13 AUGUST 24
134
ปัจจุบัน “ข้อมูล” กลายเป็นสินทรัพย์ที่มูลค่าอย่างมากต่อการทำธุรกิจ ทำให้การบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพจึงเป็นกุญแจสู่ความสำเร็จ Customer Data Platform หรือ CDP จึงเป็นเทคโนโลยีที่กำลังได้รับความสนใจอย่างมากในวงการการตลาดและการบริหารลูกค้าสัมพันธ์ แต่หลายคนอาจยังสับสนว่า CDP แตกต่างจาก CRM (Customer Relationship Management) ที่คุ้นเคยกันอยู่แล้วอย่างไร
บทความนี้ ANGA Mastery จะพาคุณเจาะลึกทุกแง่มุมของ CDP ตั้งแต่ความหมาย ประโยชน์ต่อธุรกิจ ไปจนถึงการเปรียบเทียบกับ CRM อย่างละเอียด พร้อมตัวอย่างการใช้งานจริงในธุรกิจ และข้อควรพิจารณาในการเลือกใช้ CDP เพื่อให้คุณเข้าใจและสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ
CDP หรือ Customer Data Platform คือแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์ที่ออกแบบมาเพื่อรวบรวม จัดระเบียบ และทำให้ข้อมูลลูกค้าจากหลากหลายแหล่งเป็นหนึ่งเดียว โดยสร้างโปรไฟล์ลูกค้าที่ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน โดยสามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ในการวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้า และส่งมอบประสบการณ์ที่ตอบโจทย์กับลูกค้าแต่ละรายได้
การนำ CDP มาใช้ในองค์กรสามารถสร้างประโยชน์มากมายให้กับธุรกิจ โดยเฉพาะในด้านการตลาดและการสร้างประสบการณ์ลูกค้า ดังนี้
CDP ช่วยให้นักการตลาดสามารถสร้างแคมเปญที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละรายได้อย่างแม่นยำ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงและการตอบสนองจากลูกค้า ตัวอย่างเช่น
ด้วยข้อมูลที่ครบถ้วน ธุรกิจสามารถวิเคราะห์พฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้อย่างละเอียด นำไปสู่
CDP ช่วยให้ทุกจุดสัมผัสกับลูกค้า ส่งผลให้ประสบการณ์โดยรวมของลูกค้าดีขึ้น เช่น
ทีมงานต่างๆ สามารถเข้าถึงข้อมูลเดียวกัน ช่วยลดความซ้ำซ้อนและเพิ่มความร่วมมือระหว่างแผนก ทำให้
แม้ว่า CDP และ CRM จะเกี่ยวข้องกับการจัดการข้อมูลลูกค้า แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญอยู่หลายข้อ เช่น
CDP: รวบรวมข้อมูลจากทุกแหล่ง ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ โดยอัตโนมัติ เช่น เว็บไซต์ แอพพลิเคชัน อีเมล โซเชียลมีเดีย ระบบ POS และแหล่งข้อมูลภายนอก
CRM: ส่วนใหญ่เน้นข้อมูลจากการปฏิสัมพันธ์โดยตรง เช่น การขาย การบริการลูกค้า และข้อมูลที่ป้อนเข้าระบบโดยพนักงาน
CDP: สร้างโปรไฟล์ลูกค้าแบบ 360 องศา อัพเดทแบบเรียลไทม์ และรวมข้อมูลจากทุกแหล่งเข้าด้วยกันโดยอัตโนมัติ
CRM: เน้นการบันทึกประวัติการทำธุรกรรมและการติดต่อ มักต้องอาศัยการป้อนข้อมูลจากพนักงาน
CDP: มุ่งเน้นการวิเคราะห์และการทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคล การสร้างประสบการณ์ลูกค้า และการวิเคราะห์เชิงลึก
CRM: เน้นการจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า กระบวนการขาย และการบริการลูกค้า
CDP: ทีมการตลาด นักวิเคราะห์ข้อมูล และทีมประสบการณ์ลูกค้า
CRM: ทีมขาย ทีมบริการลูกค้า และผู้จัดการความสัมพันธ์ลูกค้า
CDP: มีความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลขั้นสูง เช่น การทำนายพฤติกรรมลูกค้า การแบ่งกลุ่มลูกค้า และการวิเคราะห์เส้นทางการซื้อของลูกค้า
CRM: มักมีความสามารถในการรายงานและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน เน้นที่การติดตามยอดขายและประสิทธิภาพของทีมขาย
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น เรามาดูตัวอย่างการใช้งาน CDP ในธุรกิจต่างๆ กัน
ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่แห่งหนึ่งใช้ CDP เพื่อรวบรวมข้อมูลการซื้อสินค้าทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เพื่อดูพฤติกรรมการเปิดดูเว็บไซต์ และการใช้งานแอพพลิเคชัน เพื่อสร้างแคมเปญส่งเสริมการขายที่เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ผลลัพธ์ที่ได้
สถาบันการเงินชั้นนำใช้ CDP เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมการใช้จ่ายและการทำธุรกรรมของลูกค้า นำไปสู่
บริษัทสายการบินระดับโลกใช้ CDP เพื่อติดตามประวัติการเดินทาง ความชอบในการจองที่นั่ง และการใช้บริการต่างๆ ส่งผลให้
CDP เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับธุรกิจในยุคนี้ เพราะเป็นตัวช่วยให้องค์กรสามารถเข้าใจลูกค้าได้อย่างลึกซึ้งและส่งมอบประสบการณ์ที่เหนือกว่า แม้จะมีความคล้ายคลึงกับ CRM ในบางแง่มุม แต่ CDP ก็มีจุดเด่นในการรวบรวมและจัดการข้อมูลแบบองค์รวม ทำให้เหมาะสำหรับการทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลและการวิเคราะห์เชิงลึก
แม้การนำ CDP มาใช้ในองค์กรอาจเป็นการลงทุนที่สำคัญ แต่ผลตอบแทนที่ได้รับทั้งในแง่ของประสิทธิภาพการทำงาน ความพึงพอใจของลูกค้า และผลประกอบการทางธุรกิจ นั้นคุ้มค่ากับการลงทุน ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับธุรกิจที่ต้องการความได้เปรียบในการแข่งขันในยุคที่ข้อมูลเป็นกุญแจสำคัญ ดังนั้นควรพิจารณานำ CDP มาปรับใช้เพื่อยกระดับการบริหารจัดการข้อมูลลูกค้าให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
พัฒนาสกิลที่ถูกต้องสำหรับผู้นำ
ด้านการตลาดออนไลน์
24 NOVEMBER
ASEO (Adaptive Search Engine Optimization) การทำ SEO รูปแบบใหม่ ติดอันดับได้ง่ายและเร็วใน Google และ AI platforms
24 NOVEMBER
24 NOVEMBER
31 OCTOBER
30 OCTOBER
30 OCTOBER
ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