Data Driven Marketing คืออะไร ขั้นตอน ตัวอย่าง อัปเดต 2025

By Suppanat Thaiyanant I Google Analytics 4 Specialist

02 JANUARY 25

53

6.webp

Data Driven Marketing คืออะไร ขั้นตอน ตัวอย่าง อัปเดต 2025

ความสำเร็จของแบรนด์ชั้นนำระดับโลกไม่ได้เกิดมาจากการเดาใจหรือคิดไปเองว่าลูกค้าชอบอะไร แต่มาจากการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจและขับเคลื่อนธุรกิจ Data Driven Marketing คือคำตอบสำหรับการทำการตลาดยุคใหม่ที่ใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนกลยุทธ์ พร้อมกับวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อให้สามารถออกแบบแคมเปญโฆษณาสินค้าที่น่าสนใจและกลยุทธ์ทางการตลาดที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด ANGA Mastery จะพาคุณไปทำความรู้จักว่า Data Driven Marketing คืออะไร มีความสำคัญและประโยชน์ในด้านใดบ้าง แนะนำขั้นตอนการทำ Data Driven Marketing และเอาตัวอย่างจากแบรนด์ดังมาฝากกันด้วย

 

Data Driven Marketing คืออะไร

Data Driven Marketing คือการทำการตลาดที่ใช้ข้อมูลเป็นตัวนำทางและตัดสินใจ เพราะข้อมูลสามารถบอกได้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ชอบอะไร และมีพฤติกรรมการซื้ออย่างไรบ้าง โดยนักการตลาดจะรวบรวมและวิเคราะห์ข้อมูลจากหลากหลายแหล่ง เพื่อทำความเข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าเชิงลึก นำไปสู่การออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสินค้า การพัฒนาบริการ การส่งมอบประสบการณ์ให้ลูกค้า หรือการสื่อสารด้านการตลาดก็ตาม ซึ่งจะแตกต่างจากการทำการตลาดแบบเดิม ๆ ที่ใช้ประสบการณ์และสัญชาตญาณในการตัดสินใจ ส่งผลให้การตลาดแบบดั้งเดิมไม่ค่อยได้ผลลัพธ์ที่แม่นยำมากนัก เมื่อเทียบกับการทำ Data Driven Marketing

Data Driven Marketing คืออะไร ขั้นตอน ตัวอย่าง อัปเดต 2025

ความสำคัญของ Data Driven Marketing

การตลาดที่ใช้ข้อมูลเป็นตัวขับเคลื่อนไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะปัจจุบันเราสามารถเข้าถึงและวิเคราะห์ข้อมูลได้ง่ายขึ้นมาก  ทำให้ธุรกิจสามารถเข้าใจพฤติกรรมลูกค้าและตอบสนองความต้องการได้ตรงจุด นำไปสู่การตัดสินใจทางการตลาดที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ความสำคัญของ Data Driven Marketing ต่อธุรกิจมีอยู่หลายด้าน ดังนี้

เข้าใจตลาดและลูกค้าได้ดีขึ้น

เข้าใจตลาดและลูกค้าได้ดีขึ้น (Market Intelligence) การนำข้อมูลมาวิเคราะห์ช่วยให้เราเห็นภาพรวมของตลาด ทั้งขนาด โอกาสทางธุรกิจ และทิศทางที่กำลังจะไป รวมถึงทำความเข้าใจพฤติกรรมการซื้อของลูกค้าได้อย่างลึกซึ้ง ทำให้สามารถคาดการณ์และเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดได้

วางแผนการตลาดได้แม่นยำ

วางแผนการตลาดได้แม่นยำ (Segmentation & Insights) เมื่อเรามีข้อมูลที่ดี การแบ่งกลุ่มลูกค้าและออกแบบแคมเปญก็ทำได้ตรงจุดมากขึ้น ไม่ต้องเสียงบประมาณไปกับการลองผิดลองถูก แต่สามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพตามพฤติกรรมและความต้องการของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย

