29 NOVEMBER 24
239
ผู้บริหารในยุคนี้ จำเป็นที่จะต้องมีทักษะในหลาย ๆ ด้าน ซึ่งไม่ได้จำกัดอยู่แค่เพียงทักษะในการบริหารจัดการทั่วไปเท่านั้น แต่ต้องมีทักษะด้านเทคโนโลยี การตลาดออนไลน์ และอื่น ๆ ที่เหมาะสมกับยุคดิจิทัลเช่นนี้ด้วย ดังนั้น เพื่อให้คุณสามารถบริหารทั้งคนและงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงก้าวทันทุกความเปลี่ยนแปลงบนโลกออนไลน์ จนสามารถเอาชนะคู่แข่งได้อย่างยั่งยืน ANGA Mastery จึงได้รวบรวมทักษะของผู้บริหารที่จำเป็นต้องมีมาให้คุณในบทความนี้ ลองมาดูกันว่า 15 ทักษะผู้บริหารที่คุณควรมีคืออะไรบ้าง
ทักษะผู้บริหารคือชุดความสามารถและความเชี่ยวชาญที่จำเป็นในการนำพาองค์กรไปสู่เป้าหมาย ผ่านการบริหารจัดการทรัพยากรต่าง ๆ อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการบริหารบุคลากร การจัดการงบประมาณ หรือการวางกระบวนการทำงานที่เป็นระบบ ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นเช่นนี้ ผู้บริหารจึงต้องมีทั้งความรู้และประสบการณ์ที่หลากหลาย สามารถปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลง และประยุกต์ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารงาน
ผู้บริหารคือผู้นำองค์กรที่มีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางและขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมาย โดยอาศัยทั้งศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นการวางกลยุทธ์ การบริหารทรัพยากร หรือการพัฒนาพนักงาน ซึ่งผู้บริหารควรจะเป็นทั้งผู้นำการเปลี่ยนแปลงและผู้สร้างแรงบันดาลใจให้พนักงานในองค์กร พร้อมทั้งสามารถตัดสินใจและแก้ไขปัญหาในสถานการณ์ที่ท้าทายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทักษะของผู้บริหารด้านการวิเคราะห์ข้อมูลผ่าน Google Analytics 4 ช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมผู้ใช้งานและประสิทธิภาพของการทำตลาดดิจิทัลบนเว็บไซต์ได้อย่างลึกซึ้ง ผู้บริหารที่เข้าใจการอ่านและวิเคราะห์ข้อมูลจาก GA4 จะสามารถตัดสินใจเรื่องการลงทุนด้านการตลาดได้แม่นยำขึ้น ทั้งการวางแผนงบประมาณ การปรับแคมเปญให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย และการวัดผลตอบแทนจากการลงทุนจากช่องทางการตลาดต่างๆ การติดตามข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้จะช่วยให้ผู้บริหารสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดได้ทันท่วงที และสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่าให้กับธุรกิจ ดังนั้นหากใครกำลังสงสัย ภาพรวมทั้งหมดของ Google Analytics คืออะไร แสดงว่าคุณกำลังขาดทักกษะนี้อยู่ (ดูคอร์สเรียน Google Analytics 4)
ทักษะของผู้บริหารด้านการบริหารจัดการ จะเน้นไปที่การใช้ทรัพยากรองค์กรอย่างชาญฉลาดและเป็นระบบ ตั้งแต่การบริหารงบประมาณ การจัดการโครงการ ไปจนถึงการดูแลทรัพยากรบุคคล โดยประยุกต์ใช้หลักการบริหารให้เหมาะสมกับสถานการณ์ การวางระบบที่ดีจะช่วยให้การดำเนินงานสอดคล้องกับแผน และสร้างผลลัพธ์ที่คุ้มค่า นอกจากนี้ การบริหารที่โปร่งใสและตรวจสอบได้จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องด้วย
ทักษะด้านการวางกลยุทธ์ SEO เป็นอีกหนึ่งทักษะที่ผู้บริหารควรมี สำหรับธุรกิจที่ทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาและเว็บไซต์ (SEO) ซึ่งทักษะนี้จะช่วยให้คุณสามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจผ่านการเพิ่มการมองเห็นบนเว็บไซต์แบบออร์แกนิกได้ ผู้บริหารที่เข้าใจหลักการทำ SEO จะสามารถวางแผนเนื้อหาและโครงสร้างเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์ทั้งผู้ใช้งานและ Search Engine ส่งผลให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาในระยะยาว สร้าง Organic Trafiic ที่มีคุณภาพ และลดต้นทุนการทำการตลาดเมื่อเทียบกับการยิงแอดโฆษณา การลงทุนด้าน SEO จึงเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความได้เปรียบในการแข่งขันและผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ (ดูคอร์ส SEO ทั้งหมด)
การแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์เป็นทักษะสำคัญที่ผู้บริหารต้องมี เพราะการทำงานย่อมต้องเผชิญกับปัญหาอยู่เสมอ การแก้ปัญหาที่ดีไม่ใช่เพียงการแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้า แต่ต้องมองให้ลึกถึงต้นเหตุและคำนึงถึงความยั่งยืนของวิธีแก้ไข บางครั้งการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์อาจนำไปสู่นวัตกรรมหรือโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ ได้ เช่น การพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับการจัดส่งอาหาร ที่ไม่เพียงแก้ปัญหาการจัดส่ง แต่ยังสร้างธุรกิจและโอกาสการจ้างงานใหม่ ๆ ด้วย เ
ยิ่งตำแหน่งสูง ยิ่งมีหน้าที่ความรับผิดชอบที่มากขึ้น และแน่นอนว่าตำแหน่งสำคัญอย่างผู้บริหาร จึงจำเป็นต้องมีความรับผิดชอบมากที่สุดในองค์กร ด้วยเหตุนี้ทักษะในการบริหารจัดการเวลา จึงเป็นทักษะผู้บริหารที่สำคัญ เพื่อให้คุณสามารถจัดการเวลาอย่างมีประสิทธิภาพ รู้จักวางแผนและจัดลำดับความสำคัญของงาน ไม่ใช่แค่บริหารงานตัวเอง แต่ยังรวมถึงการบริหารเวลาของทีมงานให้ทำงานได้ตามกำหนดด้วย และที่สำคัญคือทักษะนี้จะช่วยให้ผู้บริหารมีเวลาคุณภาพสำหรับงานสำคัญที่ต้องใช้การตัดสินใจในระดับกลยุทธ์ด้วย
ผู้บริหารจำเป็นต้องมีทักษะด้านการวางแผนติดตัวด้วย เพื่อให้สามารถสร้างแผนงานที่ชัดเจนและนำไปปฏิบัติได้จริง ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยกำหนดรายละเอียดให้ครบถ้วน ตั้งแต่กิจกรรม หน้าที่ความรับผิดชอบ ระยะเวลา และงบประมาณ ไม่ใช่เพียงบอกเป้าหมายแล้วปล่อยให้ทีมงานคิดวิธีการเอง แผนที่ดีต้องมีความยืดหยุ่น พร้อมปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ และสามารถยอมรับความร่วมมือจากทุกฝ่ายเพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้
ทักษะของผู้บริหารด้านการโค้ชเน้นการดึงศักยภาพสูงสุดของทีมงาน แทนที่จะเป็นผู้สั่งการและตัดสินใจเพียงผู้เดียวเหมือนในอดีต การโค้ชที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ทีมงานกล้าคิด กล้าตัดสินใจ และกล้าริเริ่มสิ่งใหม่ ๆ เพราะพนักงานเป็นคนที่ใกล้ชิดกับข้อมูล สถานการณ์ และมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้ามากที่สุด การสร้างทีมที่มีความเป็นผู้นำและกล้าตัดสินใจจะช่วยให้องค์กรปรับตัวได้เร็วและตอบสนองความต้องการของตลาดได้ทันท่วงที
การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอย่างสร้างสรรค์เป็นสิ่งที่ดี ในการขับเคลื่อนการพัฒนาองค์กร ผู้บริหารที่เปิดรับฟีดแบคจากทีมงานไม่เพียงจะได้มุมมองใหม่ ๆ ในการพัฒนางาน แต่ยังช่วยสร้างความไว้วางใจและการมีส่วนร่วมในองค์กรได้ แต่การรับฟังอย่างเดียวไม่เพียงพอ ผู้บริหารต้องนำข้อเสนอแนะไปปฏิบัติจริง หรือถ้ามีข้อจำกัดที่ไม่สามารถปฏิบัติได้ ต้องสื่อสารและอธิบายให้ทีมเข้าใจ พร้อมกับแจ้งความคืบหน้าอย่างสม่ำเสมอด้วย จึงจะทำให้พวกเขารู้สึกว่าความคิดเห็นของพวกเขามีคุณค่าและได้รับการใส่ใจจากผู้บริหารอย่างจริงจัง
ทักษะของผู้บริหารด้านมนุษยสัมพันธ์ จะเน้นการทำความเข้าใจและยอมรับความแตกต่างของผู้คน ทั้งในด้านวัฒนธรรมและความคิด ผู้บริหารต้องสามารถทำงานร่วมกับคนทุกระดับ สร้างบรรยากาศการทำงานแบบประชาธิปไตย และเปิดใจรับฟังความคิดเห็นที่หลากหลาย พร้อมนำมาบูรณาการอย่างสร้างสรรค์ การจัดกิจกรรมเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน ลูกค้า และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย จะช่วยสร้างความผูกพันและการทำงานร่วมกันอย่างราบรื่น
