10 วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย เพิ่มฐานลูกค้านำพาธุรกิจให้เติบโต

By Suppanat Thaiyanant I Google Analytics 4 Specialist

13 MARCH 25

648

content 13.webp

หลาย ๆ ธุรกิจเสียค่าใช้จ่ายในการลงทุนทำโฆษณาไปเยอะมาก แต่ยอดขายไม่เพิ่มขึ้นและแทบไม่มีลูกค้าใหม่ ๆ เลย นั่นแปลว่าคนที่ซื้อสินค้าของคุณคือคนที่รู้จักแบรนด์ของคุณอยู่แล้ว และลูกค้าใหม่ไม่เห็นแบรนด์ของคุณผ่านหูผ่านตาเลย ซึ่งปัญหานี้อาจเกิดจากการยิงโฆษณาไปไม่ตรงกลุ่ม เพราะไม่รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของธุรกิจคืออะไรก็เป็นได้ เพื่อให้คุณสามารถเพิ่มยอดขายและนำพาธุรกิจให้เติบโตในปี 2025 ได้อย่างมั่นคง ANGA Mastery จึงจะมาสอนวิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย (Target Audience) เพื่อนำไปใช้ประกอบการสร้างแคมเปญโฆษณาและวางกลยุทธ์การตลาดให้รู้กัน

 

ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคือใคร 

ลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย หรือ Target Audience คือกลุ่มคนที่มีโอกาสจะสนใจและตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการของธุรกิจคุณมากที่สุด คนกลุ่มนี้มักมีลักษณะทางประชากรศาสตร์คล้ายกัน ทั้งเรื่องอายุ เพศ รายได้ การศึกษา รวมถึงพฤติกรรม อย่างความชอบ ค่านิยม ทัศนคติ และไลฟ์สไตล์ เมื่อคุณเข้าใจว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคือใคร คุณจะสามารถวางแผนการตลาดได้อย่างแม่นยำและสื่อสารกับพวกเขาได้ตรงจุดมากขึ้น

Target Audience ต่างจาก Target Market ตรงที่มีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า ในขณะที่ Target Market หมายถึงกลุ่มผู้บริโภคกลุ่มใหญ่ที่ ‘อาจจะ’ สนใจสินค้าของคุณ แต่ Target Audience คือกลุ่มย่อยที่เน้นไปที่ตัวบุคคลและมีความเฉพาะเจาะจงมากกว่า การระบุ Target Audience ที่ชัดเจน ช่วยให้คุณสร้างเนื้อหาที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนกลุ่มนี้และเพิ่มโอกาสในการได้มาซึ่งยอดขายที่สูงขึ้นได้
 


Target Audience สำคัญอย่างไร ทำไมต้องหา

กลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพสูง เริ่มต้นจากการทำความเข้าใจว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคือใคร เพื่อให้สามารถวางแผนและกำหนดทิศทางของสิ่งที่จะสื่อสารออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ต้องเสียค่ายิงโฆษณาแบบกว้าง ๆ ไปฟรี ๆ และ ไม่ต้องใช้เวลาทำการตลาดนานเป็นปีถึงจะสร้างผลลัพธ์ที่ตรงตามเป้าได้ ผลลัพธ์ที่ตามมาคือโฆษณาเข้าไปถึงลูกค้าที่มีความสนใจในสินค้าและพร้อมซื้อ ยอดขายของธุรกิจเพิ่มขึ้น และคุ้มค่ากับการลงทุน ด้วยเหตุนี้ การรู้วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจึงเป็นเรื่องสำคัญที่นักการตลาดและเจ้าของธุรกิจไม่ควรมองข้าม

10 วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย อัปเดต 2025

วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย หรือการทำ Target Audience Analysis จะช่วยให้คุณรู้ว่าลูกค้าที่แท้จริงคือใคร ไม่ทำให้สื่อสารผิดคน ผิดช่องทาง ผิดเวลา และเสียงบประมาณไปแบบฟรี ๆ นอกจากนี้ ยังช่วยให้คุณนำข้อมูลไปพัฒนาปรับปรุงสินค้าให้ตอบโจทย์โดนใจผู้บริโภคได้ดีมากขึ้นด้วย มาดูกันว่า 10 วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่เราเอามาฝากกันนี้จะมีวิธีไหนกันบ้าง

1. วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าปัจจุบัน

คุณสามารถเริ่มต้นหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจากสิ่งที่มีอยู่อย่างฐานลูกค้าปัจจุบันได้ ลองรวบรวมข้อมูลของลูกค้าปัจจุบันและนำไปวิเคราะห์ เพื่อค้นหาลักษณะร่วมหรือสิ่งที่มีเหมือนกัน เพียงเท่านี้ คุณก็จะมองเห็นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนขึ้นแล้ว โดยข้อมูลที่คุณควรนำไปพิจารณา ได้แก่ ข้อมูลประชากรศาสตร์ (อายุ เพศ ที่อยู่ การศึกษา รายได้), ความชอบและความสนใจ, พฤติกรรมการซื้อ (ความถี่ในการซื้อ มูลค่าการซื้อเฉลี่ย ช่วงเวลาที่ซื้อ) และช่องทางการติดต่อ (ลูกค้ารู้จักและติดต่อกับธุรกิจของคุณผ่านช่องทางไหน)