 

H3 วัดผลและปรับปรุงได้รวดเร็ว

วัดผลและปรับปรุงได้รวดเร็ว (Performance Tracking & Decision Making) ข้อมูลช่วยให้เราติดตามผลของการทำการตลาดได้แบบเรียลไทม์ เห็นทั้งจุดแข็งและจุดอ่อนของแคมเปญ ทำให้ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันที ไม่ต้องรอให้สูญเสียงบประมาณไปกับสิ่งที่ไม่ได้ผล เป็นการทำการตลาดที่คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

ประโยชน์ของการทำ Data Driven Marketing

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการทำ Data Driven Marketing ช่วยให้นักการตลาดสามารถออกแบบโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจที่มีประสิทธิภาพ รู้ว่าควรลงติ๊กต๊อกเวลาไหนดีถึงจะเข้าถึงผู้ชมได้จำนวนมาก และรวมไปถึงสามารถจัดสร้าง Content Pillar ได้อย่างตอบโจทย์กับเป้าหมายของธุรกิจ รวมทั้งยังตรงใจผู้บริโภคด้วยเช่นกัน การนำข้อมูลมาวิเคราะห์และประยุกต์ใช้อย่างชาญฉลาดไม่เพียงช่วยประหยัดงบประมาณลง แต่ยังสร้างผลลัพธ์อันทำให้ธุรกิจเติบโตได้อีกด้วย และนี่คือประโยชน์ของการทำการตลาดที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลที่เราอยากให้คุณรู้

1. ช่วยตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ได้แม่นยำ

การใช้ข้อมูลช่วยให้นักการตลาดตัดสินใจได้อย่างมีหลักการ ไม่ต้องอาศัยการคาดเดาที่ไม่แน่นอนแต่อย่างใด จากสถิติพบว่านักการตลาดกว่า 76% ใช้ข้อมูลเป็นพื้นฐานในการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ ทำให้วางแผนและดำเนินการได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น

2. เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น

การวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมและความต้องการของลูกค้าได้อย่างละเอียด ทั้งข้อมูลด้านประชากรศาสตร์และพฤติกรรมการใช้งานสื่อต่าง ๆ นำไปสู่การสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและการพัฒนาลูกค้าให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้

3. พัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ตรงใจผู้บริโภค

ข้อมูลจากการสำรวจความคิดเห็น (Feedback) และการติดตามพฤติกรรมผู้บริโภค ช่วยให้ธุรกิจสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างแท้จริง ลดความเสี่ยงจากการสร้างผลิตภัณฑ์ที่ไม่ตรงกับความต้องการของผู้บริโภค

4. เพิ่มความคุ้มค่าในการลงทุน

ข้อมูลช่วยให้การทำแคมเปญการตลาดและโฆษณามีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำ ลดการสูญเสียงบประมาณจากการลองผิดลองถูก จากสถิติพบว่าการใช้ Data Driven Marketing ช่วยเพิ่ม ROI ได้ถึง 5-8 เท่าเลยทีเดียว

5. สร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า

การวิเคราะห์ข้อมูลช่วยให้เข้าใจว่าอะไรที่ลูกค้าชอบหรือไม่ชอบ ทำให้สามารถปรับปรุงสินค้าและบริการได้ตรงจุด รวมถึงสามารถทำการตลาดแบบ Retargeting เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิมและกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

5 ขั้นตอนการทำ Data Driven Marketing

การทำ Data Driven Marketing จำเป็นต้องมีขั้นตอนที่เป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การเตรียมความพร้อมขององค์กร การเก็บและวิเคราะห์ข้อมูล ไปจนถึงการนำข้อมูลไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อให้การทำ Data Driven Marketing ประสบความสำเร็จ มาดูกันว่ามีขั้นตอนสำคัญอะไรบ้าง

