Local SEO คืออะไร ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจท้องถิ่นได้อย่างไร

คุณเป็นเจ้าของธุรกิจที่มีหน้าร้าน หรือให้บริการในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งหรือเปล่า? ถ้าใช่ คุณเคยสงสัยไหมว่าจะทำอย่างไรให้ลูกค้าในบริเวณใกล้เคียง เจอธุรกิจของคุณง่ายขึ้น เพียงแค่พวกเขาค้นหาชื่อธุรกิจ (ไม่ใช่ชื่อร้าน) ลงไปบน Google เช่น “ร้านอาหาร ใกล้ฉัน” หรือ “ร้านดอกไม้ ทองหล่อ” ANGA Mastery ขอชวนคุณมาทำความรู้จักกับ Local SEO ที่จะทำให้ผู้คนค้นพบธุรกิจของคุณเจอง่ายมากขึ้น! ซึ่ง Local SEO คือกลยุทธ์ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จัก จากการปรากฏขึ้นบนหน้าแสดงผลการค้นหาในตำแหน่งสูง เมื่อมีคนค้นหาสินค้าหรือบริการที่คุณมี ช่วยเพิ่มโอกาสในการขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Local SEO คืออะไร

Local SEO คือกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่เน้นการทำให้ธุรกิจของคุณถูกค้นพบโดยผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ใกล้เคียง หรือผู้ที่กำลังมองหาสินค้าและบริการในทำเลที่เฉพาะเจาะจง นี่เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้าน หรือธุรกิจที่ให้บริการในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งโดยเฉพาะ ช่วยให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่ต้องการสินค้าหรือบริการในบริเวณนั้น ๆ ได้อย่างตรงจุด ยกตัวอย่างเช่น บริษัทรับทำ SEO ที่ตั้งอยู่สีลม ต้องการให้คนที่ค้นหา "รับทำ SEO สีลม" เจอธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้น การทำ Local SEO จึงช่วยลดการแข่งขันในวงกว้าง และดึงดูดลูกค้าที่พร้อมจะมาใช้บริการได้จริง

Local SEO สำคัญไหม

Local SEO มีความสำคัญอย่างมากในยุคปัจจุบัน เพราะช่วยให้ธุรกิจของคุณเชื่อมโยงกับลูกค้าในพื้นที่ได้โดยตรง Google มีระบบที่ช่วยจัดอันดับการค้นหาตามตำแหน่ง ทำให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสสูงที่จะปรากฏเมื่อผู้คนค้นหาบริการใกล้ตัว หรือระบุชื่อสถานที่ที่ต้องการ ซึ่งต่างจากการทำ SEO แบบทั่วไปที่ต้องแข่งกับคู่แข่งทั่วประเทศ การทำ Local SEO จึงเป็นกลยุทธ์ที่แข็งแกร่งสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก หรือร้านค้าที่มีหน้าร้าน เพื่อดึงดูดลูกค้าที่อยู่ไม่ไกลจากธุรกิจของคุณ

• เข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ ช่วยให้ธุรกิจของคุณเป็นที่รู้จักในกลุ่มลูกค้าที่อยู่ใกล้เคียง ทำให้มีโอกาสเพิ่มลูกค้าใหม่ ๆ ที่ค้นหาจาก Google Maps หรือใช้คำค้นหาที่ระบุตำแหน่ง
• เพิ่มโอกาสในการเยี่ยมชมร้าน สถิติแสดงให้เห็นว่าผู้คนจำนวนมากค้นหาธุรกิจในพื้นที่จากมือถือและตัดสินใจเดินทางไปที่ร้านค้าภายใน 24 ชั่วโมง
• สร้างความน่าเชื่อถือ เมื่อลูกค้าเห็นข้อมูลธุรกิจที่ครบถ้วนและชัดเจน เช่น เวลาเปิด-ปิด พิกัด หรือรีวิวจากลูกค้าคนอื่น ๆ จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับธุรกิจของคุณ
• เพิ่มยอดขาย การมีลูกค้าที่มาจากช่องทางออนไลน์และตัดสินใจมาใช้บริการที่ร้าน ย่อมนำไปสู่การเพิ่มยอดขายและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจของคุณ
• ลดการแข่งขัน คุณไม่ต้องแข่งขันกับธุรกิจขนาดใหญ่ทั่วประเทศ ทำให้ใช้ทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและประหยัดงบประมาณในการทำการตลาด

