การจัดโปรโมชันลดราคาสินค้าแบบธรรมดา ๆ หรือแบบรายเดือน อาจไม่ได้ทำให้เกิดยอดขายและสร้างความตื่นเต้นเร้าใจให้แก่ลูกค้าได้เท่ากับการจัด Flash Sale (แฟลชเซลล์) เพราะ Flash Sale คือกลยุทธ์การจัดโปรโมชันที่ดึงเอาระยะเวลาเข้ามาเป็นข้อจำกัด เพื่อเร่งเร้าให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้าภายในระยะเวลาที่กำหนด เนื่องจากว่ากลัวที่จะพลาดโอกาสนี้ไป ไม่แน่ว่าคุณอาจจะเป็นคนหนึ่งที่เคยตัดสินใจซื้อสินค้าเพราะคำว่า Flash Sale มาแล้วก็ได้ ซึ่งคุณสามารถพบการจัดแคมเปญ Flash Sale ได้บ่อยบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee Lazada หรือ TikTok สำหรับใครที่กำลังมองหากลยุทธ์การตลาดใหม่ ๆ เพื่อเร่งยอดขายให้พุ่งอย่างรวดเร็ว นอกเหนือจากการทำ E-Commerce SEO บนเว็บไซต์ ต้องมาทำความรู้จักกับ Flash Sale ในบทความนี้กับ ANGA Mastery เลย
Flash Sale คืออะไร
Flash Sale คือกลยุทธ์การขายสินค้าที่สร้างความเร่งด่วนในการตัดสินใจซื้อ ด้วยการนำเสนอส่วนลดที่พิเศษกว่าปกติ กำหนดระยะเวลาขายที่สั้น และมีจำนวนสินค้าจำกัด การทำ Flash Sale มักพบได้บ่อยบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่างๆ เพราะสามารถกระตุ้นยอดขายได้อย่างรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการระบายสต๊อกสินค้าหรือเพิ่มยอดขายในช่วงเวลาที่ต้องการก็ตาม
ซึ่งสิ่งที่ทำให้ Flash Sale แตกต่างและน่าสนใจกว่าการลดราคาทั่วไปคือการสร้างความรู้สึก FOMO (Fear of Missing Out) หรือความกลัวที่จะพลาดโอกาสดี ๆ ให้กับลูกค้า เมื่อลูกค้าเห็นส่วนลดที่สูงกว่าปกติ ประกอบกับเวลาที่จำกัดเพียงไม่กี่ชั่วโมงและสินค้าที่มีจำนวนน้อย ทำให้ลูกค้าต้องรีบตัดสินใจซื้อ เพราะถ้าช้าอาจจะพลาดโอกาสได้สินค้าราคาพิเศษไปนั่นเอง
Flash Sale Shopee คืออะไร
Flash Sale Shopee คือแคมเปญพิเศษที่ทาง Shopee คัดสรรสินค้าจากร้านค้าต่าง ๆ มานำเสนอในราคาสุดพิเศษ โดยจำกัดทั้งเวลาและจำนวนสินค้าที่ร่วมรายการ แคมเปญนี้จะมีการอัปเดตสินค้าใหม่ทุก 6-12 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกค้าได้เลือกซื้อสินค้าหลากหลายตลอดทั้งวัน ซึ่งทาง Shopee จะจัด Flash Sale อยู่ 3 รอบต่อวัน คือ
- รอบเที่ยงถึงเย็น (12.00 น. – 18.00 น.)
- รอบเย็นถึงเที่ยงคืน (18.00 น. – 00.00 น.)
- รอบดึกถึงเที่ยงวัน (00.00 น. – 12.00 น.)