Data Driven Marketing คืออะไร ขั้นตอน ตัวอย่าง อัปเดต 2025

1. กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน

การตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญ เพราะจะช่วยกำหนดทิศทางว่าต้องเก็บข้อมูลอะไรบ้าง และควรวัดผลอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายระยะสั้นอย่างการเพิ่มการมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย หรือเป้าหมายระยะยาวอย่างการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ทุกเป้าหมายต้องวัดผลได้และมีกรอบเวลาชัดเจน

2. รวบรวมข้อมูลจากทุกแหล่ง

การเก็บรวบรวมข้อมูลควรทำอย่างเป็นระบบ โดยรวบรวมจากทุกจุดสัมผัสของลูกค้า (Touch Point) ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ เช่น พฤติกรรมการใช้งานเว็บไซต์ การตอบสนองต่อแคมเปญการตลาด ข้อมูลการซื้อสินค้า และข้อเสนอแนะจากลูกค้า นำมาจัดเก็บในที่เดียวกันเพื่อความสะดวกในการนำไปวิเคราะห์ข้อมูล 

แนะนำเครื่องมือช่วยเก็บข้อมูล Data Driven Marketing

  • เว็บไซต์ : Google Analytics, Hotjar, และ Mixpanel (แจกวิธีติดตั้ง Google Analytics 4)
  • Social Media : Hootsuite, Buffer และ Sprout Social
  • CRM (ระบบจัดการลูกค้าสัมพันธ์) : Salesforce, HubSpot และ Zoho CRM
  • Marketing Automation : Mailchimp, ActiveCampaign และ Marketo
  • เครื่องมือวิเคราะห์และแสดงผลข้อมูล แนะนำเป็น Tableau, Power BI และ Google Data Studio

3. วิเคราะห์ข้อมูลอย่างเป็นระบบ

นำข้อมูลที่รวบรวมได้มาวิเคราะห์เพื่อหาข้อมูลเชิงลึก โดยเริ่มจากการทำความเข้าใจสถานการณ์ปัจจุบัน วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาหรือโอกาส และคาดการณ์แนวโน้มในอนาคต การวิเคราะห์ที่ดีจะช่วยให้เห็นภาพรวมและสามารถตัดสินใจทางการตลาดได้แม่นยำขึ้น

4. ออกแบบกลยุทธ์การตลาดตามข้อมูล

นำข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาออกแบบกลยุทธ์การตลาดที่ตอบโจทย์ลูกค้า ทั้งการสร้างเนื้อหา การเลือกช่องทางการสื่อสาร และการจัดโปรโมชัน โดยคำนึงถึงพฤติกรรมและความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้การตลาดมีประสิทธิภาพสูงสุด

5. วัดผลและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง

ติดตามและวัดผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ โดยเทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ วิเคราะห์ว่าอะไรที่ได้ผลดีและอะไรที่ต้องปรับปรุง นำข้อมูลที่ได้มาพัฒนากลยุทธ์ให้ดียิ่งขึ้น การปรับปรุงอย่างต่อเนื่องจะช่วยให้การทำการตลาดมีประสิทธิภาพมากขึ้นเรื่อยๆ

 

ตัวอย่าง Data Driven Marketing

  1. Spotify ใช้ AI และ Machine Learning วิเคราะห์พฤติกรรมการฟังเพลง และสร้างรายการเพลงแบบเฉพาะบุคคล
  2. Starbucks ใช้ข้อมูลในการเลือกทำเลเปิดสาขาใหม่ ปรับเมนูตามความนิยมในแต่ละพื้นที่และฤดูกาล และวิเคราะห์พฤติกรรมการสั่งซื้อผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อสร้างโปรโมชันเฉพาะบุคคล
  3. Netflix ใช้ข้อมูลผู้ชมในการตัดสินใจผลิตคอนเทนต์ใหม่ ปรับปรุงหน้าจอแสดงผลตามการใช้งานของแต่ละบัญชี และวิเคราะห์พฤติกรรมการรับชมเพื่อแนะนำคอนเทนต์ที่เหมาะสมของแต่ละบัญชี
  4. Amazon วิเคราะห์เทรนด์สินค้าเพื่อจัดการสต็อกอย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบแนะนำสินค้าตามประวัติการค้นหาและการซื้อ และปรับราคาแบบไดนามิกตามความต้องการของตลาด
  5. Grab วิเคราะห์พฤติกรรมการสั่งอาหารเพื่อแนะนำร้านอาหารที่เหมาะสม ใช้ข้อมูลการใช้งานเพื่อสร้างแคมเปญและโปรโมชันที่ตรงกลุ่ม และปรับปรุงการจับคู่ไรเดอร์กับคำสั่งซื้อให้มีประสิทธิภาพ

