ASEO การทำ SEO รูปแบบใหม่ติดอันดับสูงได้ง่ายและเร็วบน Google และ AI platforms 2025

By Rachavit Whangpatanathon I MD at ANGA Group

24 NOVEMBER 24

10

ASEO.webp

หากคุณลงทุนสร้างเว็บไซต์เป็นของตัวเองเพื่อเปิดธุรกิจ แน่นอนว่าตัวคุณต้องการหวังให้ เวลาที่ user ค้นหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณบน Google หรือ บน AI Platforms ต่างๆ เช่น ChatGPT และ Gemini จะต้องเจอเว็บไซต์ของคุณปรากฎอยู่ตรงหน้า

วันนี้ ANGA Mastery แนะนำ Framework การทำ SEO รูปแบบใหม่ที่เรียกว่า ASEO หรือ Adaptive Search Engine Optimization ซึ่งจะช่วยทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับสูงได้ “ง่าย” และ “เร็ว” บน Google แถม เพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ของคุณเป็นแหล่งที่มาหลักเวลาที่ AI หยิบคำตอบจากเว็บคุณไปตอบคำถามผู้ใช้งาน

ASEO คืออะไร ?

ASEO คืออะไร

ASEO คือ การทำกลยุทธ์ SEO รูปแบบใหม่ในปี 2025 ที่จะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับได้ง่ายและเร็ว จากเดิมหลากหลายคนบอกว่า SEO มักใช้ระยะเวลานาน 6 เดือน ถึง 1 ปี ถึงเห็นผล แต่หากเราตีกรอบความคิดของเราให้พร้อมตั้งแต่แรกเริ่ม ทั้งในแง่ของ Technical อย่างเช่น การเตรียม Website และ Content Management System ให้ SEO-friendly หรือ ในแง่ของ content อย่างการวางแผนทีมเขียนว่า ธุรกิจของเรา ควรเลือก Keyword อย่างไร เข้าใจเทคนิคการเขียนว่า EEAT คืออะไร และ YMYL คืออะไร และ แม้กระทั่งการวางแผน OFFPAGE SEO ว่าจริงๆแล้ว มีสัญญาณภายนอกอื่นๆอีกไหม นอกจาก Backlink ที่จะเป็นส่วนเสริมให้ในส่วนของ OFFPAGE แข็งแกร่งขึ้น หากคุณวางแผนและเข้าใจปัจจัยทั้งหมดนี้ก่อนเริ่มลงมือทำ SEO คุณจะสามารถประหยัดได้ทั้งเวลาและบัทเจทในการทำ SEO ซึ่งทั้งหมดนี้ต่อจากนี้จะเรียกว่า ASEO ที่เราจะพูดถึงในวันนี้กันครับ

7 องค์ประกอบหลักของ ASEO มีอะไรบ้าง ?

การทำ ASEO จะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ซึ่งคือ

  1. Content Strategy 
  2. Site Trustworthiness
  3. Site Experience Quality

โดยทั้ง 3 ส่วนนี้จะมีองค์ประกอบหรือปัจจัยรวมอยู่ 7 ข้อในการทำให้ ASEO Framework สมบูรณ์แบบ โดยจะไล่ตั้งแต่ฐานของพีรามิดขึ้นไปจนถึงยอด ดังนี้

1. Keyword & Search Intent

7 องค์ประกอบหลักของ ASEO มีอะไรบ้าง

 

อันดับแรกเลยการวางแผน Keyword ยังคงเป็นหัวใจหลักที่จะบ่งบอกว่า SEO Campaign ของคุณจะประสบความสำเร็จหรือไม่ คุณต้องวางแผนการทำ Keyword Research แบบมีหลักการ โดยให้คลอบคลุมทุก Search Intent (เจตนาเบื้องหลังในการเสริจคำๆนั้น) 

ยกตัวอย่างเช่น 

  1. นาย A ค้นหาคำว่า “ลายสร้อยทองผู้ชาย” แน่นอนว่าเขาต้องการดูลายสร้อยทองว่ามีลายอะไรบ้าง ไม่ได้ต้องการดูหน้าสินค้าใดสินค้านึง ดังนั้น นาย A อาจจะไม่ใช่ ลูกค้าของเราในตอนนี้ แต่เป็น lead ที่มี potential ในอนาคต
  2. นาย B ค้นหาคำว่า “ร้านทองใกล้ฉัน” ในกรณีนี้เขาต้องการรู้ทันทีว่า ร้านทองที่อยู่ในรอบๆเขามีที่ไหนบ้าง เพื่อที่จะทำการซื้อหรือขายทองโดยด่วน ซึ่งหากคุณเลือกทำ keyword นี้ นาย B คนนี้มีโอกาส convert เป็น ลูกค้าสูงมากๆ

