Google Ads คืออะไร? เจาะลึกทุกมิติการลงโฆษณา พร้อมเทคนิคให้คุ้มทุกการลงทุน

By Tanin Chulasub I Head of Performance Marketing at ANGA

24 JANUARY 25

213

34.webp

การแข่งขันทางธุรกิจออนไลน์ที่สูงขึ้นทำให้หลายแบรนด์ต้องปรับตัว หนึ่งในเครื่องมือที่ทรงพลังที่สุดคือ Google Ads แพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ที่ช่วยให้ธุรกิจเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปทำความรู้จักกับ Google Ads อย่างละเอียด พร้อมแนะนำเทคนิคการใช้งานที่จะช่วยให้แคมเปญของคุณประสบความสำเร็จ จะมีอะไรกันบ้าง ไปดูกันเลย

ทำความรู้จัก Google Ads คืออะไร และทำงานอย่างไร

Google Ads (เดิมชื่อ Google AdWords) คือแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ที่ให้ธุรกิจสามารถแสดงโฆษณาบนผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของ Google ไม่ว่าจะเป็น Search Engine, YouTube, Gmail หรือเว็บไซต์พันธมิตร โดยการทำงานของ Google Ads นั้นอยู่บนระบบประมูลแบบ Pay-Per-Click (PPC) ซึ่งผู้ลงโฆษณาจะจ่ายเงินเมื่อมีผู้คลิกโฆษณาเท่านั้น

รูปแบบประเภทโฆษณาบน Google Ads

รูปแบบโฆษณาลักษณะเด่นข้อควรพิจารณา
Search Ads
  • โฆษณาข้อความในผลการค้นหา
  • ตอบสนองความต้องการโดยตรง
  • มี 3 หัวโฆษณา, 2 คำอธิบาย
  • ราคาต่อคลิกอาจสูงในบางอุตสาหกรรม
  • ต้องเลือกคีย์เวิร์ดอย่างระมัดระวัง
Display Ads
  • โฆษณารูปภาพบนเว็บพันธมิตร
  • หลากหลายขนาด
  • สร้างการรับรู้แบรนด์
  • CTR มักต่ำกว่า Search Ads
  • ต้องมีดีไซน์ที่ดึงดูด
Video Ads
  • โฆษณาวิดีโอบน YouTube
  • มีทั้งแบบข้ามได้และข้ามไม่ได้
  • สร้างการมีส่วนร่วมสูง
  • ต้องใช้งบประมาณสูง
  • ต้องผลิตคอนเทนต์คุณภาพ
Shopping Ads
  • แสดงภาพสินค้าและราคา
  • เชื่อมกับ Merchant Center
  • แสดงในผลการค้นหา
  • ต้องอัพเดทข้อมูลสินค้าสม่ำเสมอ
  • ต้องมีภาพสินค้าคุณภาพดี
Local Services Ads
  • แสดงในพื้นที่ใกล้เคียง
  • มีระบบรับรองจาก Google
  • จ่ายต่อลูกค้าที่ติดต่อ
  • ต้องผ่านการตรวจสอบจาก Google
  • มีเฉพาะบางประเภทธุรกิจ
Performance Max
  • ใช้ AI จัดการอัตโนมัติ
  • แสดงในทุกช่องทาง
  • ปรับแต่งตามผลตอบรับ
  • ควบคุมได้น้อย
  • ต้องมีข้อมูล Conversion ที่ดี
Discovery Ads
  • แสดงใน Feed ต่างๆ
  • รูปแบบเป็นธรรมชาติ
  • ใช้ AI ในการหากลุ่มเป้าหมาย
  • ต้องมีภาพคุณภาพสูง
  • อาจใช้เวลาในการเรียนรู้
Smart Campaigns
  • ตั้งค่าง่าย
  • จัดการอัตโนมัติ
  • รายงานเข้าใจง่าย
  • ควบคุมได้จำกัด
  • เข้าถึงฟีเจอร์ได้น้อย
App Ads
  • โปรโมทแอปอัตโนมัติ
  • แสดงในทุกช่องทาง
  • ใช้ Machine Learning
  • ต้องมีแอปที่มีคุณภาพ
  • ต้องมีการติดตามการติดตั้ง