2. สร้าง Buyer Persona

การสร้าง Buyer Persona จะทำให้คุณมองเห็นลูกค้าในภาพที่ชัดเจนและมีมิติมากขึ้น (เห็นเป็นคนจริง ๆ ) ที่มีทั้งความต้องการ ปัญหา ความกังวลใจ และแรงจูงใจในการซื้อที่ชัดเจน ซึ่ง Buyer Persona คือตัวแทนของลูกค้าในอุดมคติที่คุณสร้างขึ้นจากข้อมูลจริงและการคาดการณ์นั่นเอง Buyer Persona ที่ดีจะช่วยให้ทุกคนในองค์กรเข้าใจตรงกันว่ากำลังทำงานเพื่อใคร ทุกอย่างจะสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน โดยองค์ประกอบของ Buyer Persona ที่ดี ควรมีสิ่งเหล่านี้

  • ข้อมูลส่วนตัว (ชื่อสมมติ อายุ อาชีพ สถานภาพ)
  • เป้าหมายและความท้าทาย (อะไรที่พวกเขาต้องการบรรลุ และอะไรที่เป็นอุปสรรค)
  • แรงจูงใจในการซื้อ (ทำไมพวกเขาถึงต้องการสินค้าหรือบริการแบบนี้)
  • ช่องทางการรับข้อมูล (พวกเขาหาข้อมูลจากที่ไหน)
  • ข้อกังวลหรือข้อโต้แย้งที่อาจมี (อะไรที่อาจทำให้พวกเขาลังเลที่จะซื้อ)

3. ใช้ Google Analytics 4 (GA4)

Google Analytics 4 คือเครื่องมือวิเคราะห์ผู้เข้าชมเว็บไซต์ฟรี จาก Google ซึ่งคุณสามารถใช้ในการหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้ โดยวิเคราะห์จากข้อมูลประชากรและพฤติกรรมการใช้งาน เช่น ดูว่าผู้ใช้มาจากช่องทางไหน เพศอะไร สนใจเนื้อหาอะไร ใช้เวลานานแค่ไหนบนเว็บไซต์ และทำอะไรต่อไปหลังจากเข้าชม ซึ่งเมนู Audience Insights ใน GA4 จะช่วยให้คุณเห็นข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับ Affinity Categories (กลุ่มความสนใจ) และ In-Market Segments (กลุ่มผู้ที่กำลังมองหาสินค้าหรือบริการ) ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการระบุกลุ่มเป้าหมายที่มีความแม่นยำสูง

4. สำรวจ Insight บนโซเชียลมีเดีย

Social Media ยอดนิยม อย่าง Facebook, Instagram, TikTok และ X (Twitter) จะมีเครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลมาให้อยู่แล้ว เครื่องมือนี้จะแสดงข้อมูลผู้ติดตามและคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับเนื้อหาของคุณอย่างละเอียด คุณสามารถเจาะเข้าไปดูข้อมูลทางประชากรศาสตร์ ความสนใจ ช่วงเวลาที่ผู้ติดตามออนไลน์ และประเภทของเนื้อหาที่ได้รับความนิยมสูงสุด พร้อมกับวิเคราะห์โพสต์ที่ได้รับความสนใจสูงที่สุดว่าเพราะอะไร ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้คุณเจอลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้

5. ทำการวิจัยตลาดแบบเจาะลึก

การวิจัยตลาด (Market Research) อย่างเจาะลึก จะช่วยให้คุณได้รับข้อมูลเชิงคุณภาพที่มีความชัดเจนมากกว่าตัวเลข เมื่อคุณเข้าใจในส่วนนี้แล้ว คุณจะสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้นได้ ซึ่งสามารถทำได้ด้วยวิธีเหล่านี้เลย 

  • สร้างแบบสอบถามออนไลน์ เพื่อเก็บข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมาย
  • การสัมภาษณ์เชิงลึกหรือพูดคุยกับลูกค้าปัจจุบันและลูกค้าที่มีศักยภาพ
  • รวบรวมกลุ่มคนที่เป็นตัวแทนของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและมุมมอง

6. ใช้ Social Listening Tools ฟังเสียงผู้บริโภค

Social Listening Tools คือเครื่องมือที่จะช่วยให้แบรนด์รู้ว่าผู้บริโภคมีการพูดถึงแบรนด์หรือเรื่องที่เกี่ยวกับธุรกิจของคุณอย่างสินค้าและบริการบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ อย่างไรบ้าง ซึ่งข้อมูลที่ได้จาก Social Listening จะช่วยให้แบรนด์เข้าใจเข้าใจความต้องการและความคาดหวังของลูกค้า, รู้ว่าสิ่งที่ลูกค้ากังวลคืออะไร, รู้ความคิดเห็นของลูกค้าเกี่ยวกับสินค้า และสามารถใช้ในการติดตามเทรนด์หรือแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมได้ด้วย

