Key Message คืออะไร สร้างอย่างไรให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย

By Rachavit Whangpatanathon I MD at ANGA Group

12 FEBRUARY 25

658

Key Message คืออะไร.webp

การสื่อสารกับลูกค้าให้ตรงใจและมีประสิทธิภาพเป็นความท้าทายที่หลายธุรกิจต้องเผชิญ แม้จะมีสินค้าและบริการที่ดีมีคุณภาพ แต่ถ้าสื่อสารจุดเด่นออกมาได้ไม่ชัดเจน ก็ยากที่จะสร้างยอดขายหรือความประทับใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ Key Message คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสื่อสารได้ตรงจุด โดนใจ และสร้างผลลัพธ์ได้ตามที่ต้องการ บทความนี้จาก ANGA Mastery จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า Key Message คืออะไร มีความสำคัญต่อธุรกิจอย่างไร ลักษณะของ Key Message ที่ดีเป็นอย่างไร มีความแตกต่างกับ Slogan ตรงไหน พร้อมแนะนำเทคนิคการสร้าง Key Message ที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าสนใจมากขึ้นในปี 2025

Key Message คืออะไร

Key Message คือข้อความหลักที่แบรนด์ต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย เพื่อถ่ายทอดคุณค่าและจุดยืนของแบรนด์ผ่านข้อความหรือประโยคสั้น ๆ ที่สามารถสร้างการจดจำได้ทันที เช่น “I'm Lovin' It (ผม/ฉันชอบ)” จาก McDonald's หรือ “The Happiest Place on Earth (สถานที่ที่มีความสุขที่สุดในโลก)” ของ Disneyland จะเห็นได้ว่า Key Message จะไม่ใช่สโลแกนหรือคำมั่นสัญญาของแบรนด์ แต่จะเป็นประโยคที่มีความหมายสอดคล้องและสนับสนุนภาพลักษณ์โดยรวมของแบรนด์ เพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพและตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

ลักษณะของ Key Message ที่ดีเป็นอย่างไร

  • กระชับรวบรัด ใช้ประโยคสั้น ๆ 1-3 ประโยคต่อ Key Message อ่านจบภายใน 30 วินาที
  • มีความเป็นกลยุทธ์ อธิบายที่มาที่ไปและประโยชน์ได้ชัดเจน บอกความแตกต่างที่โดดเด่น
  • เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย สื่อสารในสิ่งที่ผู้ฟังสนใจและอยากรู้
  • น่าดึงดูดและกระตุ้นการตอบสนอง สร้างแรงจูงใจให้เกิดการกระทำ
  • มีความจริงใจ ใช้โทนเสียงที่จริงใจ ไม่เหมือนสโลแกนโฆษณาทั่วไป
  • น่าจดจำ เนื้อหาต้องจดจำได้ง่าย สร้างความประทับใจ
  • เข้าใจง่าย ใช้ภาษาที่เข้าใจได้ทันที หลีกเลี่ยงคำกำกวมที่ตีความได้หลายแบบ

Key Message มีความสำคัญอย่างไร

  • สร้างการจดจำแบรนด์ ด้วยข้อความที่กระชับ โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ผู้บริโภคนึกถึงแบรนด์เป็นอันดับแรก
  • เชื่อมโยงอารมณ์และความรู้สึก กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกร่วมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค สร้างความผูกพันในระยะยาว
  • สร้างความน่าเชื่อถือ ถ่ายทอดจุดยืนและคุณค่าของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจและไว้วางใจ
  • แยกความแตกต่างจากคู่แข่ง ทำให้แบรนด์มีจุดยืนที่ชัดเจนและโดดเด่นในตลาด แม้จะมีสินค้าหรือบริการที่คล้ายคลึงกัน
  • เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร ทำให้ทุกช่องทางการสื่อสารมีความสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
  • ช่วยปิดการขายได้ดีขึ้น เมื่อลูกค้าเข้าใจและจดจำแบรนด์ได้ การตัดสินใจซื้อจะเกิดขึ้นง่ายและรวดเร็วกว่า