 

กลยุทธ์การวางแผนแคมเปญ Google Ads

การสร้างแคมเปญที่มีประสิทธิภาพเริ่มต้นจากการวางแผนที่ดี เรามาดูองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้แคมเปญของคุณประสบความสำเร็จ

การเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม

การเลือกคีย์เวิร์ดที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเป็นหัวใจสำคัญ ควรพิจารณาทั้งความตั้งใจในการค้นหา (Search Intent) และปริมาณการค้นหา โดยใช้เครื่องมือ Google Keyword Planner ในการวิเคราะห์และเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม

การตั้งค่างบประมาณและการประมูล

การบริหารงบประมาณที่มีประสิทธิภาพเริ่มจากการเข้าใจระบบการประมูลของ Google Ads ควรพิจารณาปัจจัยต่างๆ เช่น

  • ค่า Cost-Per-Click (CPC) ที่เหมาะสมกับอุตสาหกรรม
  • การตั้งค่า Daily Budget ที่สอดคล้องกับเป้าหมาย
  • การใช้กลยุทธ์การประมูลอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

เทคนิคการปรับแต่งโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ

การสร้างโฆษณาที่มีประสิทธิภาพไม่ใช่แค่การเลือกคีย์เวิร์ดและตั้งงบประมาณ แต่ต้องให้ความสำคัญกับการปรับแต่งรายละเอียดต่างๆ ด้วย

การเพิ่ม Quality Score

Quality Score เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่ส่งผลต่อตำแหน่งการแสดงผลและราคาต่อคลิก สามารถปรับปรุงได้โดย

  1. สร้างความสอดคล้องระหว่างคีย์เวิร์ดและเนื้อหาโฆษณา
  2. ปรับปรุง Landing Page ให้ตรงกับความต้องการของผู้ใช้
  3. พัฒนา Click-Through Rate (CTR) อย่างต่อเนื่อง

การใช้ Ad Extensions อย่างชาญฉลาด

Ad Extensions ช่วยเพิ่มข้อมูลและพื้นที่การแสดงผลของโฆษณา ควรเลือกใช้ให้เหมาะสม เช่น:

  • Sitelink Extensions สำหรับแสดงลิงก์ที่เกี่ยวข้อง
  • Call Extensions สำหรับธุรกิจที่ต้องการการติดต่อทางโทรศัพท์
  • Location Extensions สำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้าน

การวัดผลและปรับปรุงประสิทธิภาพ

การวัดผลและวิเคราะห์ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาแคมเปญ ควรติดตามตัวชี้วัดสำคัญ เช่น Conversion Rate, Return on Ad Spend (ROAS) และ Cost Per Acquisition (CPA) อย่างสม่ำเสมอ พร้อมทั้งทดสอบและปรับปรุงองค์ประกอบต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง

สุดท้ายนี้ การใช้ Google Ads ให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยทั้งความเข้าใจพื้นฐาน การวางแผนที่ดี และการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง หากคุณเริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจหลักการพื้นฐาน และค่อยๆ พัฒนาทักษะการใช้งาน คุณจะสามารถสร้างแคมเปญที่มีประสิทธิภาพและคุ้มค่ากับการลงทุนได้อย่างแน่นอน

การใช้ข้อมูลเชิงลึกเพื่อพัฒนาแคมเปญ

การเข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคและการใช้ข้อมูลเชิงลึกอย่างชาญฉลาดเป็นกุญแจสำคัญในการพัฒนาแคมเปญ Google Ads ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด มาดูวิธีการนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์กัน

การวิเคราะห์ Search Terms Report

Search Terms Report คือรายงานที่แสดงคำค้นหาจริงที่ทำให้โฆษณาของคุณปรากฏ ข้อมูลนี้มีประโยชน์อย่างมากในการ

  • ค้นพบคีย์เวิร์ดใหม่ที่มีศักยภาพ
  • ระบุคำค้นหาที่ไม่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มเป็น Negative Keywords
  • เข้าใจภาษาที่กลุ่มเป้าหมายใช้จริง

