03 JANUARY 25
337
ใคร ๆ อยากที่จะดูดีและสวยขึ้นกว่าเดิม ไม่ว่าจะเป็นพนักงานออฟฟิศ ผู้บริหารธุรกิจ CEO CMO หรือจะเป็นคนวัยหนุ่มสาวก็ตาม เพราะเหตุนี้จึงทำให้ธุรกิจคลินิกเสริมความงามเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ จนใคร ๆ ก็อยากเปิดคลินิกความงามกันถ้วนหน้า การเปิดคลินิกเสริมความงามนั้นไม่ได้ยากและก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด นอกจากโอกาสแล้วก็ยังมีความท้าทายที่ต้องเผชิญด้วยเช่นกัน สำหรับใครที่อยากก้าวเข้าสู่การเป็นเจ้าของคลินิกเสริมความงามแต่ยังไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไร ANGA Mastery จะทำให้คุณเห็นภาพการเปิดคลินิกความงามที่ชัดมากขึ้นผ่านบทความนี้ เพราะเราจะมาแชร์สิ่งที่คุณต้องรู้ก่อนเปิดคลินิกเสริมความงาม ความเสี่ยง วิธีทำการตลาด และตอบคำถามด้วยว่าการเปิดคลินิกความงามใช้เงินเท่าไหร่ หากพร้อมแล้วเราไปอ่านกันได้เลย!
ในอดีตการเปิดคลินิกความงามอาจดูเป็นเรื่องไกลตัวที่ทำได้เฉพาะแพทย์เท่านั้น แต่ปัจจุบันมีผู้ประกอบการหลากหลายอาชีพก้าวเข้าสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจนี้มากมาย อย่างไรก็ตามก่อนจะตัดสินใจลงทุนเปิดคลินิกความงามนั้นก็มีหลายสิ่งที่คุณควรรู้และเตรียมพร้อมรับมือเอาไว้ เพื่อให้สามารถเปิดคลินิกเสริมความงามได้อย่างราบรื่นและทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
การเปิดคลินิกต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายและได้รับใบอนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุข ทั้งใบอนุญาตประกอบกิจการสถานพยาบาลและใบอนุญาตให้ดำเนินการสถานพยาบาล รวมถึงต้องมีผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมเป็นผู้ดูแล จึงควรศึกษาข้อกำหนดและเตรียมเอกสารให้พร้อมตั้งแต่เริ่มต้น
การเปิดคลินิกความงามต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง ตั้งแต่ค่าสถานที่ การตกแต่ง เครื่องมือแพทย์ไปจนถึงเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งอาจต้องใช้เงินตั้งแต่ 3-10 ล้านบาทขึ้นไป ขึ้นอยู่กับขนาดและรูปแบบของคลินิก นอกจากนี้ยังต้องวางแผนสำรองเงินทุนหมุนเวียนให้เพียงพอสำหรับค่าใช้จ่ายในช่วง 6-12 เดือนแรกด้วย
ทำเลที่ตั้งคือหัวใจสำคัญของธุรกิจคลินิกเสริมความงามเลยก็ว่าได้ คุณต้องวิเคราะห์ให้ดีว่ากลุ่มเป้าหมายของคุณอยู่ที่ไหน มีกำลังซื้อเท่าไร และพฤติกรรมการใช้บริการเป็นอย่างไร เพื่อเลือกทำเลที่เหมาะสมและวางแผนบริการให้ตรงความต้องการ และอย่าลืมสำรวจคู่แข่งในพื้นที่ด้วยว่ามีใครบ้างและให้บริการอะไรบ้าง
คลินิกความงามต้องมีทั้งบุคลากรทางการแพทย์และพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ตั้งแต่แพทย์ พยาบาล ผู้ช่วยแพทย์ ไปจนถึงพนักงานต้อนรับและฝ่ายขาย การสรรหาและรักษาบุคลากรที่มีคุณภาพจึงเป็นความท้าทายสำคัญที่คุณต้องวางแผนรับมือ
ตลาดคลินิกความงามมีการแข่งขันสูง การสร้างแบรนด์และทำการตลาดจึงสำคัญไม่แพ้การให้บริการที่มีคุณภาพ ต้องวางแผนกลยุทธ์การตลาดทั้งออนไลน์และออฟไลน์ให้ครอบคลุม พร้อมสร้างจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งด้วย
