13 AUGUST 24
460
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจสูงขึ้นและเวลาเป็นทรัพยากรที่มีค่า การทำงานอย่างชาญฉลาดหรือ Smart Work กลายเป็นทักษะสำคัญที่ทุกคนควรมี ซึ่งเจ้าตัวเทคนิค SMART WORKนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเครียดและสร้างสมดุลชีวิตที่ดีขึ้น เพราะการทำงานอย่างชาญฉลาดไม่ได้หมายถึงการทำงานหนักขึ้น แต่หมายถึงการทำงานอย่างมีกลยุทธ์และใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าที่สุด บทความนี้ ANGA Mastery จะพาคุณไปเรียนรู้วิธีการทำงานอย่างชาญฉลาดผ่านเทคนิค SMART WORK พร้อมทั้งวิธีการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงและการทำงาน
SMART WORK เป็นแนวคิดในการทำงานที่เน้นการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเน้นที่ผลลัพธ์มากกว่าเวลาที่ใช้ แนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่ได้รับความนิยมมากขึ้นในยุคปัจจุบัน ที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในการทำงาน โดยคำว่า SMART ในที่นี้เป็นตัวย่อที่มีความหมายลึกซึ้ง และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้กับทุกลักษณะงาน ไม่ว่าจะเป็นงานส่วนตัวหรืองานในองค์กร มาดูความหมายของแต่ละตัวอักษรกัน
การทำงานแบบ Smart Work เริ่มต้นด้วยการกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจง การตั้งเป้าหมายแบบกว้างๆ มักไม่ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม แทนที่จะตั้งเป้าหมายกว้างๆ ว่า "ต้องการเพิ่มยอดขาย" ให้ระบุไปเลยว่า "ต้องการเพิ่มยอดขายผลิตภัณฑ์ A ขึ้น 20% ภายใน 3 เดือน"
ตัวอย่างการตั้งเป้าหมายแบบเฉพาะเจาะจง
เป้าหมายที่ดีต้องสามารถวัดผลได้ การกำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณติดตามความก้าวหน้าและประเมินความสำเร็จได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น การวัดจำนวนลูกค้าใหม่ หรือการวัดอัตราการเติบโตของรายได้
การมีเป้าหมายที่วัดผลได้มีประโยชน์ดังนี้
ตัวอย่างการกำหนดตัวชี้วัดที่วัดผลได้
เป้าหมายควรท้าทายแต่ไม่เกินความสามารถ การตั้งเป้าหมายที่เป็นไปได้จะสร้างแรงจูงใจและความมั่นใจในการทำงาน แทนที่จะสร้างความกดดันและความท้อแท้ เป้าหมายที่ท้าทายเกินไปอาจทำให้ทีมงานรู้สึกท้อแท้และยอมแพ้ก่อนที่จะเริ่มลงมือทำ
วิธีการตั้งเป้าหมายที่สามารถทำได้จริง
เป้าหมายย่อยในการทำงานควรสอดคล้องและสนับสนุนเป้าหมายใหญ่ขององค์กรหรือชีวิตของคุณ การทำงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับเป้าหมายหลักเป็นการสูญเสียเวลาและทรัพยากรโดยเปล่าประโยชน์ การตั้งเป้าหมายที่สอดคล้องกันช่วยให้ทุกการกระทำของคุณมีความหมายและนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว
ประโยชน์ของการตั้งเป้าหมายที่สอดคล้องกัน
วิธีการตรวจสอบความสอดคล้องของเป้าหมาย
การกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนจะช่วยสร้างแรงกดดันที่เหมาะสมและป้องกันการผัดวันประกันพรุ่ง เช่น "เพิ่มยอดขาย 20% ภายใน 3 เดือน" จะทำให้คุณมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการวางแผนและปฏิบัติงาน การมีกำหนดเวลาที่ชัดเจนช่วยสร้างความเร่งด่วนและกระตุ้นให้เกิดการลงมือทำอย่างจริงจัง
ประโยชน์ของการกำหนดกรอบเวลา
วิธีการกำหนดกรอบเวลาที่เหมาะสม
การนำเทคนิค SMART WORK ไปใช้ในการทำงานจริงนั้นต้องอาศัยการฝึกฝนและความมุ่งมั่น แต่เมื่อทำได้แล้วจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานอย่างมาก ต่อไปนี้เป็นวิธีการนำเทคนิค SMART WORK ไปใช้ในการทำงานอย่างเป็นรูปธรรม