ดังนั้น การเลือกใช้ Keyword ประกอบกับเข้าใจ Search Intent จึงเป็น core หลักของการทำ ASEO หากวางแผนการเลือก Keyword อย่างมีหลักการ เราจะสามารถเก็บลูกค้าได้ตาม Marketing Funnel

 

2. High Quality Content

พอเห็นหัวข้อแล้ว อาจจะดูเป็นเรื่องเดิมที่นักทำ SEO ทุกคนรับรู้อยู่แล้ว แต่จริงๆแล้ว คำว่า High Quality Content ไม่ได้อยู่ที่ปริมาณ Keyword ความยาวของบทความ การสะกดคำ หรือ การหาตัวอย่างคอนเท้นต์ที่น่าสนใจ เพียงอย่างเดียวแต่เป็นเรื่องของการผสมผสานระหว่างการเขียนสไตล์ EEAT และ YMYL

 

EEAT คือหลักการสำคัญที่ Google ใช้ในการประเมินคุณภาพของเนื้อหาเว็บไซต์ โดยย่อมาจาก:

Experience (ประสบการณ์)

  • ผู้เขียนมีประสบการณ์จริงในเรื่องที่เขียนหรือไม่
  • มีการแสดงให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์ตรง

Expertise (ความเชี่ยวชาญ)

  • ผู้เขียนมีความรู้ความเชี่ยวชาญในเรื่องที่เขียนมากน้อยเพียงใด
  • มีวุฒิการศึกษา ใบรับรอง หรือผลงานที่แสดงถึงความเชี่ยวชาญ

Authoritativeness (ความน่าเชื่อถือ)

  • เว็บไซต์และผู้เขียนมีความน่าเชื่อถือในวงการนั้นๆ หรือไม่
  • มีการอ้างอิงจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ

Trustworthiness (ความไว้วางใจได้)

  • เนื้อหามีความถูกต้อง เชื่อถือได้
  • มีความโปร่งใสในการนำเสนอข้อมูล
  • มีการอัพเดทข้อมูลให้ทันสมัย

 

YMYL คือ สไตล์การเขียนคอนเท้นสำหรับเว็บไซต์ที่นำเสนอเนื้อหาที่อาจส่งผลกระทบต่อ "ความเป็นอยู่ที่ดี" ของผู้อ่าน (Your Money Your Life - YMYL) เช่น บทความเกี่ยวกับสุขภาพ ประกัน การเงิน กฎหมาย การเรียน และ อื่นๆ ซึ่งวิธีการเขียนคอนเท้นแบบ YMYL จะเป็นอีกระดับของความน่าเชื่อถือ เนื้อหาที่เขียนต้องรู้ลึก รู้จริง ชื่อผู้แต่งต้องมีชื่อเสียง ตรวจสอบได้

ดังนั้นคุณสามารถประเมินได้เลยครับว่า คุณจะเขียนสไตล์ EEAT หรือ YMYL หรือ สามารถเขียนควบคู่กันไปได้เลย

 

3. Silo-based structure

การทำ Internal link เพียงอย่างเดียว อาจจะไม่การันตี ranking ได้ แต่หากคุณวาง internal link ในแต่ละบทความ แต่ละหน้าแบบเป็น tree diagram เว็บไซต์ของคุณจะได้รับการส่งค่าพลังกันไปมาเหมือนใยแมงมุม ดังนั้น Internal link strategy เป็นสิ่งสำคัญครับในการทำ ASEO

4. Link Building

7 องค์ประกอบหลักของ ASEO มีอะไรบ้าง

Link Building หรือ Backlink ยังคงเป็นสิ่งสำคัญในการทำ SEO เพียงแต่ใน ASEO Framwork เราจะโฟกัสที่คุณภาพมากกว่าปริมาณ เช่น Backlink ต้องมาจากเว็บที่เกี่ยวข้องกันกับธุรกิจคุณ ต้องมี Traffic เข้าจริง และ ต้องมีค่า DR ที่สูง

5. External Signals

อ้างอิงจาก ANGA บริษัทรับทำ SEO ที่เชี่ยวชาญในหลากหลายอุตสาหกรรม ลองเทสดูแล้ว จริงๆแล้ว backlink ไม่ได้เป็นเพียงส่วนเดียวในการทำ OFFPAGE SEO แต่จริงๆแล้ว มีปัจจัยภายนอกอื่นๆที่ช่วยส่งเสริมบารมีเว็บไซต์ของคุณในสายตา Google ไม่ว่าจะเป็น Google My Business, Social Media Presence, ปริมาณ Brand Search, หรือแม้กระทั่งการทำ Offline Marketing ยกตัวอย่างเช่น

