ให้ลูกค้า หรือการสื่อสารด้านการตลาดก็ตาม ซึ่งจะแตกต่างจากการทำการตลาดแบบเดิม ๆ ที่ใช้ประสบการณ์และสัญชาตญาณในการตัดสินใจ ส่งผลให้การตลาดแบบดั้งเดิมไม่ค่อยได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากนัก เมื่อเทียบกับการทำ Data Driven Marketing
ความสำคัญของ Data Driven Marketing
การตลาดที่ใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายขึ้นมาก ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าและตอบสนองความต้องการได้ตรงจุด นำไปสู่การตัดสินใจทางการตลาดที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความสำคัญของ Data Driven Marketing ต่อธุรกิจมีอยู่หลายด้าน ดังนี้
เข้าใจตลาดและลูกค้าได้ดีขึ้น
เข้าใจตลาดและลูกค้าได้ดีขึ้น (Market Intelligence) การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของตลาด ทั้งขนาด โอกาสทางธุรกิจ และทิศทางที่กำลังจะไป รวมถึงทำความเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้สามารถคาดการณ์และเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้
วางแผนการตลาดได้แม่นยำ
วางแผนการตลาดได้แม่นยำ (Segmentation & Insights) เมื่อเรามีข้อมูลที่ดี การแบ่งกลุ่มลูกค้าและออกแบบแคมเปญก็ทำได้ตรงจุดมากขึ้น ไม่ต้องเสียงบประมาณไปกับการลองผิดลองถูก แต่สามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพตามพฤติกรรมและความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
วัดผลและปรับปรุงได้รวดเร็ว
วัดผลและปรับปรุงได้รวดเร็ว (Performance Tracking & Decision Making) ข้อมูลช่วยให้เราติดตามผลของการทำการตลาดได้แบบเรียลไทม์ เห็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของแคมเปญ ทำให้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันที ไม่ต้องรอให้สูญเสียงบประมาณไปกับสิ่งที่ไม่ได้ผล เป็นการทำการตลาดที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ประโยชน์ของการทำ Data Driven Marketing
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำ Data Driven Marketing ช่วยให้นักการตลาดสามารถออกแบบโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจที่มีประสิทธิภาพ รู้ว่าควรลงติ๊กต๊อกเวลาไหนดีถึงจะเข้าถึงผู้ชมได้จำนวนมาก และรวมไปถึงสามารถจัดสร้าง Content Pillar ได้อย่างตอบโจทย์กับเป้าหมายของธุรกิจ รวมทั้งยังตรงใจผู้บริโภคด้วยเช่นกัน การนำข้อมูลมาวิเคราะห์และประยุกต์ใช้อย่างชาญฉลาดไม่เพียงช่วยประหยัดงบประมาณลง แต่ยังสร้างผลลัพธ์อันทำให้ธุรกิจเติบโตได้อีกด้วย และนี่คือประโยชน์ของการทำการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่เราอยากให้คุณรู้
1. ช่วยตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำ
การใช้ข้อมูลช่วยให้นักการตลาดตัดสินใจได้อย่างมีหลักการ ไม่ต้องอาศัยการคาดเดาที่ไม่แน่นอนแต่อย่างใด จากสถิติพบว่านักการตลาดกว่า 76% ใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ทำให้วางแผนและดำเนินการได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น
2. เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น
การวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้อย่างละเอียด ทั้งข้อมูลด้านประชากรศาสตร์และพฤติกรรมการใช้งานสื่อต่าง ๆ นำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการพัฒนาลูกค้าให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้
3. พัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตรงใจผู้บริโภค
ข้อมูลจากการสำรวจความคิดเห็น (Feedback) และการติดตามพฤติกรรมผู้บริโภค ช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างแท้จริง ลดความเสี่ยงจากการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค
4. เพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุน
ข้อมูลช่วยให้การทำแคมเปญการตลาดและโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ ลดการสูญเสียงบประมาณจากการลองผิดลองถูก จากสถิติพบว่าการใช้ Data Driven Marketing ช่วยเพิ่ม ROI ได้ถึง 5-8 เท่าเลยทีเดียว
5. สร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า
การวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้เข้าใจว่าอะไรที่ลูกค้าชอบหรือไม่ชอบ ทำให้สามารถปรับปรุงสินค้าและบริการได้ตรงจุด รวมถึงสามารถทำการตลาดแบบ Retargeting เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
5 ขั้นตอนการทำ Data Driven Marketing
การทำ Data Driven Marketing จำเป็นต้องมีขั้นตอนที่เป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การเตรียมความพร้อมขององค์กร การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้การทำ Data Driven Marketing ประสบความสำเร็จ มาดูกันว่ามีขั้นตอนสำคัญอะไรบ้าง
1. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน
การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ เพราะจะช่วยกำหนดทิศทางว่าต้องเก็บข้อมูลอะไรบ้าง และควรวัดผลอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายระยะสั้นอย่างการเพิ่มการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย หรือเป้าหมายระยะยาวอย่างการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ทุกเป้าหมายต้องวัดผลได้และมีกรอบเวลาชัดเจน
2. รวบรวมข้อมูลจากทุกแหล่ง
การเก็บรวบรวมข้อมูลควรทำอย่างเป็นระบบ โดยรวบรวมจากทุกจุดสัมผัสของลูกค้า (Touch Point) ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น พฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ การตอบสนองต่อแคมเปญการตลาด ข้อมูลการซื้อสินค้า และข้อเสนอแนะจากลูกค้า นำมาจัดเก็บในที่เดียวกันเพื่อความสะดวกในการนำไปวิเคราะห์ข้อมูล
แนะนำเครื่องมือช่วยเก็บข้อมูล Data Driven Marketing
- เว็บไซต์ : Google Analytics, Hotjar, และ Mixpanel (แจกวิธีติดตั้ง Google Analytics 4)
- Social Media : Hootsuite, Buffer และ Sprout Social
- CRM (ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์) : Salesforce, HubSpot และ Zoho CRM
- Marketing Automation : Mailchimp, ActiveCampaign และ Marketo
- เครื่องมือวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูล แนะนำเป็น Tableau, Power BI และ Google Data Studio
3. วิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ
นำข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์เพื่อหาข้อมูลเชิงลึก โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาหรือโอกาส และคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต การวิเคราะห์ที่ดีจะช่วยให้เห็นภาพรวมและสามารถตัดสินใจทางการตลาดได้แม่นยำขึ้น
4. ออกแบบกลยุทธ์การตลาดตามข้อมูล
นำข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์ลูกค้า ทั้งการสร้างเนื้อหา การเลือกช่องทางการสื่อสาร และการจัดโปรโมชัน โดยคำนึงถึงพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้การตลาดมีประสิทธิภาพสูงสุด
5. วัดผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง
ติดตามและวัดผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ โดยเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ วิเคราะห์ว่าอะไรที่ได้ผลดีและอะไรที่ต้องปรับปรุง นำข้อมูลที่ได้มาพัฒนากลยุทธ์ให้ดียิ่งขึ้น การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้การทำการตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ
ตัวอย่าง Data Driven Marketing
- Spotify ใช้ AI และ Machine Learning วิเคราะห์พฤติกรรมการฟังเพลง และสร้างรายการเพลงแบบเฉพาะบุคคล
- Starbucks ใช้ข้อมูลในการเลือกทำเลเปิดสาขาใหม่ ปรับเมนูตามความนิยมในแต่ละพื้นที่และฤดูกาล และวิเคราะห์พฤติกรรมการสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างโปรโมชันเฉพาะบุคคล
- Netflix ใช้ข้อมูลผู้ชมในการตัดสินใจผลิตคอนเทนต์ใหม่ ปรับปรุงหน้าจอแสดงผลตามการใช้งานของแต่ละบัญชี และวิเคราะห์พฤติกรรมการรับชมเพื่อแนะนำคอนเทนต์ที่เหมาะสมของแต่ละบัญชี
- Amazon วิเคราะห์เทรนด์สินค้าเพื่อจัดการสต็อกอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบแนะนำสินค้าตามประวัติการค้นหาและการซื้อ และปรับราคาแบบไดนามิกตามความต้องการของตลาด
- Grab วิเคราะห์พฤติกรรมการสั่งอาหารเพื่อแนะนำร้านอาหารที่เหมาะสม ใช้ข้อมูลการใช้งานเพื่อสร้างแคมเปญและโปรโมชันที่ตรงกลุ่ม และปรับปรุงการจับคู่ไรเดอร์กับคำสั่งซื้อให้มีประสิทธิภาพ
สรุป
Data Driven Marketing คือการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และประยุกต์ใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์พฤติกรรม การสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล หรือการวัดผลการตลาด ล้วนต้องอาศัยข้อมูลเป็นพื้นฐาน ธุรกิจที่เริ่มต้นทำ Data Driven Marketing และใช้ข้อมูลตั้งแต่วันนี้จะได้เปรียบในการแข่งขันและเติบโตอย่างมั่นคงในปี 2025 แม้จะดูซับซ้อนแต่ธุรกิจทุกขนาดสามารถเริ่มต้นได้ เพียงเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและค่อย ๆ พัฒนาไปทีละขั้น ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้เมื่อนำข้อมูลมาใช้อย่างมีระบบและต่อเนื่องนั่นเอง
แนะนำบทความและคอร์สเรียนที่น่าสนใจ
- คอร์สสอน Google Analytics 4 เรียนรู้และเข้าใจการใช้ GA4 จากมืออาชีพ
- คอร์สเรียน SEO เพิ่มทักษะทำเว็บไซต์ให้ติดอันดับบน Google
- แนะนำ 15 บริษัทรับทำ SEO ชั้นนำในไทยพร้อมจุดแข็ง อัปเดต 2025