7. วิเคราะห์คู่แข่งและกลุ่มเป้าหมายของพวกเขา

คู่แข่งที่ทำธุรกิจเดียวกัน มีสินค้าและบริการเหมือนกัน ถือเป็นแหล่งข้อมูลชั้นเยี่ยมในการที่คุณจะเข้าไปศึกษาและวิเคราะห์เกี่ยวกับธุรกิจ กลยุทธ์การตลาด ช่องทางการตลาด จุดอ่อนและจุดแข็ง รวมถึงกลุ่มเป้าหมายของพวกเขา และสามารถใช้ในการหาช่องว่างที่คุณสามารถเติมเต็มได้

8. ใช้เทคโนโลยี AI วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า

ในปี 2025 เทคโนโลยี AI และ Machine Learning มีบทบาทสำคัญในการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าขนาดใหญ่ แพลตฟอร์ม AI สามารถช่วยคุณค้นหาสิ่งที่มีเหมือนกันหรือความเชื่อมโยงที่อาจมองข้ามไปในข้อมูลได้ ทำให้คุณเข้าใจและรู้จักลูกค้ากลุ่มเป้าหมายดีขึ้น เช่น การจัดกลุ่มลูกค้าตามพฤติกรรมการซื้อ, การคาดการณ์แนวโน้มความต้องการในอนาคต, การระบุโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ หรือการวิเคราะห์ความรู้สึกของลูกค้าจากรีวิวและคอมเมนต์

9. วิเคราะห์ผู้ติดตามของ Influencer

Influencer หรือผู้ที่มีอิทธิพลในอุตสาหกรรม มักมีความเข้าใจที่ดีเกี่ยวกับกลุ่มผู้ติดตามของพวกเขา ลองวิเคราะห์ดูว่าอินฟลูเอนเซอร์เหล่านี้กำลังพูดถึงเรื่องอะไร และมีคนกลุ่มไหนบ้างที่ติดตามพวกเขาอยู่ ซึ่งจะช่วยให้คุณเข้าใจแนวโน้มและความสนใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีศักยภาพ อันดับแรกให้ตามหาก่อนว่าอินฟลูเอนเซอร์หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงในอุตสาหกรรมเดียวกับธุรกิจคุณมีใครบ้าง จากนั้นให้ไปวิเคราะห์หัวข้อของคอนเทนต์ ภาษาและโทนที่ใช้ในการสื่อสาร รูปแบบของเนื้อหาที่ได้รับการตอบรับที่ดี และลักษณะของผู้ติดตาม

10. ทดสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

เพราะคุณสามารถเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ได้ทุก ๆ วัน ดังนั้น การค้นหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจึงไม่ใช่สิ่งที่ทำครั้งเดียวจบ บอกเลยว่าครั้งเดียวไม่เพียงพอต่อการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว เพราะเหตุนี้ คุณจึงควรทดสอบและปรุงปรุงแคมเปญอย่างต่อเนื่อง อาทิ ทดลองใช้แคมเปญการตลาดกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกัน, ทดสอบข้อความและภาพประกอบหลาย ๆ แบบ, วัดผลและวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ และปรับกลยุทธ์ตามผลลัพธ์ที่ได้อย่างต่อเนื่อง เพิ่มให้แคมเปญมีประสิทธิภาพมากที่สุด

สรุป

วิธีหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก สำหรับธุรกิจที่มีการยิงโฆษณาอย่างไร้ทิศทางและไม่สามารถสร้างผลลัพธ์จากการทำการตลาดได้ เพราะไม่รู้ว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายที่แท้จริงของธุรกิจตัวเองคืออะไร หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณสามารถค้นหาลูกค้ากลุ่มเป้าหมายหรือ Target Audience ได้อย่างมีคุณภาพ จนสามารถเพิ่มยอดขายและสร้างการเติบโตให้แก่ธุรกิจในปี 2025 ได้อย่างราบรื่น ทั้งนี้ หากคุณกำลังมองหาคอร์สเรียน Marketing เพิ่มทักษะในด้านการตลาด ANGA Mastery เปิดสอนการตลาดออนไลน์ โดยผู้เชี่ยวชาญจากดิจิทัลเอเจนซี่ชั้นนำ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่หน้าเว็บไซต์ของเราเลย ไม่ว่าจะเป็นคอร์สเรียน SEO, คอร์สสอนวางกลยุทธ์ SEO สำหรับผู้บริหาร, คอร์สสอนยิงแอดต่าง ๆ อาทิ คอร์สสอน Google Ads หรือคอร์สเรียน Facebook Ads เป็นต้น

Related News

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