24 JANUARY 25
96
"เราจะรู้ได้อย่างไรว่าทีมกำลังไปในทิศทางที่ถูกต้อง?" คำถามนี้อาจทำให้ผู้บริหารหลายคนปวดหัว โดยเฉพาะเมื่อต้องประเมินผลงานทีมที่มีความหลากหลาย ตั้งแต่ทีมขายที่วัดผลจากตัวเลขได้ชัดเจน ไปจนถึงทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ต้องใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะเห็นผล
Key Performance Indicator หรือ KPI คือคำตอบที่จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพรวมการทำงานขององค์กรได้ชัดเจนขึ้น เปรียบเสมือนแผนที่ที่จะพาคุณไปถึงเป้าหมาย แต่การสร้าง KPI ที่ดีไม่ใช่แค่การตั้งตัวเลขสวยๆ บทความนี้เราจะพาคุณไปเรียนรู้วิธีการสร้าง KPI ที่มีประสิทธิภาพ พร้อมตัวอย่างจากองค์กรชั้นนำที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้จริง
การพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำที่ดีต้องเริ่มจากการเข้าใจเครื่องมือวัดผลอย่าง KPI อย่างถ่องแท้ KPI ไม่ได้เป็นเพียงตัวเลขที่ใช้ประเมินผลงานเท่านั้น แต่ยังเป็นเข็มทิศที่ชี้นำองค์กรไปสู่เป้าหมายที่วางไว้
KPI หรือ Key Performance Indicator เป็นเครื่องมือวัดผลการดำเนินงานที่สะท้อนให้เห็นว่าองค์กรหรือบุคลากรบรรลุเป้าหมายที่วางไว้หรือไม่ การกำหนด KPI ที่ดีจะช่วยให้
มาดูหลักการสร้าง KPI ที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งคุณสามารถเริ่มต้นสร้าง KPI ให้เหมาะกับองค์กรของคุณได้ด้วยการ
การเลือกประเภท KPI ที่เหมาะสมเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ โดย KPI แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก
การกำหนด KPI ที่มีประสิทธิภาพนั้นไม่ใช่แค่การตั้งเป้าหมายตามความรู้สึก แต่ต้องอาศัยหลักการที่เป็นมาตรฐานสากล นั่นคือหลัก “SMART” ที่ได้รับการยอมรับจากผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารทั่วโลก ผู้บริหารที่มีประสบการณ์ผ่านหลักสูตรผู้บริหารยุคใหม่ต่างเห็นพ้องว่าหลัก SMART เป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ช่วยให้การตั้ง KPI เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นระบบ
การนำหลัก SMART มาประยุกต์ใช้จะช่วยให้คุณสามารถสร้าง KPI ที่ทรงพลัง เริ่มจาก Specific หรือการกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ไม่คลุมเครือ ตามด้วย Measurable หรือการทำให้วัดผลได้จริงด้วยตัวเลขหรือเกณฑ์ที่ชัดเจน Achievable คือการตั้งเป้าที่ท้าทายแต่สามารถทำได้จริง Relevant เน้นความสอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร และ Time-bound คือการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน
ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะตั้ง KPI ว่า "เพิ่มยอดขาย" ซึ่งไม่เป็นไปตามหลัก SMART เราควรปรับเป็น "เพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์กลุ่ม A ในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ได้ 25% ภายในไตรมาสที่ 4" ซึ่งมีความชัดเจนและวัดผลได้มากกว่า
สำหรับตำแหน่ง CMO ที่ต้องรับผิดชอบด้านการตลาด ตัวอย่าง KPI ที่ควรมี
แต่ละ KPI ควรมีการทบทวนและปรับปรุงทุกไตรมาสหรือทุกปี เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์และเป้าหมายขององค์กรที่อาจเปลี่ยนแปลงไป
การสร้าง KPI ที่มีประสิทธิภาพนั้นเปรียบเสมือนการวางรากฐานสำคัญสู่ความสำเร็จขององค์กร ไม่ใช่เพียงแค่การตั้งตัวเลขเป้าหมาย แต่เป็นการผสมผสานระหว่างศาสตร์และศิลป์ในการบริหารจัดการ ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ การเข้าใจบริบทของธุรกิจ และการคำนึงถึงศักยภาพของทีม
การนำหลัก SMART มาประยุกต์ใช้ร่วมกับการเลือกประเภท KPI ที่เหมาะสม จะช่วยให้องค์กรสามารถติดตามและวัดผลการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญ KPI ไม่ใช่เครื่องมือที่ตายตัว แต่ควรได้รับการทบทวนและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป
สำหรับองค์กรที่ต้องการยกระดับการวัดผลการดำเนินงานในด้านดิจิทัล ทีมงานรับทำ SEO ของ ANGA พร้อมรับผิดชอบในส่วนของ KPI ด้าน Organic Traffic เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในโลกดิจิทัล
จำไว้ว่า KPI ที่ดีไม่ได้มีไว้เพื่อกดดันทีม แต่เป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้ทุกคนในองค์กรมองเห็นเป้าหมายร่วมกัน และเดินหน้าไปในทิศทางเดียวกันอย่างมั่นใจ เพราะความสำเร็จขององค์กรไม่ได้วัดจากตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่วัดจากการเติบโตอย่างยั่งยืนของทั้งธุรกิจและบุคลากรไปพร้อมๆ กัน
พัฒนาสกิลที่ถูกต้องสำหรับผู้นำ
ด้านการตลาดออนไลน์
24 JANUARY
ธุรกิจรถยนต์ควรทำการตลาดอย่างไร บทความนี้มีคำตอบ! แจก 5 สุดยอดกลยุทธ์การตลาดรถยนต์ เร่งยอดขายพุ่งทะลุเป้าและสร้างโอกาสให้แก่ธุรกิจในปี 2025
24 JANUARY
24 JANUARY
24 JANUARY
24 JANUARY
24 JANUARY
ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