ตัวอย่างธุรกิจที่ควรทำ Local SEO 

• ร้านอาหารและคาเฟ่ เช่น ร้านอาหารไทย, คาเฟ่ริมน้ำ, ร้านพิซซ่า
• ธุรกิจบริการส่วนบุคคล เช่น ร้านทำผม, ร้านเสริมสวย, สปา, คลินิกทันตกรรม, ฟิตเนส
• ธุรกิจค้าปลีก เช่น ร้านขายเสื้อผ้า, ร้านขายอุปกรณ์กีฬา, ร้านหนังสือ
• ธุรกิจบริการในบ้าน เช่น ช่างประปา, ช่างไฟฟ้า, บริการทำความสะอาดบ้าน, ร้านซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า
• ธุรกิจด้านการศึกษา เช่น โรงเรียนกวดวิชา, สถาบันสอนภาษา
• ธุรกิจด้านยานยนต์ เช่น อู่ซ่อมรถ, ร้านยางรถยนต์, คาร์แคร์

Google Business Profile เครื่องมือช่วยทำ Local SEO

Google Business Profile (เดิมชื่อ Google My Business) เป็นเครื่องมือฟรีจาก Google ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถจัดการข้อมูลสำคัญที่จะแสดงผลบน Google Search และ Google Maps มันทำหน้าที่คล้ายหน้าร้านออนไลน์ที่ช่วยให้ลูกค้าค้นหาข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับธุรกิจของคุณได้อย่างรวดเร็ว เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เวลาทำการ รูปภาพ หรือแม้แต่รีวิวจากผู้ที่เคยใช้บริการ

ความเชื่อมโยงระหว่าง Google Business Profile กับ Local SEO นั้นสำคัญมาก เพราะข้อมูลที่คุณใส่เข้าไปในโปรไฟล์นี้ คือส่วนสำคัญที่ Google ใช้ประเมินว่าธุรกิจของคุณเกี่ยวข้องกับการค้นหาในพื้นที่มากน้อยแค่ไหน การมีโปรไฟล์ที่ครบถ้วนและถูกต้องจะช่วยเพิ่มโอกาสที่ธุรกิจของคุณจะปรากฏในการค้นหาแบบ Local เช่น เมื่อมีคนค้นหา "ร้านกาแฟใกล้ฉัน" หรือ "คลินิกสัตว์เลี้ยง [ชื่อย่าย]" ข้อมูลจาก Google Business Profile จะช่วยให้ Google แสดงธุรกิจของคุณให้เห็นเด่นชัดขึ้น ทำให้ลูกค้าค้นหาและมายังธุรกิจของคุณได้ง่ายขึ้นนั่นเอง

แจกเทคนิคทำ Local SEO ให้ได้ผลลัพธ์

หลังจากทำความเข้าใจกับ Local SEO และ Google Business Profile กันแล้ว ตอนนี้เราจะมาดูเทคนิคการทำ Local SEO ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีกัน การปรับแต่งโปรไฟล์ Google Business Profile ให้สมบูรณ์ รวมถึงการใช้เทคนิค On-Page SEO และ Off-Page SEO ที่เหมาะสม จะช่วยให้ธุรกิจของคุณติดอันดับการค้นหาและเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ได้ง่ายขึ้น

1. จัดการ Google Business Profile ให้สมบูรณ์

การทำให้โปรไฟล์ Google Business Profile ของคุณครบถ้วนเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญมาก ควรกรอกข้อมูลที่จำเป็นทั้งหมดอย่างถูกต้อง เช่น ชื่อธุรกิจ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ เว็บไซต์ และอีเมล เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและช่วยให้ลูกค้าติดต่อได้ง่าย นอกจากนี้ ควรอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจของคุณ และเพิ่มรูปภาพที่สวยงามน่าดึงดูด รวมถึงกระตุ้นให้ลูกค้าเขียนรีวิว และหมั่นอัปเดตข้อมูลหรือโพสต์เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และโปรโมชันใหม่ ๆ อยู่เสมอ

