คุณกำลังมองหาวิธีเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์ WordPress ของคุณในผลการค้นหา แต่รู้สึกว่าคำศัพท์เทคนิคอย่าง “schema markup” นั้นยากเกินไปหรือไม่? ไม่ต้องกังวลไป! ในฐานะผู้เชี่ยวชาญที่เคยช่วยเหลือเจ้าของเว็บไซต์กว่า 300 ธุรกิจ ผมขอบอกเลยว่า schema markup ไม่ได้ยากอย่างที่คิด มาดูกันว่าจะทำ schema markup บนเว็บ WordPress ของคุณได้อย่างไร แม้ว่าคุณจะไม่ใช่นักพัฒนาเว็บไซต์
Schema Markup คืออะไร ?
คุณเคยสังเกตไหมว่า เวลาค้นหาสูตรอาหารใน Google แล้วเห็นคะแนนดาวในผลการค้นหาเลย? หรือตอนที่ค้นหาร้านค้าแล้วเห็นเวลาเปิด-ปิดทันที? นั่นแหละคือการทำงานของ schema markup! มันเปรียบเสมือนการให้ชีทสรุปกับเครื่องมือค้นหา ช่วยให้พวกเขาเข้าใจและแสดงข้อมูลเว็บไซต์ของคุณได้ดียิ่งขึ้น
ประโยชน์ของ Schema Markup สำหรับ WordPress ของคุณ
- เพิ่มประสิทธิภาพผลการค้นหา
- เนื้อหาของคุณโดดเด่นด้วย rich snippets
- อัตราการคลิกสูงขึ้น
- การมองเห็นในผลการค้นหาดีขึ้น
- ประสบการณ์ผู้ใช้ที่ดีขึ้น
- ผู้ใช้เห็นข้อมูลสำคัญได้ทันที
- ใช้เวลาน้อยลงในการหาข้อมูลที่ต้องการ
- อัตราการมีส่วนร่วมสูงขึ้น
ต้องการติดตามว่าการปรับปรุงเหล่านี้ส่งผลต่อเว็บไซต์ของคุณอย่างไร? เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่บทความ Google Analytics มีประโยชน์อย่างไร!
ประเภทของ Schema Markup สำหรับ WordPress
Article Schema
เหมาะสำหรับบล็อกโพสต์และข่าวสาร ช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจ:
- โครงสร้างเนื้อหา
- ข้อมูลผู้เขียน
- วันที่เผยแพร่
Product Schema
จำเป็นสำหรับเว็บ e-commerce แสดง:
- ราคา
- สถานะสินค้า
- คะแนนสินค้า
- รีวิว
Local Business Schema
สำคัญสำหรับธุรกิจที่มีหน้าร้าน แสดง:
- ที่อยู่
- เบอร์โทรศัพท์
- เวลาทำการ
- คะแนนจากลูกค้า
Course Schema
สำคัญสำหรับธุรกิจที่เปิดคอร์สเรียน แสดง:
- ชื่อคอร์สเรียน
- ราคา
- คะแนนจากนักเรียน
วิธีเพิ่ม Schema Markup ใน WordPress (ไม่ต้องเขียนโค้ด!)