ความสามารถในการสื่อสารจะช่วยผลักดันองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้า ผู้บริหารต้องเชี่ยวชาญทั้งการฟัง พูด อ่าน เขียน และการนำเสนอ เพื่อถ่ายทอดวิสัยทัศน์และเป้าหมายได้อย่างชัดเจน สร้างความเข้าใจตรงกันระหว่างทีมงาน และสามารถโน้มน้าวใจให้ทุกคนร่วมมือกันทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ การสื่อสารที่ดีจะเสริมสร้างความสัมพันธ์และการทำงานเป็นทีม กระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ พัฒนา Growth Mindset ในการทำงาน ลดความขัดแย้งและช่วยสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีได้
ผู้บริหารต้องประเมินผลการดำเนินงานและโครงการต่าง ๆ อย่างเป็นระบบ ไม่ว่าจะเป็นการกำหนด KPI หรือ OKR ผ่านเครื่องมือที่เหมาะสมและมีความโปร่งใส การกำหนดเกณฑ์และตัวชี้วัดที่ชัดเจนจะช่วยให้การประเมินครอบคลุมทุกประเด็นสำคัญ นอกจากนี้ ผู้บริหารยังต้องสามารถพิจารณาความดีความชอบ การเลื่อนตำแหน่ง และการปรับเงินเดือนอย่างเป็นธรรม โปร่งใส และตรวจสอบได้ เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและความเชื่อมั่นให้กับทีมงาน
ผู้บริหารยุคใหม่ต้องปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พร้อมนำเครื่องมือดิจิทัลมาประยุกต์ใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานในองค์กรด้วย ไม่ว่าจะเป็นการใช้ซอฟต์แวร์และแพลตฟอร์มต่าง ๆ ในการสื่อสาร การจัดการข้อมูล การประชาสัมพันธ์ หรือการทำงานร่วมกัน เช่น การประชุมผ่าน Google Meeting, การใช้เครื่องมือ AI ในการหาข้อมูล คิดไอเดีย, การทำงานร่วมกันบน Google Workspace, การใช้ซอฟต์แวร์อย่าง Click Up ช่วยจัดการงาน หรือการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อตัดสินใจทางธุรกิจ เป็นต้น
ภาวะผู้นำเป็นทักษะผู้บริหารอันดับแรก ที่ผู้บริหารและผู้นำองค์กรทุกคนต้องมี ซึ่งผู้บริหารต้องกล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจ พร้อมรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น รวมทั้งมีความสามารถในการมองการณ์ไกลและสร้างทีมที่แข็งแกร่งได้ จึงจะสามารถเลือกใช้คนได้ตรงกับงานได้อย่างเหมาะสม
ผู้บริหารที่มีประสิทธิภาพต้องพร้อมปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และรูปแบบการทำงานให้ทันสถานการณ์ ไม่ยึดติดกับวิธีการเดิม ๆ แต่เปิดรับมุมมองใหม่และความคิดที่แตกต่าง ซึ่งความยืดหยุ่นไม่ได้จำกัดอยู่แค่การปรับตัวของผู้บริหารเอง แต่รวมถึงการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่เปิดโอกาสให้ทีมงานกล้าเสนอไอเดียและวิธีการทำงานที่สร้างสรรค์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับองค์กรด้วย
คุณธรรมและจริยธรรมเป็นรากฐานของการเป็นผู้บริหารที่ดี เพราะไม่เพียงช่วยสร้างความน่าเชื่อถือ แต่ยังเป็นแบบอย่างให้กับทีมงานในการปฏิบัติงานอย่างซื่อสัตย์สุจริตด้วย ผู้บริหารที่มีจริยธรรมจะบริหารองค์กรด้วยหลักธรรมาภิบาล มีวุฒิภาวะทางอารมณ์ และเสียสละเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและการเติบโตอย่างยั่งยืน อาทิ ซื่อสัตย์สุจริตและโปร่งใสในการบริหารงาน, เคารพในสิทธิ์และศักดิ์ศรีของผู้อื่น, ปฏิบัติตามกฎระเบียบอย่างเคร่งครัด ไม่ต่างจากตัวพนักงาน, มีความรับผิดชอบต่อสังคม และแสดงความเป็นผู้นำที่เป็นแบบอย่างที่ดี
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับทักษะของผู้บริหารมีอะไรบ้าง มาดูกันเลย!