 

สรุป

Data Driven Marketing คือการนำข้อมูลมาวิเคราะห์และประยุกต์ใช้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าอย่างแม่นยำ ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์พฤติกรรม การสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล หรือการวัดผลการตลาด ล้วนต้องอาศัยข้อมูลเป็นพื้นฐาน ธุรกิจที่เริ่มต้นทำ Data Driven Marketing และใช้ข้อมูลตั้งแต่วันนี้จะได้เปรียบในการแข่งขันและเติบโตอย่างมั่นคงในปี 2025 แม้จะดูซับซ้อนแต่ธุรกิจทุกขนาดสามารถเริ่มต้นได้ เพียงเลือกใช้เครื่องมือที่เหมาะสมและค่อย ๆ พัฒนาไปทีละขั้น ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้เมื่อนำข้อมูลมาใช้อย่างมีระบบและต่อเนื่องนั่นเอง

แนะนำบทความและคอร์สเรียนที่น่าสนใจ

Related News

การตลาดโรงแรม (Hotel Marketing) ทำยังไงให้ปัง? บทความนี้มีคำตอบ

แจก 6 กลยุทธ์ลับสำหรับทำการตลาดโรงแรม (Hotel Marketing) ให้ประสบความสำเร็จในปี 2025 ชนะคู่แข่ง เพิ่มลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า และเติบโตอย่างยั่งยืน

เจาะลึก STP กลยุทธ์ที่จะพลิกโฉมธุรกิจของคุณ

วิเคราะห์ Segmentation Targeting Positioning (STP) คือกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้า ช่วยวางแผนการตลาดแม่นยำ และสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

นักการตลาดดิจิทัล เงินเดือนเท่าไหร่? อัพเดทล่าสุดปี 2025

อัพเดทเงินเดือนนักการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) ทุกตำแหน่งปี 2025 เจาะลึกรายได้แต่ละระดับ พร้อมเคล็ดลับก้าวสู่สายงานที่มาแรงที่สุดแห่งปี

การตลาดโรงแรม (Hotel Marketing) ทำยังไงให้ปัง? บทความนี้มีคำตอบ

แจก 6 กลยุทธ์ลับสำหรับทำการตลาดโรงแรม (Hotel Marketing) ให้ประสบความสำเร็จในปี 2025 ชนะคู่แข่ง เพิ่มลูกค้าใหม่ รักษาลูกค้าเก่า และเติบโตอย่างยั่งยืน

เจาะลึก STP กลยุทธ์ที่จะพลิกโฉมธุรกิจของคุณ

วิเคราะห์ Segmentation Targeting Positioning (STP) คือกลยุทธ์การตลาดที่ช่วยให้คุณเข้าใจลูกค้า ช่วยวางแผนการตลาดแม่นยำ และสร้างแบรนด์ให้โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

นักการตลาดดิจิทัล เงินเดือนเท่าไหร่? อัพเดทล่าสุดปี 2025

อัพเดทเงินเดือนนักการตลาดดิจิทัล (Digital Marketing) ทุกตำแหน่งปี 2025 เจาะลึกรายได้แต่ละระดับ พร้อมเคล็ดลับก้าวสู่สายงานที่มาแรงที่สุดแห่งปี

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