เช็กลิสต์! 15 คุณสมบัตินักการตลาด ที่ขาดไม่ได้ หากต้องการเติบโตในสายงาน

By Rachavit Whangpatanathon I MD at ANGA Group

02 DECEMBER 24

2.2k

no.7.webp

เรากำลังจะก้าวเข้าสู่ปี 2025 ที่เป็นยุคแห่งการเติบโตของเทคโนโลยีทางการตลาด ซึ่งการแข่งขันทางการตลาดจะดุเดือดมากกว่าปี 2024 อีกเท่าตัว ธุรกิจของคุณจะอยู่รอดได้ยากหากไม่มีนักการตลาดฝีมือดีและมีคุณสมบัติที่เหมาะสมอยู่ใกล้ตัว บทความ ‘เช็กลิสต์! นักการตลาด คุณสมบัติ 15 ข้อที่ขาดไม่ได้’ จาก ANGA Mastery จะพาคุณไปทำความเข้าใจอาชีพนักการตลาดให้มากขึ้น พร้อมกับแนะนำ 15 คุณสมบัติของนักการตลาดที่ควรมีให้รู้กัน ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของธุรกิจที่กำลังจะสร้างทีมการตลาด หรือเป็นผู้ที่กำลังจะเริ่มต้นเป็นนักการตลาดมืออาชีพ ก็สามารถอ่านบทความนี้ได้ทั้งสิ้น

นักการตลาดคือใคร?

นักการตลาดคือคนที่ทำหน้าที่ผลักดันให้สินค้าหรือบริการของแบรนด์เป็นที่รู้จักและขายได้ อีกทั้งยังต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่แบรนด์ด้วย งานหลัก ๆ ของนักการตลาดคือการวางแผนและทำแคมเปญการตลาด ไม่ว่าจะเป็นการทำโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ , การสร้างคอนเทนต์, การจัดโปรโมชันส่งเสริมการขาย, การทำ SEO บนเว็บไซต์ หรือกิจกรรมทางการตลาดต่าง ๆ เพื่อให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายและสร้างยอดขายได้ตามที่ตั้งเป้าไว้

โดยแต่ละบริษัทจะมีตำแหน่งนักการตลาดไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับขนาดองค์กรและกลยุทธ์ที่ใช้ บางที่อาจมีแค่ Marketing Manager กับ Marketing Officer ที่ต้องทำงานแบบครบวงจร แต่ถ้าเป็นองค์กรใหญ่ ๆ หรือดิจิทัลเอเจนซี่ก็จะแบ่งย่อยลงไปอีก เช่น Digital Marketing, Content Marketing, Brand Marketing หรือ Social Media Marketing แต่ละคนก็จะมีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน

ในยุคนี้ นักการตลาด คุณสมบัติที่ต้องมีนั้นไม่ใช่แค่ความเชี่ยวชาญด้านใดด้านหนึ่ง แต่ต้องเก่งรอบด้านทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แถมยังมีแพลตฟอร์มและอัลกอริทึมใหม่ ๆ อัปเดตเพิ่มอยู่ตลอด หลายคนอาจเริ่มต้นจากการทำการตลาดทั่วไป แล้วค่อย ๆ พัฒนาตัวเองจนเชี่ยวชาญเฉพาะทาง สิ่งสำคัญคือต้องพร้อมเรียนรู้และปรับตัวอยู่เสมอ เพราะเทรนด์การตลาดเปลี่ยนแปลงเร็วมาก และคุณสมบัตินักการตลาดที่องค์กรต้องการก็เปลี่ยนไปตามยุคสมัยด้วยเช่นกัน

นักการตลาดต้องทำอะไรบ้าง

หน้าที่ของนักการตลาดไม่ได้มีแค่การทำโฆษณา หรือขายของเพื่อเพิ่มยอดขายเท่านั้น แต่ยังต้องดูแลภาพรวมทั้งหมดของแบรนด์ด้วย ตั้งแต่การวางแผนกลยุทธ์ วิเคราะห์ตลาด วิเคราะห์คู่แข่ง ไปจนถึงการทำแคมเปญ วัดผล และปรับปรุงแคมเปญให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งบางองค์กรอาจให้นักการตลาดรับผิดชอบงานแบบ Full Service ตั้งแต่ออฟไลน์ยันออนไลน์ได้ แต่บางที่ก็แบ่งทีมย่อยตามความเชี่ยวชาญ

  • วางแผนกลยุทธ์การตลาดและงบประมาณในแต่ละแคมเปญ
  • วิเคราะห์ตลาดและคู่แข่ง
  • สร้างและดูแลภาพลักษณ์แบรนด์
  • ทำแคมเปญการตลาดและโปรโมชัน
  • สร้างคอนเทนต์และดูแลช่องทางการสื่อสาร [ตัวอย่างคอนเท้นต์ที่น่าสนใจ]
  • วัดผลและวิเคราะห์ข้อมูลทางการตลาด
  • ประสานงานกับทีมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง

นักการตลาด ต้องมีทักษะอะไรบ้าง

นักการตลาด คุณสมบัติสำคัญที่ต้องมีคือการผสมผสานระหว่าง Hard Skills และ Soft Skills อย่างลงตัว ในด้าน Hard Skills ต้องเข้าใจหลักการตลาดพื้นฐาน รู้จักใช้เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูล และเข้าใจเทคโนโลยีดิจิทัล ส่วน Soft Skills ที่ขาดไม่ได้คือความคิดสร้างสรรค์ การสื่อสาร และการทำงานเป็นทีม นอกจากนี้ยังต้องมีทักษะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่ดีด้วย เพราะงานการตลาดเต็มไปด้วยสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดและไม่แน่นอน

  • ความคิดสร้างสรรค์และการเล่าเรื่อง
  • การวิเคราะห์ข้อมูลและการทำรายงาน
  • การบริหารจัดการเวลาและงาน
  • การใช้เครื่องมือดิจิทัลและโซเชียลมีเดีย
  • การทำงานภายใต้ความกดดัน
  • การสื่อสารที่ชัดเจน (ทั้งรับฟังและพูด)

นักการตลาด ต้องเก่งวิชาอะไร

พื้นฐานความรู้ที่จะช่วยให้คุณเป็นนักการตลาดที่ดีไม่ได้จำกัดแค่วิชาการตลาดเท่านั้น แต่ควรมีความรู้รอบด้านที่จะช่วยต่อยอดการทำงานได้ อย่างวิชาจิตวิทยาจะช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภค วิชาสถิติช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูล หรือวิชาการเขียนที่จะช่วยในการสร้างคอนเทนต์ ยิ่งรู้หลากหลายก็ยิ่งได้เปรียบในการทำงาน 

แต่การเรียนในห้องเรียนเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น คุณสมบัติของนักการตลาดที่ดีต้องหมั่นอัปเดตความรู้ใหม่ ๆ อยู่เสมอ ไม่ว่าจะผ่านการอบรม สัมมนา หรือเข้าคอร์สเรียนการตลาด เพราะวงการการตลาดเปลี่ยนแปลงเร็วมาก ความรู้เก่าอาจล้าสมัยได้ในเวลาไม่กี่เดือน

คอร์สเรียนที่แนะนำสำหรับนักการตลาดดิจิทัล

งาน Marketing หรือ งานการตลาดคืออะไร?

ทุกวันนี้เรามักได้ยินคำว่า "งานการตลาด" อยู่บ่อย ๆ แต่รู้หรือไม่ว่าจริง ๆ แล้วมันไม่ใช่แค่การขายของหรือทำโฆษณาเท่านั้น งานการตลาดคือศาสตร์และศิลป์ในการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้า ตั้งแต่การศึกษาว่าลูกค้าต้องการอะไร สร้างสินค้าหรือบริการให้ตอบโจทย์ ไปจนถึงวิธีการสื่อสารและส่งมอบคุณค่าให้ถึงมือลูกค้าด้วย 

ลองนึกภาพว่าคุณเป็นเจ้าของร้านทำเล็บ งานการตลาดของคุณไม่ได้จบแค่การทำโปรโมชันลดราคา แต่ยังรวมถึงการเลือกทำเลร้านในย่านที่กลุ่มลูกค้าเป้าหมายอยู่ การตกแต่งร้านให้สวยมีมุมถ่ายรูป การออกแบบลายเล็บที่กำลังเป็นเทรนด์ การสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายระหว่างรับบริการ หรือแม้แต่การฝึกช่างทำเล็บให้มีทักษะที่ดีและบริการประทับใจ ทั้งหมดนี้คืองานการตลาดที่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า

งานการตลาดดิจิทัลมีลักษณะอย่างไร

ถ้าเทียบกับร้านทำเล็บเมื่อกี้ งานการตลาดดิจิทัลก็เหมือนการขยายร้านไปอยู่ในโลกออนไลน์ แต่ความท้าทายคือคุณต้องแข่งขันกับร้านทำเล็บอื่น ๆ ทั่วประเทศ และลูกค้าสามารถเปรียบเทียบราคา ดูรีวิว หรือชมผลงานได้ในคลิกเดียว งานการตลาดดิจิทัลจึงต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์และเทคโนโลยีมาผสมผสานกัน เพื่อสร้างจุดเด่นและดึงดูดลูกค้าในโลกออนไลน์ เช่น