การแบ่งช่วงเวลาแบบนี้ช่วยให้ผู้ซื้อสามารถวางแผนการช้อปปิ้งได้ล่วงหน้า และไม่พลาดสินค้าที่ต้องการ เพราะในแต่ละรอบจะมีสินค้าใหม่ ๆ เข้ามาให้เลือกซื้อแตกต่างกันไป อีกทั้งยังมีการบอกล่วงหน้าว่ารอบถัดไปจะจัดแฟลชเซลล์สินค้าอะไรบ้าง ทำให้สินค้ายอดฮิตหมดสต๊อกภายในระยะเวลาไม่กี่นาทีได้
ข้อดีของการจัดแฟลชเซลล์คืออะไร
- เร่งยอดขายได้อย่างรวดเร็ว เพราะการจำกัดเวลาและจำนวนสินค้าทำให้ลูกค้าต้องตัดสินใจเร็วขึ้น
- ขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ง่ายขึ้น เนื่องจากราคาพิเศษช่วยลดความลังเลในการทดลองซื้อสินค้า
- สร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้าง เพราะผู้คนมักแชร์ข้อมูลโปรโมชันพิเศษให้คนรู้จัก
- เพิ่มโอกาสการกลับมาซื้อซ้ำ เมื่อลูกค้าได้ทดลองใช้สินค้าคุณภาพดีในราคาพิเศษ
- ระบายสต๊อกสินค้าได้เร็ว โดยเฉพาะสินค้าที่มีจำนวนน้อยชิ้นหรือต้องการหมุนเวียนสต๊อก
ข้อเสียของการจัดแฟลชเซลล์มีอะไรบ้าง
- กำไรต่อชิ้นลดลง เนื่องจากต้องลดราคาสินค้าลงมากกว่าปกติ
- อาจได้ลูกค้าคุณภาพต่ำ ที่สนใจเพียงราคาถูกและไม่กลับมาซื้อซ้ำ
- เสี่ยงต่อการขายสินค้าราคาปกติไม่ได้ หากจัด Flash Sale บ่อยเกินไป
- ต้องเตรียมระบบให้รองรับผู้ใช้งานจำนวนมาก เพื่อป้องกันปัญหาระบบล่ม
- อาจกระทบต่อภาพลักษณ์สินค้าพรีเมียม ถ้าลดราคามากเกินไปหรือบ่อยเกินไป
- ต้องวางแผนสต๊อกสินค้าให้ดี เพราะหากสินค้าหมดเร็วเกินไปอาจทำให้ลูกค้าผิดหวัง
ร้านค้าแบบไหนเหมาะกับการจัด Flash Sale บ้าง
- ร้านค้าที่เพิ่งเปิดตัวสินค้าใหม่ เช่น แบรนด์เครื่องสำอางที่เพิ่งออกผลิตภัณฑ์ใหม่ การจัด Flash Sale จะช่วยให้ลูกค้ากล้าทดลองใช้สินค้าใหม่มากขึ้น
- ร้านค้าที่มีสินค้าในสต๊อกจำนวนมากและต้องการระบายสต๊อกอย่างรวดเร็ว เช่น ร้านเสื้อผ้าที่มีคอลเลกชันเก่าค้างสต๊อก หรือร้านรองเท้าที่ต้องการเคลียร์สินค้าเพื่อรับคอลเลกชันใหม่
- ร้านค้าที่กำลังสร้างแบรนด์และต้องการสร้างฐานลูกค้า เช่น ร้านอาหารเสริม สกินแคร์แบรนด์ใหม่ หรือแบรนด์เสื้อผ้าที่เพิ่งเริ่มต้น Flash Sale จะช่วยดึงดูดลูกค้าให้มาลองใช้สินค้าได้ง่ายขึ้น
- ร้านค้าที่ขายสินค้าตามเทรนด์ อย่างร้านขายอุปกรณ์ไอที กล้อง หรือของเล่นเทรนด์ใหม่ ๆ เมื่อนำสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมมาจัด Flash Sale มักจะได้รับความสนใจสูง
- ร้านค้าที่ขายสินค้าอุปโภคบริโภค เช่น ร้านขายของใช้ในบ้าน อาหารแห้ง หรือของใช้ประจำวัน การจัด Flash Sale จะช่วยกระตุ้นให้ลูกค้าซื้อในปริมาณมากขึ้นเพื่อเก็บไว้ใช้
- ร้านค้าที่มีสินค้าตามฤดูกาล เช่น ร้านเสื้อผ้าที่ต้องการระบายคอลเลกชันฤดูร้อนก่อนเข้าฤดูหนาว หรือร้านขายอุปกรณ์กีฬาที่ต้องการเปลี่ยนสต๊อกตามซีซั่น
แชร์ 4 เทคนิคจัด Flash Sale ให้เห็นผลจริงในปี 2025