2. สร้างหน้าเว็บไซต์ที่เจาะจงพื้นที่ (Local Landing Page)

คุณสามารถสร้างหน้าเว็บไซต์แยกต่างหากที่เชื่อมโยงกับพื้นที่นั้น ๆ ได้ โดยใช้คีย์เวิร์ดที่ระบุตำแหน่งที่ตั้ง ซึ่งเป็นคีย์เวิร์ดเดียวกับที่คุณใช้ทำอันดับบน Google Maps การทำหน้า Landing Page เฉพาะนี้จะช่วยให้คุณสามารถเก็บคีย์เวิร์ดที่เจาะจงแต่ละสาขาได้ง่ายขึ้น และทำให้เนื้อหาบนเว็บไซต์สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าในแต่ละพื้นที่

3. ปรับแต่ง On-Page ของเว็บไซต์

การปรับปรุง On-Page บนหน้า Local Landing Page มีความสำคัญต่อการทำอันดับบน Google Maps และ Google Search คุณควรใช้คีย์เวิร์ดที่เจาะจงสถานที่ตั้งธุรกิจให้มากขึ้น โดยนำไปใส่ใน Title, Meta Description และในเนื้อหาของบทความ นอกจากนี้ ควรสร้างเนื้อหาที่ตรงกับความตั้งใจในการค้นหาของผู้ใช้งาน และอย่าลืมทำลิงก์ภายใน (Internal Link) เชื่อมโยงไปยังหน้าอื่น ๆ ในเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้อง ที่สำคัญ เว็บไซต์ควรออกแบบมาให้ใช้งานได้ดีบนมือถือ เพราะผู้ใช้งานส่วนใหญ่ค้นหาข้อมูลด้วยมือถือ และควรฝัง Google Map รวมถึงใส่รายละเอียดธุรกิจให้ครบถ้วนบนหน้าเว็บไซต์ด้วย

4. ใช้เทคนิค Off-Page เพื่อช่วย Local SEO

นอกจากการปรับ On-Page แล้ว การทำ Off-Page ก็สำคัญต่อ Local SEO เช่นกัน คุณสามารถเพิ่มลิงก์แผนที่ Google Map ไปยังช่องทางโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ที่ธุรกิจของคุณมี และสร้าง Local Citations โดยการได้รับลิงก์ย้อนกลับ (Backlink) จากเว็บไซต์ข่าวท้องถิ่น หรือธุรกิจที่มีชื่อเสียงในพื้นที่ นอกจากนี้ การหาเว็บไซต์ Directory หรือเว็บไซต์รีวิวที่เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการของคุณ เพื่อช่วยในการรีวิว ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยโปรโมตธุรกิจและทำอันดับ SEO ได้ดี

5. สร้าง Local Link ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ

การสร้าง Local Link ด้วยการทำการตลาดแบบออฟไลน์ เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยส่งเสริม Local SEO คุณสามารถหาโอกาสจัดกิจกรรมต่าง ๆ ในท้องถิ่น หรือร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจในพื้นที่เดียวกัน รวมถึงให้ส่วนลดพิเศษสำหรับธุรกิจในบริเวณนั้น ๆ การโปรโมตในรูปแบบนี้จะช่วยให้เกิดการเชื่อมโยงกลับมายังเว็บไซต์ของคุณ และช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ในท้องถิ่นได้อีกทางหนึ่ง

สรุป

ท้ายที่สุดแล้ว Local SEO คือกลยุทธ์ที่สำคัญอย่างยิ่งและไม่ควรมองข้ามสำหรับผู้ประกอบการธุรกิจท้องถิ่น การนำเทคนิคต่าง ๆ ที่เราได้แนะนำไปในบทความนี้มาปรับใช้ จะช่วยให้ธุรกิจของคุณปรากฏในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหาในพื้นที่ได้ และนำมาซึ่งโอกาสในการขายที่มากขึ้นอย่างแน่นอน ซึ่งจะช่วยให้ธุรกิจของคุณสามารถเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในตลาดปัจจุบัน หากคุณอยากเรียนรู้ทักษะการทำ SEO อย่างมืออาชีพ ลองดูคอร์สเรียน SEO จาก ANGA Mastery ได้เลย