10 วิธีเพิ่มยอดขายออนไลน์ ตอบโจทย์ทุกธุรกิจในปี 2025

การขายของบนช่องทางออนไลน์เป็นวิธีเอาตัวรอดที่ดีสำหรับธุรกิจในยุคนี้ เพราะคนส่วนใหญ่หันมาค้นหาข้อมูลและสั่งซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น เนื่องจากผู้บริโภคสามารถเข้าไปเลือกชมสินค้าได้ตลอดเวลา ทำได้ง่าย ๆ ทุกที่ผ่านสมาร์ตโฟน และอยากซื้อสินค้าเมื่อไหร่ก็แค่กดจ่ายเงิน จะตัดเงินผ่านบัญชีธนาคารหรือบัตรเครดิต/บัตรเดบิตก็ทำได้ แต่พอทุกธุรกิจกระโดดเข้ามาอยู่ในตลาดออนไลน์กันหมด การแข่งขันจึงสูงขึ้น ยอดขายของบางธุรกิจกลับลดลงจนทำให้การเติบโตของธุรกิจหยุดชะงัก ด้วยเหตุนี้ ANGA Mastery จึงจะมาแนะนำ 10 วิธีเพิ่มยอดขายออนไลน์ในปี 2025 ให้รู้จักกัน สามารถดูวิธีสร้างยอดขายออนไลน์เหล่านี้และนำไปปรับใช้กับกลยุทธ์การตลาดกันได้เลย

1. จัดโปรโมชันสินค้าราคาพิเศษ

การจัดโปรโมชันสินค้าราคาพิเศษ หรือแคมเปญลดแลกแจกแถมเป็นวิธีกระตุ้นยอดขายออนไลน์ที่ได้ผลเป็นอย่างดี นักการตลาดควรสร้างแคมเปญที่น่าสนใจ ลดจริง แจกจริง และตรงกับความต้องการของลูกค้า ที่สำคัญคือการจัดโปรโมชันในระยะเวลาที่เหมาะสม (พิจารณาจากสินค้า) อาจจะเป็น 2 ชั่วโมง, 24 ชั่วโมง, 3 วัน หรือไม่เกิน 30 วัน เพื่อกระตุ้นและเร่งให้ลูกค้าตัดสินใจซื้ออย่างรวดเร็ว ซึ่งเราไม่แนะนำให้จัดโปรโมชันแบบระยะยาวหรือจัดบ่อยจนเกินไป เพราะแคมเปญของคุณจะดูไม่พิเศษและทำให้พวกเขาไม่รีบตัดสินใจซื้อสักที เนื่องจากคิดว่าเดี๋ยวก็ลดราคาอีกเร็ว ๆ นี้

นอกจากการจัด Flash Sale หรือโปรโมชันลดราคาสินค้าแล้ว การมอบของแถมพรีเมียในช่วงเทศกาลพิเศษก็เป็นกลยุทธ์ที่น่าสนใจและเป็นวิธีเพิ่มยอดขายออนไลน์ได้ดีเช่นกัน อาทิ การแจกลิปสติกขนาดเล็ก เมื่อสั่งซื้อเครื่องสำอางครบ 999 บาท หรือการแจกพวงกุญแจรูปหัวใจ เมื่อสั่งซื้อกระเป๋าในช่วงวันวาเลนไทน์ ทั้งนี้ อย่าลืมใส่โลโก้ของแบรนด์ลงไปบนของแถมด้วย เพื่อให้ลูกค้าจดจำแบรนด์และโปรโมตแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น เมื่อนำของแถมไปใช้งาน

2. เปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์ม E-Commerce

การเปิดร้านค้าบนแพลตฟอร์ม E-Commerce อาทิ Shopee, Lazada, LINE MyShop และ TikTok Shop สามารถทำได้ไม่ยาก แถมแพลตฟอร์มเหล่านี้ยังมีระบบหลังบ้านที่ช่วยให้คุณสามารถจัดการร้านค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบจัดการสต๊อกสินค้า ระบบส่วนลดโปรโมชัน ระบบแชตสำหรับติดต่อพูดคุยกับลูกค้า ระบบขนส่ง และรวมไปถึงระบบซัพพอร์ตที่ดี จากเจ้าหน้าที่บนแพลตฟอร์มด้วย