หลาย ๆ คนคิดว่าแค่ลดราคาแรง ๆ แล้วจำกัดเวลา ก็เรียกว่าทำ Flash Sale ได้แล้ว แต่จริง ๆ แล้วมีเทคนิคอีกหลายอย่างที่จะช่วยให้การจัด Flash Sale ของคุณมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการขายสินค้าหมดอย่างรวดเร็ว การสร้างยอดขายได้ตรงตามเป้า หรือจะเป็นการมอบความประทับใจให้แก่ลูกค้าก็ตาม มาดูกันว่ามีเทคนิคอะไรบ้าง
1. เลือกสินค้าให้โดน ขายได้แน่นอน
การเลือกสินค้ามาลงในช่วง Flash Sale สำคัญมาก แม้จะเป็นของที่อยากระบายสต๊อก แต่ต้องเป็นสินค้าที่มีคุณภาพและคนรู้จักด้วย เพราะถึงจะลดราคาแรงแค่ไหน ถ้าไม่มีใครรู้จักสินค้าของคุณ หรือสินค้าไม่ดีไม่มีคุณภาพ การตัดสินใจซื้อก็เกิดขึ้นยาก ควรเพิ่มรายละเอียดสินค้าให้ครบถ้วน ใส่รูปสวย ๆ และบอกจุดเด่นให้ชัดเจน โดยเฉพาะถ้าเป็นสินค้าใหม่ที่ยังไม่มีคนรู้จักมากนัก
2. โปรโมตให้ทั่ว ก่อนเริ่ม Flash Sale
อย่าคิดว่าพอถึงเวลา Flash Sale แล้วลูกค้าจะวิ่งเข้ามาเอง คุณต้องโปรโมตหรือประกาศให้ลูกค้าและเหล่าผู้ติดตามทราบก่อนล่วงหน้าอย่างน้อย 3 วัน เพื่อให้พวกเขาได้เตรียมตัวและเตรียมเงินกันทัน แนะนำให้โปรโมตผ่านหลาย ๆ ช่องทาง หรือจะเป็นช่องทางหลักที่ใช้สื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรงอย่าง LINE OA ก็ได้
3. ทีมและระบบต้องพร้อม
ถ้าระบบล่มตอนจัด Flash Sale แอดมินตอบช้าเกินไป หรือส่งของช้ามากกว่ากำหนดนาน ลูกค้าอาจหงุดหงิดและไม่อยากกลับมาซื้อซ้ำได้ ดังนั้น คุณต้องต้องเตรียมระบบการสั่งซื้อและชำระเงินให้พร้อมรับคนจำนวนมาก จัดทีมแอดมินคอยตอบคำถาม เตรียมคนแพ็กของ และวางแผนการจัดส่งให้ดี เพื่อให้ทุกอย่างราบรื่นที่สุด
4. กำหนดเวลาให้เหมาะสม
Flash Sale ควรจัดแค่ 2-6 ชั่วโมงเท่านั้น ถ้านานเกินไปจะหมดความตื่นเต้น และลูกค้าอาจไม่รีบตัดสินใจซื้อ ส่วนเรื่องราคา ให้แสดงราคาเดิมและราคาที่ลดให้ชัดเจน ใช้ตัวเลขกลม ๆ จำง่าย และที่สำคัญ พอหมดเวลา Flash Sale ต้องรีบปรับราคากลับเป็นปกติทันที จะได้ไม่เสียภาพลักษณ์ว่าลดราคาตลอด
สรุป
Flash Sale คือกลยุทธ์การตลาดที่ทรงพลังสำหรับกระตุ้นยอดขายในระยะสั้น ด้วยการผสมผสานระหว่างส่วนลดพิเศษและเวลาจำกัด ที่กระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้า แต่การจะทำ Flash Sale ให้ประสบความสำเร็จ ร้านค้าต้องวางแผนอย่างรอบคอบ ทั้งการเลือกสินค้า การตั้งราคา การประชาสัมพันธ์ และการเตรียมระบบให้พร้อม อย่างไรก็ตาม ไม่ควรจัดบ่อยเกินไปเพราะอาจทำให้แบรนด์เสียภาพลักษณ์และขายสินค้าราคาปกติได้ยากขึ้น สุดท้ายนี้ ถ้าคุณกำลังมองหาคอร์สเรียนการตลาดออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นคอร์สเรียนยิงแอด, คอร์สเรียน Google Ads, คอร์สเรียน SEO หรือคอร์สเรียนใด ๆ ที่จะช่วยให้คุณทำการตลาดออนไลน์ได้ดียิ่งขึ้น สามารถสอบถามกับทาง ANGA Mastery ได้ทุกเมื่อ