Key Message กับ Slogan ต่างกันยังไง

Key Message และ Slogan มีความแตกต่างที่ชัดเจนในการสื่อสารแบรนด์ Key Message คือแก่นหลักของการสื่อสารที่บอกถึงคุณค่าและจุดยืนของแบรนด์ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามกลุ่มเป้าหมายและสถานการณ์ ในขณะที่ Slogan คือวลีสั้น ๆ ที่ใช้ในการโฆษณาเพื่อสร้างการจดจำ มีรูปแบบตายตัวและไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย เช่น Nike มี Key Message คือ "คุณสามารถบรรลุเป้าหมายได้ถ้าพยายาม" แต่มี Slogan ว่า "Just Do It"

ตัวอย่าง Key Message ของแบรนด์ต่าง ๆ 

  • AIS - “Digital For Thais" (ดิจิทัลเพื่อคนไทย)
  • BMW - "The Ultimate Driving Machine" (สุดยอดรถยนต์)
  • CP - “Quality First" (คุณภาพต้องมาก่อน)
  • True -  "Together We Are Stronger" (ไปด้วยกัน เราแข็งแกร่งกว่า)
  • McDonald's -  "I'm Lovin' It" (ผมชอบ)
  • King Power -  "We Fly, You Shop" (เราบิน คุณช้อป)
  • Central - "Everything For Everyone" (ทุกสิ่งเพื่อทุกคน)
  • Nike - "Just Do It" (ทำในสิ่งที่ใช่)
  • PTT - "Powering Life" (เติมพลังให้ชีวิต)
  • Apple -  "Think Different" (คิดต่าง)
  • L'Oréal - "Because You're Worth It" (เพราะคุณคู่ควร)
  • Coca-Cola - "Open Happiness" (เปิดความสุข)
  • SCB - "Your Story, Our Support" (เรื่องของคุณ เราช่วยสนับสนุน)
  • Airbnb - "Belong Anywhere" (เป็นเจ้าของได้ทุกที่)
  • The Mall Group -  "Your Happy Place" (ที่แห่งความสุขของคุณ)
  • Disneyland -  "The Happiest Place on Earth" (สถานที่ที่มีความสุขที่สุดในโลก)
  • Volvo -  "For Life" (เพื่อชีวิต)

แจกเทคนิคการสร้าง Key Message ให้ทรงพลัง

การสร้าง Key Message ที่มีพลังและโดนใจกลุ่มเป้าหมาย สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้

รวบรวมข้อมูลและความคิดเห็น

  • ดูว่าแบรนด์เรามีจุดยืนและเป้าหมายอะไร
  • ตั้งเป้าว่าอยากสื่อสารอะไรกับลูกค้าบ้าง
  • ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายว่าเขาสนใจและต้องการอะไร
  • ดูคู่แข่งว่าเขาสื่อสารยังไง เราจะทำให้ต่างจากเขาได้อย่างไร

ลงมือร่างและปรับแต่ง

  • เขียนข้อความสั้น ๆ ที่เข้าใจง่ายและจำได้ทันที
  • เน้นบอกว่าลูกค้าจะได้อะไรจากแบรนด์เรา
  • ใช้ภาษาที่เหมาะกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย
  • ตรวจดูว่าแตกต่างจากแบรนด์อื่นชัดเจนไหม

ทดลองใช้และปรับปรุง

  • ลองใช้กับลูกค้าจริง ๆ ดู
  • ฟังความเห็นและคำติชมจากลูกค้า
  • ปรับให้เข้ากับแต่ละช่องทางที่จะใช้สื่อสาร
  • คอยดูผลตอบรับและปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

สรุป

การสื่อสารที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้ต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนและแตกต่าง Key Message คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์โดดเด่นและจับใจกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผ่านช่องทางไหน รูปแบบใด แบรนด์ต้องมี Key Message ที่ชัดเจน เข้าใจง่าย และสร้างการจดจำ โดยอาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอตามแต่ละช่องทาง แต่แก่นของข้อความต้องคงเดิมเพื่อสร้างภาพจำที่ชัดเจนในใจผู้บริโภค

Related News

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