อย่างที่เราได้เกริ่นไปก่อนหน้านี้ว่าการเปิดคลินิกความงามเป็นการลงทุนที่ต้องใช้เงินค่อนข้างสูง ซึ่งงบประมาณจะแตกต่างกันไปตามขนาดและรูปแบบของคลินิก ตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงคลินิกระดับพรีเมียม โดยรวมแล้ว การเปิดคลินิกความงามระดับมาตรฐานควรมีงบประมาณอย่างน้อย 5-10 ล้านบาท และสำหรับคลินิกระดับพรีเมียมอาจต้องใช้งบประมาณสูงถึง 15-20 ล้านบาทขึ้นไป เพื่อให้เห็นภาพชัดเจน เราจะแบ่งรายละเอียดค่าใช้จ่ายออกเป็นส่วนต่าง ๆ ดังนี้
เครื่องมือแพทย์เป็นการลงทุนที่ใช้งบประมาณสูงที่สุด โดยเฉพาะเครื่องเลเซอร์และอุปกรณ์เฉพาะทาง ราคาต่อเครื่องอาจอยู่ที่ 500,000 - 5,000,000 บาท ขึ้นอยู่กับประเภท แบรนด์ และรุ่น คลินิกเสริมความงามที่ให้บริการครบวงจรอาจต้องลงทุนในส่วนนี้รวมกันถึง 5-10 ล้านบาท
งบประมาณส่วนนี้ขึ้นอยู่กับทำเลที่ตั้งและขนาดพื้นที่ โดยคลินิกทั่วไปควรมีพื้นที่ประมาณ 80-120 ตารางเมตร ค่าเช่าอาจเริ่มต้นที่หลักหมื่นไปจนถึงหลักแสนต่อเดือนสำหรับทำเลใจกลางเมือง ส่วนค่าตกแต่งและปรับปรุงสถานที่ ต้องใช้งบประมาณประมาณ 1-3 ล้านบาท เพื่อสร้างบรรยากาศที่ดูหรูหรา น่าเชื่อถือ จึงจะดูน่าเข้าไปใช้บริการ
ควรมีเงินทุนหมุนเวียนสำรองไว้อย่างน้อย 6-12 เดือน สำหรับค่าใช้จ่ายประจำ เช่น เงินเดือนบุคลากรทางการแพทย์และพนักงาน ค่าเช่าสถานที่และค่าสาธารณูปโภค ค่าวัสดุสิ้นเปลืองและยา และงบในการทำการตลาดคลินิกเสริมความงาม
การเปิดคลินิกความงามแม้จะเป็นธุรกิจที่มีกำไรสูง แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงหลายด้านที่ผู้ประกอบการควรพิจารณาให้รอบคอบก่อนตัดสินใจลงทุน
ถ้าคุณเปิดคลินิกเสริมความงามแต่ไม่ได้มีการทำการตลาดใด ๆ เลย คลินิกของคุณอาจจะต้องปิดตัวลงเร็วมากกว่าที่คิดได้ เนื่องจากไม่มีคนรู้จักและเข้ามาใช้บริการคลินิกของคุณเลย ถ้าคุณอยากอยู่รอดท่ามการแข่งขันอันแสนดุเดือดของตลาดคลินิกความงามนี้ คุณจะต้องลงไปทำการตลาดออนไลน์ด้วย หลายคลินิกเลือกพัฒนาทักษะให้แก่บุคลากรภายในด้วยคอร์สเรียน Marketing for Clinic แต่บางคลินิกก็มีการจ้างเอเจนซี่รับทำ SEO หรือเอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์มาดูแลในส่วนนี้ให้ อย่างไรก็ตามเราลองมาดูแนวทางการทำการตลาดสำหรับคลินิกเสริมความงามกันก่อนดีกว่า
การปักหมุดแผนที่บน Google Maps ช่วยเพิ่มโอกาสให้คลินิกของคุณถูกค้นพบได้ง่ายขึ้น ผ่านการลงทะเบียน Google Business ที่จะแสดงข้อมูลสำคัญอย่างที่ตั้ง เบอร์โทร เวลาทำการ และรีวิวจากลูกค้า นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและส่งผลดีต่อ Local SEO ทำให้คลินิกปรากฏในผลการค้นหาเมื่อคนในพื้นที่ต้องการใช้บริการด้วย
SEO คือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับบนหน้าผลการค้นหาของ Google เมื่อผู้คนค้นหาบริการเกี่ยวกับความงาม การทำ SEO ที่ดีจะช่วยให้คลินิกได้รับทราฟฟิกแบบออร์แกนิก ประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณาระยะยาว หากทีมการตลาดยังไม่มีความรู้ด้านนี้ แนะนำให้เข้าคอร์สเรียน SEO เพื่อเรียนรู้เทคนิคและกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจคลินิกโดยตรง ในคอร์สเรียนดังกล่าวจะทำให้ทีมการตลาดของคุณรู้จักกลยุทธ์ SEO ที่ตอบโจทย์, ได้เรียนรู้การใช้เครื่องมือ Google Search Console และอื่น ๆ อีกเพียบ บอกเลยว่าเป็นหลักสูตรอบรมพนักงานที่ครอบคุ้มและคุ้มค่าอย่างมาก