วิธีที่ 1: ติดตั้ง Schema Markup บน WordPress ด้วยการใช้ Plugin
WordPress เป็น CMS ที่ถูกพัฒนามาเพื่อให้พวกเราที่ไม่ใช่สายโปรแกรมเมอร์ ทำ SEO ได้ผลลัพท์ที่ดีและง่ายที่สุด ดังนั้น การติดตั้ง schema Markup บน wordpress ก็ไม่ใช่เรื่องยากและซับซ้อนเลย เพียงทำตามขั้นตอนดังนี้
-
ติดตั้ง WordPress Plugin ชื่อ Schema & Structurd Data for WP & AMP
-
เมื่อ Install สำเร็จแล้ว เข้าไปที่ Structured data ตรง menu bar ด้านซ้าย เลือก schema types และ กด add schema type
-
ต่อมาจะถึงขั้นตอนที่เราจะเลือกว่าเราต้องการติด schema อะไรให้กับหน้าประเภทไหนบน website ของเรา ในตัวอย่างนี้ผมเลือก article schema และจะให้ติดในทุกหน้าที่เป็นบทความ
- หลังจาก กด Next แล้ว ต่อมาจะเป็นการเลือก Placement ว่า อยากที่จะให้ Schema นี้ ไปติดที่หน้าประเภทไหน
-
ในกรณีนี้จะเลือก Post Type = Post ครับ เนื่องจากเราต้องการให้ Article Schema แสดงผลเฉพาะ หน้าบทความหรือ Post เท่านั้นครับ
- สุดท้าย กดปุ่ม Update ครับ เพียงเท่านี้คุณก็จะทำการติดตั้ง Article Schema สำเร็จเป็นที่เรียบร้อย

วิธีที่ 2: ติดตั้ง Schema Markup บน WordPress ด้วยการใช้ Google Tag Manager
สำหรับผู้ใช้ขั้นสูง สามารถใช้ Google Tag Manager ในการช่วยติดตั้ง Schema Markup ได้ ซึ่งจะมีความยืดหยุ่นและเราสามารถควบคุมมากกว่า แต่วิธีนี้จะมีความซับซ้อน และ ความเข้าใจด้าน Technical ที่มากพอสมควรหากใครสนใจสามารถดูวิธีทำโดยละเอียดได้ที่บทความ คู่มือการติดตั้ง schema markup ด้วย google tag manager
ข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในการทำ WordPress Schema Markup
- ใช้ประเภท Schema ไม่ถูกต้อง
- ข้อมูลไม่ครบถ้วน
- Schema Markup ล้าสมัย
- ขาดคุณสมบัติที่จำเป็น
ต้องการติดตามปัญหาเหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ? เรียนรู้เพิ่มเติมได้ที่ คอร์สเรียน SEO จาก ANGA Mastery
การทดสอบ Schema Markup บน WordPress

เราสามารถตรวจสอบได้ว่า Schema Markup ที่เพิ่มเข้าไปบน WordPress เมื่อสักครู่ สำเร็จโดยสมบูรณ์แบบในสายตาของ Google Bot หรือไม่ ง่ายๆ เพียงทำตาม ขั้นตอนการทดสอบมีดังนี้:
- เข้าไปที่เว็บไซต์ Rich Results Test ของ Google ที่ https://search.google.com/test/rich-results
- สามารถทดสอบได้ 2 วิธี:
- ใส่ URL ของหน้าเว็บที่ต้องการทดสอบ
- วาง Code HTML ที่มี Schema Markup ลงไปโดยตรง
- กดปุ่ม “TEST URL” หรือ “TEST CODE” เพื่อเริ่มการทดสอบ
- ระบบจะแสดงผลการทดสอบ โดยจะบอก:
- Schema Markup ที่ตรวจพบในหน้าเว็บ
- ข้อผิดพลาดที่พบ (ถ้ามี)
- คำแนะนำในการแก้ไข
- ตัวอย่างการแสดงผลบน Google Search
- หากพบข้อผิดพลาด ให้แก้ไข Schema Markup ตามคำแนะนำ แล้วทำการทดสอบซ้ำจนกว่าจะผ่าน
เครื่องมือนี้มีประโยชน์มากในการตรวจสอบ Schema Markup ก่อนที่จะนำขึ้นเว็บไซต์จริง ช่วยให้มั่นใจว่า Rich Results จะแสดงผลได้อย่างถูกต้อง
สรุปการติดตั้ง Schema Markup บน WordPress
Schema markup อาจดูเป็นเรื่องทางเทคนิค แต่เป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับความสำเร็จของ SEO ในยุคปัจจุบัน ด้วยการทำตามคู่มือนี้ คุณสามารถติดตั้ง schema markup บนเว็บไซต์ WordPress ของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่จำเป็นต้องมีทักษะทางเทคนิคขั้นสูง อย่าลืมอัพเดทและติดตามการทำงานของ schema อย่างสม่ำเสมอเพื่อรักษาประสิทธิภาพ