จากที่เราเห็นว่าแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมีให้เลือกหลายแพลตฟอร์ม แต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีข้อดีและตอบโจทย์กับประเภทธุรกิจที่แตกต่างกันออกไป บางครั้งการขายสินค้าผ่านช่องทางเดียวอาจไม่เพียงพออีกต่อไป เพื่อให้คุณสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายอย่างครอบคลุมและสามารถเติบโตไปจนแซงหน้าคู่แข่งได้ การพิจารณาเปิดร้านค้าบนหลาย ๆ แพลตฟอร์มก็เป็นเรื่องที่เราแนะนำ แต่ต้องมีการจัดสรรสต๊อกและทีมงานให้ดี ไม่เช่นนั้นอาจเกิดปัญหาตามมาได้

3. เปิดเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

ถ้าคุณไม่อยากพึ่งพาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมากเกินไป หรือไม่ได้อยากเสียค่าบริการ 10-30% ที่ทางแพลตฟอร์มเหล่านั้นหักไปจากยอดขาย แนะนำให้เปิดเว็บไซต์เป็นของตัวเองไปเลยจะดีเสียกว่า นอกจากจะไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มเติมจนทำให้กำไรหดหายแล้ว คุณยังปรับแต่งได้อย่างอิสระ และสามารถต่อยอดทำการตลาดออนไลน์อย่างการยิงแอดหรือทำ SEO เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจในระยะยาวได้อีกด้วย เพราะจะทำให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงลูกค้าเป้าหมายที่ค้นหาสินค้าของคุณได้อย่างแม่นยำ นอกจากนี้  คุณยังสามารถเก็บข้อมูลลูกค้าและสถิติการเข้าชมเว็บ เพื่อนำไปใช้วางแผนกลยุทธ์ต่อได้อีกด้วย

4. ทำ SEO ให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google

SEO คือการปรับปรุงเว็บไซต์ให้เป็นมิตรกับ Search Engine (เครื่องมือค้นหา) อย่าง Google เพื่อให้เว็บไซต์มีโอกาสติดอันดับบนหน้าแรก เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับแล้ว กลุ่มเป้าหมายก็จะมองเห็นธุรกิจของคุณและคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ ซึ่งคุณสามารถปรับแต่งหน้าเว็บไซต์หรือแนบปุ่ม CTA เพื่อกระตุ้นให้เกิดคำสั่งซื้อและปิดการขายได้ โดย Traffic ที่เข้ามาบนเว็บไซต์ผ่านการทำ SEO จะเป็น Organic Traffic ล้วน ๆ ซึ่งหมายความว่าคุณไม่ต้องจ่ายค่าโฆษณา เพื่อให้ได้คนเข้าเว็บไซต์ เพียงแค่ปรับแต่งเว็บไซต์ พร้อมกับสร้างบทความ SEO ด้วยคีย์เวิร์ดโดน ๆ เว็บไซต์ของคุณก็จะไปแสดงให้กลุ่มเป้าหมายเห็นแล้ว ดังนั้น SEO จึงเป็นวิธีการเพิ่มยอดขายออนไลน์ที่น่าสนใจอีกวิธีหนึ่งที่คุณไม่ควรพลาด

อย่างไรก็ตาม การทำ SEO มีองค์ประกอบหลายส่วน รวมถึงมีปัจจัยในการติดอันดับที่หลากหลาย การเริ่มต้นทำ SEO ด้วยตัวเองหรือรู้วิธีทำ SEO ติดหน้าแรกอย่างถ่องแท้ โดยที่ไม่ได้จ้างบริษัทรับทำ SEO หรือเคยเรียน SEO มาก่อนอาจเป็นเรื่องยาก เพราะความรู้ในกลยุทธ์ SEO, ความเชี่ยวชาญในการใช้เครื่องมือ SEO, การรู้เทคนิคในการปรับแต่งเว็บไซต์ และประสบการณ์เป็นหัวใจสำคัญก็ว่าได้ ถ้าคุณกำลังมองหาคอร์สเรียน SEO อยู่ล่ะก็ ทาง ANGA Mastery มีเปิดสอนทั้งแบบ Public Training และ In-House Training โดยผู้เชี่ยวชาญจากเอเจนซี่ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ LINE OA : @angamastery หรือ คลิกที่นี่

5. ยิงโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ 

การยิงโฆษณาคือการที่คุณจ่ายเงินให้กับแพลตฟอร์มโฆษณา เพื่อให้ระบบนำส่งสื่อที่ใช้ในการโปรโมตสินค้าและบริการบนแพลตฟอร์มนั้น ๆ โดยที่คุณสามารถตั้งค่ากลุ่มเป้าหมายได้ว่าอยากให้โฆษณาไปแสดงผลต่อบุคคลใด อาทิ อายุ เพศ หรือพื้นที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็น Google Ads (ยิงโฆษณาบน Google Search), Facebook Ads, Instagram Ads, YouTube Ads หรือ TikTok Ads ก็ตาม ไม่เพียงแต่การยิงโฆษณาไปสู่ลูกค้าใหม่เท่านั้น การยิงโฆษณาไปสู่คนที่รู้จักคุณอยู่แล้ว หรือการทำ Remarketing ก็มีประสิทธิภาพและเป็นวิธีเพิ่มยอดขายออนไลน์ที่เห็นผลจริงเช่นกัน

6. ทำ Social Media Marketing

Social Media Marketing คือการทำการตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ อาทิ LINE, LinkedIn, TikTok, Facebook, YouTube หรือ Instagram ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่ผู้บริโภคทุกเพศทุกวัยใช้งานกัน การทำ Social Media Marketing ช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยแต่ละแพลตฟอร์มก็จะมีจุดเด่น กลุ่มผู้ใช้งาน และรูปแบบการนำเสนอคอนเทนต์ที่แตกต่างกัน ลองปรับคอนเทนต์ให้ตรงกับสิ่งเหล่านี้และอัปเดตข้อมูลข่าวสารเป็นประจำก็จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค และดึงดูดความสนใจให้พวกเขามาอุดหนุนสินค้าของเราได้ ซึ่งคุณสามารถทำร่วมกับกลยุทธ์การตลาดอื่น ๆ อย่าง Content Marketing, Affiliate Marketing หรือ Influencer Marketing ได้

7. สร้างคอนเทนต์นำเสนอสินค้าให้น่าสนใจ

คอนเทนต์ (Content) คือสิ่งที่คุณใช้ในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมาย อาจจะอยู่ในรูปแบบของข้อความ บทความ รูปภาพ อินโฟกราฟิก หรือวิดีโอก็ได้ แทนที่จะเน้นขายสินค้าและบริการ หรือนำเสนอโปรโมชันเพียงอย่างเดียว คุณควรสร้างคอนเทนต์ที่นำเสนอความรู้ หรือข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อพวกเขาด้วย เช่น วิธีใช้งาน, จุดเด่นของสินค้า, ความเป็นมา, กระบวนการผลิต หรือการเปรียบเทียบความแตกต่างของสินค้าที่คล้ายคลึงกัน ซึ่งคอนเทนต์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มคุณค่าให้สินค้า ทำให้แบรนด์ดูน่าเชื่อถือ และชักจูงให้ตัดสินใจซื้อสินค้าได้