การวางแผนเป็นขั้นตอนสำคัญของ Smart Work เริ่มต้นด้วยการแบ่งเป้าหมายใหญ่ออกเป็นเป้าหมายย่อยที่จัดการได้ง่ายขึ้น จากนั้นจัดลำดับความสำคัญของงาน โดยใช้เทคนิคเช่น Eisenhower Matrix ที่แบ่งงานออกเป็น 4 กลุ่มตามความสำคัญและความเร่งด่วน
วิธีการวางแผนงานอย่างมีประสิทธิภาพ
การวางแผนที่ดีจะช่วยให้คุณมีภาพรวมของงานทั้งหมด ทำให้สามารถจัดการเวลาและทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดความเครียดและความวิตกกังวลเกี่ยวกับงานที่ต้องทำ
เทคโนโลยีสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานได้อย่างมาก การเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมจะช่วยประหยัดเวลา ลดข้อผิดพลาด และเพิ่มความร่วมมือในทีม เช่นการใช้แอปพลิเคชัน Trello, Asana หรือ Monday.com มาช่วยในการบริหารจัดการงาน เป็นต้น ซึ่งการเลือกใช้เทคโนโลยีควรพิจารณาตามความเหมาะสมกับลักษณะงานและวัฒนธรรมองค์กร ไม่จำเป็นต้องใช้ทุกเครื่องมือ แต่ควรเลือกใช้เฉพาะที่จำเป็นและช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานจริงๆ
การจัดการเวลาเป็นทักษะสำคัญในการทำงานแบบ Smart Work เพราะเวลาเป็นทรัพยากรที่มีจำกัดและไม่สามารถเรียกคืนได้ การใช้เวลาอย่างชาญฉลาดจะช่วยให้คุณทำงานได้มากขึ้นโดยใช้เวลาน้อยลง และเรามีเทคนิคการจัดการเวลาที่มีประสิทธิภาพ มาฝากกัน
การทำงานอย่างชาญฉลาดหมายถึงการรู้จักเลือกงานที่สำคัญและสอดคล้องกับเป้าหมายของคุณ อย่ากลัวที่จะปฏิเสธงานที่ไม่จำเป็นหรือไม่ตรงกับเป้าหมายของคุณ การปฏิเสธอย่างสุภาพและมืออาชีพจะช่วยให้คุณมีเวลาและพลังงานสำหรับงานที่สำคัญจริงๆ
วิธีการปฏิเสธอย่างมืออาชีพ
ตัวอย่างการปฏิเสธ: "ขอบคุณมากที่นึกถึงผมสำหรับโปรเจ็กต์นี้ น่าเสียดายที่ตอนนี้ผมมีงานเต็มมือและไม่สามารถรับงานเพิ่มได้โดยไม่กระทบกับคุณภาพงาน อย่างไรก็ตาม ผมขอแนะนำคุณสมชายที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ หวังว่าเราจะได้มีโอกาสร่วมงานกันในอนาคตนะครับ"
การนำเทคนิค SMART WORK มาใช้ในการทำงานมีประโยชน์มากมาย ทั้งต่อตัวบุคคลและองค์กร ดังนี้
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้น ลองมาดูตัวอย่างการนำเทคนิค SMART WORK ไปใช้ในสถานการณ์จริงกัน สมมติว่าคุณเป็นผู้จัดการฝ่ายขายและต้องการเพิ่มยอดขาย คุณสามารถใช้หลัก SMART ดังนี้
การนำไปปฏิบัติจริง
การทำงานอย่างชาญฉลาดด้วยเทคนิค SMART WORK ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณเริ่มต้นด้วยการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน วางแผนอย่างรอบคอบ และลงมือทำอย่างมีระบบ เพราะการสร้างสมดุลในชีวิตจะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จทั้งในหน้าที่การงานและชีวิตส่วนตัว จำไว้ว่า SMART WORK ไม่ใช่การทำงานหนักขึ้น แต่เป็นการทำงานอย่างชาญฉลาดมากขึ้น เมื่อคุณฝึกฝนและนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้อย่างสม่ำเสมอ คุณจะพบว่าตัวเองสามารถจัดการกับงานที่ซับซ้อนได้ดีขึ้น มีเวลาและพลังงานเหลือสำหรับการพัฒนาตนเองและสิ่งที่คุณรักได้ดีมากขึ้น
พัฒนาสกิลที่ถูกต้องสำหรับผู้นำ
ด้านการตลาดออนไลน์
13 MARCH
ทำความเข้าใจ Media Plan คืออะไร กลยุทธ์วางแผนสื่อที่ช่วยให้ธุรกิจสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงกลุ่มและมีประสิทธิภาพสูง จนธุรกิจเติบโต
13 MARCH
13 MARCH
13 MARCH
13 MARCH
13 MARCH
ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