  • อัปเดตผลงานลายเล็บสวย ๆ บนโซเชียลมีเดีย อย่าง Instagram และ Facebook
  • ทำ SEO ให้ร้านติดอันดับการค้นหาใน Google หรือปักหมุดแผนที่ผ่าน Google My Bussiness
  • สร้างคอนเทนต์ให้ความรู้เกี่ยวกับเล็บ เช่น แนะนำวิธีดูแลเล็บ เป็นต้น
  • ทำโฆษณาออนไลน์เจาะกลุ่มเป้าหมาย
  • จัดการระบบจองคิวออนไลน์
  • สร้างระบบสมาชิกและสะสมแต้ม
  • ดูแลรีวิวและตอบคำถามลูกค้า

ข้อดีของการตลาดดิจิทัลคือคุณสามารถวัดผลได้แม่นยำ เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด และปรับเปลี่ยนโปรโมชันได้ทันที เช่น ถ้าช่วงไหนลูกค้าน้อย ก็สามารถปล่อยโปรโมชันพิเศษผ่านช่องทางออนไลน์ได้เลย แต่ก็แลกมากับการที่ต้องอัปเดตความรู้ตลอดเวลา เพราะเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงเร็วมาก วันนี้อาจมีลูกค้าเยอะจาก Instagram แต่พรุ่งนี้อาจต้องย้ายไปลงคอนเทนต์ในแพลตฟอร์มใหม่ที่กำลังมาแรงก็ได้

15 คุณสมบัติที่นักการตลาดดิจิทัลควรมี

  1. มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลและตัวเลขทางการตลาด พร้อมนำไปใช้วางแผนกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วย product-market fit
  2. เข้าใจเทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัล (MarTech) ต่าง ๆ เช่น เข้าใจว่า Google Analytics คืออะไร, Ahref คืออะไร , Google Seach Console คืออะไร
  3. มีทักษะการสื่อสารที่ดีเยี่ยม สามารถถ่ายทอดไอเดียและแผนงานให้ทีมและลูกค้าเข้าใจได้อย่างชัดเจน
  4. เป็นนักคิดเชิงกลยุทธ์ที่มองการณ์ไกล สามารถวางแผนการตลาดได้ทั้งระยะสั้นและระยะยาว
  5. มีความคิดสร้างสรรค์และไอเดียใหม่ ๆ ในการสร้างคอนเทนต์และแคมเปญการตลาดที่โดดเด่น ผ่าน Content Pillars
  6. ชอบเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ และปรับตัวได้เร็ว พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและเทรนด์การตลาดอยู่เสมอ เช่น เข้าใจวิธียิงแอด
  7. เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคออนไลน์และสามารถคาดการณ์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้ เช่น ศึกษาพฤรรมลูกค้าเพื่อหาคำตอบว่า ควรลงติ๊กต๊อกเวลาไหนดี
  8. เก่งเรื่องการบริหารจัดการโปรเจกต์และทีมงาน สามารถทำงานหลายอย่างพร้อมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  9. มีทักษะการเขียนที่ดี สามารถสร้างคอนเทนต์ที่น่าสนใจและโดนใจกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถคำนวณได้จาก TAM SAM SOM
  10. เข้าใจหลักการวัดผลและประเมินผลแคมเปญการตลาดดิจิทัล
  11. มีความสามารถในการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าและตัดสินใจได้อย่างรวดเร็ว
  12. เป็นนักฟังที่ดี สามารถรับฟังความต้องการของลูกค้าและทีมงานเพื่อพัฒนางานให้ดีขึ้น
  13. มีทักษะด้านการออกแบบพื้นฐาน เข้าใจการจัดวางองค์ประกอบและการใช้สีในงานดิจิทัล
  14. เข้าใจกลไกของโซเชียลมีเดียแต่ละแพลตฟอร์มและรู้วิธีใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ [ตัวอย่าง Content Marketing ที่ประสบความสำเร็จ]
  15. มีความรับผิดชอบสูงและรักษาคำมั่นสัญญากับลูกค้า ทำงานให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้

สรุป

เมื่อรู้แล้วว่า นักการตลาด คุณสมบัติพื้นฐานควรมีอะไรบ้าง ขั้นต่อไปคือการเลือกว่าคุณจะเชี่ยวชาญด้านไหนเป็นพิเศษ เพราะไม่มีใครเก่งไปหมดทุกด้าน บางคนอาจถนัดงาน Content Marketing และ Social Media ในขณะที่บางคนอาจชอบงานด้าน Performance Marketing ที่ต้องใช้ทักษะการวิเคราะห์ข้อมูลเป็นหลัก ดังนั้น อย่างแรกเลยคือคุณต้องรู้ว่าตัวเองอยากทำงานการตลาดส่วนไหน จากนั้นก็พิจารณาคุณสมบัตินักการตลาดที่ต้องมีตามสายอาชีพ และมุ่งพัฒนาทักษะในด้านนั้นจนเชี่ยวชาญ ผ่านช่องทางต่างๆเช่น คอร์สเรียน SEO และ คอร์สสอนการตลาด

Related News

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