 

หากคุณค้นหาคำว่า Iphone 16 pro max คุณจะเจอกับเว็บไซต์ของ AIS แสดงผลอยู่ใน TOP3 แต่หากวิเคราะห์ดูดีๆแล้ว AIS ยังคงมีส่วนที่สามารถปรับปรุงได้อีกมากในแง่ของ SEO แต่ทำไมเขาถึงกลับติดอันดับสูงใน Keyword ที่แข่งขันสูงขนาดนี้ ? - External Signals คือคำตอบครับ หรือพูดง่ายๆ Google จับสัญญาณความดัง ความน่าเชื่อถือของ AIS ได้

6. Search Experience Optimization (SXO)

7 องค์ประกอบหลักของ ASEO มีอะไรบ้าง

หากเว็บไซต์ของคุณได้มีการติดตั้ง Google Analytics และ ติดตั้ง Google Tagnager แล้วเรียบร้อย การ Optmization หน้าๆนึงใน website เป็นสิ่งที่ควรทำเพื่ออันดับที่สูงขึ้น เช่น การปรับเปลี่ยน UX UI ให้ user อยู่กับหน้าของเรานานมากขึ้น แก้ไขสีของปุ่ม add to cart ให้น่ากดมากขึ้น หาก GA4 Events ต่างๆ แสดงผลในปริมาณที่มากขึ้น แน่นอนว่า Google เองก็จับสัญญาณเหล่านี้ได้เช่นกัน ส่งผลให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับได้สูงขึ้น ดังนั้น หากใครที่กำลังสงสัยว่า Google Analytics 4 มีประโยชน์อย่างไร - SXO คือคำตอบครับ จะส่งผลโดยตรงต่ออันดับบน Google ครับ

7. Technical Issues

เว็บไซต์ของคุณจำเป็นต้องมีปัญหา Technical ให้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ หรือ หากเกิดขึ้นแล้ว จำเป็นต้องมีคนแก้ไขและรู้วิธีแก้อย่างถูกต้อง ดังนั้นเพื่อเป็นการป้องกันปัญหาเหล่านี้ เจ้าของเว็บไซต์ควรปรึกษา SEO Specialist ก่อนเริ่มต้นกระบวนการในการสร้างเว็บไซต์ คุณจำเป็นต้องทราบเรื่อง SEO ก่อน เช่น CMS ไหน เหมาะสำหรับการทำ SEO มากที่สุด Wordpress หรือ Strapi หรือแม้กระทั่งต้องรู้ก่อนว่า UX UI แบบไหนเหมาะสำหรับการเขียน SEO Content 

 

แต่หากทีมคุณเจอปัญหาด้าน technical บน Google Search Console (ใครสงสัยว่า Google Search Console คืออะไร สามารถอ่านได้ที่บทความนี้) หากทีมพบปัญหาเช่น เจอ 404 Notfound แก้ยังไงHTTP Error 500 หรือแม้กระทั่งการติด Schema Markup ด้วย Google Tag Manager คุณจำเป็นต้องคุยกับ Developer ของคุณว่าสามารถแก้ไขได้ หรือ ก่อนคุณทำการจ้าง Freelance ต้องเช็คเงื่อนไขก่อนว่า หลังส่งมอบงานแล้ว สามารถแก้ไขได้หรือไม่ ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะต้องมีค่าใช้จ่ายแฝงที่จะต้องจ่ายให้กับ freelance ในทุกๆเดือนหากไม่มีการวางแผนที่ดี

 

สรุป ASEO 

จบกันไปแล้วกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการ SEO - จาก SEO สู่ ASEO ติดอันดับสูงได้ง่ายและไวมากขึ้น หากคุณมีการวางกลยุทธ์ ASEO และ มีการเตรียมความพร้อมสำหรับ 7 องค์ประกอบ หากใครสนใจในการเจาะลึกว่า ASEO ทำยังไง ตอนนี้ ANGA Mastery มีเปิดคอร์สเรียน SEO ได้ใบเซอร์ เป็นคลาสเรียนโดยตรงจาก ANGA เอเจนซี่ที่เชี่ยวชาญด้าน SEO เป็นพิเศษ พวกเราพร้อมแชร์ insights และ know-how ของพวกเราจากการเจอ SEO case study มามากกว่า 300 ธุรกิจในไทยและต่างประเทศ หากใครอยากทำ ASEO เป็น ไม่ควรพลาดคอร์สนี้ครับ

Related News

คู่มือการทำ Schema Markup บน WordPress ฉบับสมบูรณ์ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด

Wordpress schema markup เป็นทักษะที่ SEO Specialist ควรเชี่ยวชาญ ในบทความนี้ เราจะสอนการลงมือทำแบบละเอียดโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเมอร์