การใช้ Audience Insights

Audience Insights ช่วยให้คุณเข้าใจลักษณะทางประชากรศาสตร์และพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการ

  1. ปรับแต่งข้อความโฆษณาให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น
  2. กำหนดช่วงเวลาแสดงโฆษณาที่เหมาะสม
  3. เลือกอุปกรณ์และตำแหน่งการแสดงผลที่มีประสิทธิภาพ

เทคนิคการทำ Remarketing อย่างมีประสิทธิภาพ

การทำ Remarketing บน Google Ads เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย โดยการแสดงโฆษณาซ้ำแก่ผู้ที่เคยเยี่ยมชมเว็บไซต์ของคุณ

การสร้าง Remarketing Lists ที่มีประสิทธิภาพ

การแบ่งกลุ่ม Remarketing ที่ละเอียดจะช่วยให้คุณสื่อสารได้ตรงจุดมากขึ้น เช่น

  • ผู้ที่เคยดูสินค้าแต่ยังไม่ซื้อ
  • ผู้ที่ทิ้งตะกร้าสินค้าไว้
  • ลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าแล้ว

การปรับแต่งข้อความโฆษณาตาม Customer Journey

การสร้างข้อความโฆษณาที่แตกต่างกันตามขั้นตอนการตัดสินใจซื้อของลูกค้า จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของแคมเปญ เช่น

  • ขั้นรับรู้: นำเสนอจุดเด่นของแบรนด์และสินค้า
  • ขั้นพิจารณา: แสดงโปรโมชันและข้อเสนอพิเศษ
  • ขั้นตัดสินใจ: เน้นความเร่งด่วนและกระตุ้นการตัดสินใจ

การใช้ Google Ads ร่วมกับช่องทางการตลาดอื่น

การผสมผสาน Google Ads กับช่องทางการตลาดอื่นๆ จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวมของแคมเปญ

การเชื่อมโยงกับ SEO

การวิเคราะห์ข้อมูลจาก Google Ads สามารถนำไปใช้พัฒนากลยุทธ์การรับทำ SEO ได้ โดย

  • นำคีย์เวิร์ดที่มีประสิทธิภาพไปพัฒนาเนื้อหา
  • ปรับปรุง Landing Page ตามข้อมูลพฤติกรรมผู้ใช้
  • วางแผนเนื้อหาตามความต้องการของตลาด

การผสมผสานกับ Social Media

การใช้ Google Ads ร่วมกับ Social Media จะช่วยเสริมประสิทธิภาพซึ่งกันและกัน เช่น:

  • แชร์ข้อมูลกลุ่มเป้าหมายระหว่างแพลตฟอร์ม
  • สร้าง Cross-Channel Remarketing
  • วางแผนงบประมาณให้เหมาะสมกับแต่ละช่องทาง

สรุปก้าวต่อไปของการทำ Google Ads

การทำ Google Ads ให้ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการเรียนรู้และพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการติดตามเทรนด์ใหม่ๆ การทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ หรือการปรับตัวตามพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง แต่สิ่งสำคัญคือการมีพื้นฐานที่แข็งแกร่งและความเข้าใจในหลักการพื้นฐาน ควบคู่ไปกับการกล้าทดลองใช้เครื่องมือและฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อค้นหาสิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

แต่หากใครต้องการย่นระยะเวลาการเรียนรู้และต้องการ Know-how จากผู้เชี่ยวชาญโดยตรง คอร์สเรียน Google Ads จาก ANGA Mastery เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ ด้วยประสบการณ์จากการดูแลบัญชีโฆษณามากกว่า 150+ บัญชี คอร์สนี้จะพาคุณเข้าใจ Google Ecosystem ทั้งหมด ตั้งแต่การทำ Keyword Research, Bidding, Targeting ไปจนถึง Ad Copy Strategies แบบมืออาชีพ พร้อมเรียนรู้จาก Case Study จริงในหลากหลายอุตสาหกรรม ให้คุณสามารถวัดผลและปรับแต่งแคมเปญได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อตอบโจทย์การทำโฆษณาบน Google Ads ให้กับธุรกิจคุณ

Related News

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