ตามหลักการบริหารสมัยใหม่ ทักษะของผู้บริหารสามารถแบ่งออกเป็น 3 ด้านหลักที่ต้องพัฒนาควบคู่กันไป ได้แก่ ทักษะด้านความคิดรวบยอด (Conceptual Skills), ทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์ (Human Skills) และ ทักษะด้านเทคนิค (Technical Skills) ทั้งนี้ สัดส่วนความสำคัญของแต่ละทักษะจะแตกต่างกันไปตามระดับของผู้บริหาร โดยผู้บริหารระดับสูงจะต้องเน้นทักษะด้านความคิดรวบยอดมากกว่า ขณะที่ผู้บริหารระดับต้นจะต้องมีทักษะด้านเทคนิคที่แข็งแกร่ง ส่วนทักษะด้านมนุษยสัมพันธ์นั้นสำคัญสำหรับผู้บริหารทุกระดับ (เช็กเลย! หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ที่คุณไม่ควรพลาด)
ทักษะด้านการสื่อสารและภาวะผู้นำถือเป็นทักษะที่ผู้บริหารต้องใช้มากที่สุดในการบริหารงาน เพราะไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดวิสัยทัศน์ การมอบหมายงาน การสร้างแรงจูงใจ หรือการแก้ไขปัญหา ล้วนต้องอาศัยการสื่อสารที่ชัดเจนและการแสดงภาวะผู้นำที่เหมาะสม ผู้บริหารที่สื่อสารได้ดีและมีภาวะผู้นำจะสามารถสร้างความเชื่อมั่น ได้รับความร่วมมือจากทีมงานเป็นอย่างดี และพาองค์กรไปสู่เป้าหมายที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จ
ทักษะการบริหารจัดการที่ผู้จัดการต้องมีประกอบด้วย 6 ด้านหลัก ได้แก่ ทักษะการวางแผนและกำหนดกลยุทธ์องค์กร, ทักษะการบริหารทีมและสร้างแรงจูงใจ, ทักษะการสื่อสารและประสานงาน, ทักษะการตัดสินใจและแก้ไขปัญหา, ทักษะการบริหารทรัพยากรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และทักษะการวัดผลและประเมินผลการดำเนินงาน โดยทักษะเหล่านี้จะทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยให้ผู้จัดการสามารถบริหารงานและทีมงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ทักษะของผู้บริหารที่เราเอามาแชร์กันทั้ง 15 ทักษะนี้ ล้วนมีความเกี่ยวข้องและช่วยเสริมศักยภาพซึ่งกันและกัน ซึ่งการพัฒนาทักษะผู้บริหารเหล่านี้ต้องอาศัยทั้งความรู้ ประสบการณ์ และการฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง ผู้บริหารที่สามารถผสมผสานทักษะต่าง ๆ เข้าด้วยกันได้เป็นอย่างดี จะสามารถรับมือกับความท้าทายในการบริหารคน งาน และองค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การสร้างทีมที่เข้มแข็งและผลลัพธ์ที่ดีให้กับองค์กร พร้อมทั้งพัฒนาตนเองไปสู่การเป็นผู้นำที่ได้รับการยอมรับและความไว้วางใจจากทีมงานด้วยเช่นกัน ดังนั้นเราจะเห็นได้เลยว่าหลักสูตรอบรมพนักงานเป็นสิ่งที่ทุกองค์กรต้องใส่ใจเพื่อพัฒนาองค์ความรู้ให้กับ Talent ตลอดเวลา
พัฒนาสกิลที่ถูกต้องสำหรับผู้นำ
ด้านการตลาดออนไลน์
4 JANUARY
รวบรวมมาให้แล้วกับ 10 คอร์สเรียน Google Analytic ที่มีคุณภาพและน่าสนใจจากสถาบันชั้นนำในปี 2025 ตอบโจทย์ผู้เรียนทุกระดับ และมีครบทุกรูปแบบการสอน
4 JANUARY
3 JANUARY
3 JANUARY
3 JANUARY
3 JANUARY
ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