Google Ads เป็นช่องทางโฆษณาที่ช่วยให้คลินิกเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่กำลังค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริการด้านความงามได้ทันที แม้เว็บไซต์จะยังไม่ติดอันดับ SEO ก็ตาม การยิงโฆษณาแบบ Search Ads จะช่วยให้คลินิกปรากฏอยู่ในตำแหน่งบนสุดของผลการค้นหา เหมาะสำหรับคลินิกที่ต้องการดึงดูดลูกค้าใหม่อย่างรวดเร็วและวัดผลได้ชัดเจน
Social Media เป็นช่องทางที่ทรงพลังสำหรับคลินิกความงาม เพราะคนไทยใช้แพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Instagram และ TikTok เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนที่สนใจเรื่องความงาม การสร้างตัวตนบนโซเชียลมีเดียช่วยให้คลินิกสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างใกล้ชิด แชร์ผลงาน และสร้างการมีส่วนร่วมผ่านคอนเทนต์ที่น่าสนใจ
เนื่องจากเว็บไซต์คลินิกความงามจัดอยู่ในกลุ่ม YMYL (Your Money Your Life) การสร้างคอนเทนต์จึงต้องยึดหลัก E-E-A-T โดยนำเสนอข้อมูลที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ และเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน เช่น บทความ SEO ให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลผิว คำแนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือข้อควรรู้ก่อนทำทรีตเมนต์ต่าง ๆ นอกจากจะสร้างความน่าเชื่อถือแล้ว ยังช่วยเพิ่มโอกาสในการติดอันดับ SEO อีกด้วย
การแสดงความน่าเชื่อถือและความเชี่ยวชาญเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจใช้บริการ ควรนำเสนอข้อมูลทีมแพทย์อย่างละเอียด ทั้งประวัติการศึกษา ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมแสดงรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง และอัปเดตข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีหรือเครื่องมือใหม่ ๆ อย่างสม่ำเสมอบนทุกช่องทางการสื่อสารด้วย
แม้การเปิดคลินิกความงามจะเป็นธุรกิจที่ต้องใช้เงินลงทุนสูงและมีความเสี่ยงหลายด้าน แต่ด้วยการวางแผนที่ดีและการใช้กลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม ก็สามารถสร้างความสำเร็จได้ไม่ยาก สำหรับกลยุทธ์ทางการตลาดที่เหมาะสำหรับคลินิกเสริมความงามนั้น หลัก ๆ จะเป็นการสร้างตัวตนและความน่าเชื่อถือบนช่องทางต่าง ๆ , การทำ SEO บนเว็บไซต์ และการยิงโฆษณา Google Ads ซึ่งถ้าทีมงานของคุณยังไม่มีทักษะในด้านต่าง ๆ เหล่านี้ ลองหาคอร์สเรียนที่เหมาะสมหรือจัดอบรมภายใน (In-house Training) อย่างคอร์สเรียนการตลาด หรือคอร์สสอน Google Analytics 4 ก็จะช่วยให้พวกเขามีทักษะด้านในและสามารถเริ่มต้นทำการตลาดด้วยตัวเองได้ โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาเอเจนซี่ระยะยาว
พัฒนาสกิลที่ถูกต้องสำหรับผู้นำ
ด้านการตลาดออนไลน์
12 FEBRUARY
ทำความเข้าใจ Key Message คืออะไรผ่าน มีเทคนิคการสร้าง Key Message ให้ทรงพลัง สื่อสารชัด และเหมาะสมกับธุรกิจอย่างไร พร้อมตัวอย่างจากแบรนด์ดังเพียบ
12 FEBRUARY
12 FEBRUARY
12 FEBRUARY
12 FEBRUARY
12 FEBRUARY
ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