8. มีภาพรีวิวสินค้าหรือบริการจากลูกค้าจริง

การซื้อของผ่านช่องทางออนไลน์ แล้วได้สินค้าที่ไม่ตรงปกมานั้น เกิดขึ้นได้บ่อยครั้งจนทำให้ผู้บริโภคหลาย ๆ คนระแวงและไม่กล้าซื้อสินค้าบนช่องทางออนไลน์อีกต่อไป นอกเหนือจากภาพถ่ายสินค้าของจริงจากแบรนด์แล้ว ผู้บริโภคต้องการเห็นรีวิวสินค้าจากบุคคลทั่วไป ที่เป็นผู้บริโภคอย่างพวกเขาด้วย เพื่อเช็กว่าสินค้าตรงปกไหม ใช้งานได้จริงไหม และสามารถแก้ปัญหาที่พวกเขาเผชิญได้อยู่หรือไม่ ด้วยเหตุนี้ การนำเสนอภาพรีวิวสินค้าหรือบริการจากลูกค้าจริงจึงเป็นเรื่องสำคัญ อาจจะเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าเข้ามารีวิวบนช่องทางต่าง ๆ หรือจะขออนุญาตลูกค้า เพื่อนำรีวิวมาเผยแพร่และแชร์ต่อก็ได้

9. มอบบริการที่ดีและรวดเร็วให้กับลูกค้า

ลูกค้าทุกคนคาดหวังที่จะได้รับการบริการที่ดีและรวดเร็วจากแบรนด์ หากแอดมินหรือระบบตอบกลับหลังบ้าน สามารถตอบกลับลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว ให้คำตอบเกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาถามได้อย่างชัดเจน รวมถึงท่าทีกระตือรือร้นพร้อมให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ผู้บริโภคก็จะรู้สึกประทับใจ มีแนวโน้มในการซื้อสินค้าสูงขึ้น และมีโอกาสที่จะบอกต่อให้คนอื่นมาซื้อตามด้วย นอกจากบริการของแอดมินที่ดีแล้ว การมีบริการหลังการขาย อาทิ รับประกันสินค้า เปลี่ยนสินค้า ติดต่อง่าย หรืออื่น ๆ ก็ช่วยเพิ่มความประทับใจได้

10. ทำ Affiliate Marketing

Affiliate Marketing คือกลยุทธ์การตลาดที่ใช้ “นายหน้า” ในการหาลูกค้ามาสั่งซื้อสินค้าให้ และแบรนด์หรือแพลตฟอร์มเจ้าของ Affiliate Program อย่าง Shopee และ Lazada ก็จะจ่ายค่าคอมมิชชันให้กับนายหน้าเหล่านั้น เมื่อมียอดขายเกิดขึ้นจริง โดยนายหน้าอาจจะเป็นบุคคลทั่วไป ผู้มีชื่อเสียงเฉพาะด้าน ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทาง (KOL) หรืออินฟลูเอนเซอร์ก็ได้ และผู้ที่จ่ายค่าคอมมิชชันมักจะเป็นแพลตฟอร์มากกว่าแบรนด์ นอกจากการทำ Affiliate Marketing ผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแล้ว คุณก็สามารถสร้าง Affiliate Program และหานายหน้าเองได้

สรุป

วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายและวิธีเรียกลูกค้าเข้าร้าน เพื่อกระตุ้นยอดขายสามารถทำได้หลายวิธี ตามวิธีที่เราแนะนำกันไปในบทความนี้เลย แต่เหนือสิ่งอื่นใด นอกเหนือจาก 10 วิธีเพิ่มยอดขายออนไลน์ เร่งการเติบโตให้กับธุรกิจข้างต้นแล้ว สินค้าของคุณจะต้องมีคุณภาพจริงและมีราคาที่คุ้มค่าเหมาะสมด้วย ไม่อย่างนั้น ลูกค้าอาจจะเข้ามาซื้อครั้งเดียวแล้วไม่กลับมาซื้อซ้ำอีกได้ หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์ต่อเจ้าของธุรกิจและนักการตลาดทุกท่าน สามารถอ่านบทความการตลาดเรื่องอื่น ๆ บนเว็บไซต์ของเราเพิ่มเติมได้เลย หรือถ้าใครอยากลงเรียน Facebook Ads หรือเรียน Google Ads รวมถึงเรียน Google Anylytics 4 (เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า) ก็สามารถปรึกษาเราได้เช่นกัน