แชร์ 10 เทคนิคทำโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ เร่งยอดขาย 2025

ธุรกิจจะอยู่รอดต่อไปในอนาคตได้หรือไม่ ยอดขายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าคุณมียอดขายสูงพอ มันก็จะครอบคลุมในส่วนของเงินทุนที่เสียไปในตอนแรกและได้ทั้งกำไรที่จะต่อยอดธุรกิจต่อไป ซึ่งแบรนด์อย่างเรา ๆ ก็ต้องพยายามกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค ให้พวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องมีสิ่งนี้ และตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้นในท้ายที่สุด ผ่านการพูดโน้มน้าวใจโฆษณาสินค้าไปยังช่องทางต่าง ๆ อาทิ TikTok, Facebook หรือ Website ด้วยเหตุนี้การโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ จึงไม่ได้มีหน้าที่เพียงกระตุ้นความต้องการแล้วจบไปเท่านั้น แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิด Conversion ขึ้นจริง มาทำความเข้าใจเรื่องโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ พร้อมดูตัวอย่างการโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจจากแบรนด์ต่าง ๆ กับ ANGA Mastery ได้ที่นี่เลย

Google My Business คือเครื่องมือสำคัญ ที่ทุกธุรกิจห้ามพลาด

เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ ไม่ว่าใครก็ต้องหันมาพึ่งพาการทำการตลาดออนไลน์กันทั้งนั้น เพราะเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือข้อมูลบนโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักและเติบโตได้เร็วกว่าธุรกิจที่ไม่มีข้อมูลบนโลกออนไลน์เลย ยิ่งธุรกิจใดมีการปักหมุดแผนที่ลงไปใน Google Maps และใส่ข้อมูลรายละเอียดของธุรกิจอย่างครบครันด้วยล่ะก็ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ในวันนี้ ANGA Mastery จะมาแนะนำให้คุณรู้จักว่า Google My Business คืออะไร บอกได้เลยว่าสิ่งนี้ช่วยธุรกิจของคุณได้มาก ทั้งธุรกิจที่มีหน้าร้านก็ดี หรือธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านก็ตาม อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการทำ SEO พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ Local SEO ให้กับธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

คู่มือการทำ Schema Markup บน WordPress ฉบับสมบูรณ์ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด

Wordpress schema markup เป็นทักษะที่ SEO Specialist ควรเชี่ยวชาญ ในบทความนี้ เราจะสอนการลงมือทำแบบละเอียดโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเมอร์

แชร์ 10 เทคนิคทำโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ เร่งยอดขาย 2025

ธุรกิจจะอยู่รอดต่อไปในอนาคตได้หรือไม่ ยอดขายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าคุณมียอดขายสูงพอ มันก็จะครอบคลุมในส่วนของเงินทุนที่เสียไปในตอนแรกและได้ทั้งกำไรที่จะต่อยอดธุรกิจต่อไป ซึ่งแบรนด์อย่างเรา ๆ ก็ต้องพยายามกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค ให้พวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องมีสิ่งนี้ และตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้นในท้ายที่สุด ผ่านการพูดโน้มน้าวใจโฆษณาสินค้าไปยังช่องทางต่าง ๆ อาทิ TikTok, Facebook หรือ Website ด้วยเหตุนี้การโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ จึงไม่ได้มีหน้าที่เพียงกระตุ้นความต้องการแล้วจบไปเท่านั้น แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิด Conversion ขึ้นจริง มาทำความเข้าใจเรื่องโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ พร้อมดูตัวอย่างการโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจจากแบรนด์ต่าง ๆ กับ ANGA Mastery ได้ที่นี่เลย

Google My Business คือเครื่องมือสำคัญ ที่ทุกธุรกิจห้ามพลาด

เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ ไม่ว่าใครก็ต้องหันมาพึ่งพาการทำการตลาดออนไลน์กันทั้งนั้น เพราะเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือข้อมูลบนโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักและเติบโตได้เร็วกว่าธุรกิจที่ไม่มีข้อมูลบนโลกออนไลน์เลย ยิ่งธุรกิจใดมีการปักหมุดแผนที่ลงไปใน Google Maps และใส่ข้อมูลรายละเอียดของธุรกิจอย่างครบครันด้วยล่ะก็ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ในวันนี้ ANGA Mastery จะมาแนะนำให้คุณรู้จักว่า Google My Business คืออะไร บอกได้เลยว่าสิ่งนี้ช่วยธุรกิจของคุณได้มาก ทั้งธุรกิจที่มีหน้าร้านก็ดี หรือธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านก็ตาม อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการทำ SEO พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ Local SEO ให้กับธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