Key Message คืออะไร สร้างอย่างไรให้โดนใจกลุ่มเป้าหมาย

By Rachavit Whangpatanathon I MD at ANGA Group

12 FEBRUARY 25

109

Key Message คืออะไร.webp

การสื่อสารกับลูกค้าให้ตรงใจและมีประสิทธิภาพเป็นความท้าทายที่หลายธุรกิจต้องเผชิญ แม้จะมีสินค้าและบริการที่ดีมีคุณภาพ แต่ถ้าสื่อสารจุดเด่นออกมาได้ไม่ชัดเจน ก็ยากที่จะสร้างยอดขายหรือความประทับใจให้กับกลุ่มเป้าหมายได้ Key Message คือสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจสื่อสารได้ตรงจุด โดนใจ และสร้างผลลัพธ์ได้ตามที่ต้องการ บทความนี้จาก ANGA Mastery จะพาคุณไปทำความเข้าใจว่า Key Message คืออะไร มีความสำคัญต่อธุรกิจอย่างไร ลักษณะของ Key Message ที่ดีเป็นอย่างไร มีความแตกต่างกับ Slogan ตรงไหน พร้อมแนะนำเทคนิคการสร้าง Key Message ที่จะช่วยให้แบรนด์ของคุณสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพและน่าสนใจมากขึ้นในปี 2025

Key Message คืออะไร

Key Message คือข้อความหลักที่แบรนด์ต้องการสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมาย เพื่อถ่ายทอดคุณค่าและจุดยืนของแบรนด์ผ่านข้อความหรือประโยคสั้น ๆ ที่สามารถสร้างการจดจำได้ทันที เช่น “I'm Lovin' It (ผม/ฉันชอบ)” จาก McDonald's หรือ “The Happiest Place on Earth (สถานที่ที่มีความสุขที่สุดในโลก)” ของ Disneyland จะเห็นได้ว่า Key Message จะไม่ใช่สโลแกนหรือคำมั่นสัญญาของแบรนด์ แต่จะเป็นประโยคที่มีความหมายสอดคล้องและสนับสนุนภาพลักษณ์โดยรวมของแบรนด์ เพื่อให้การสื่อสารมีประสิทธิภาพและตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

ลักษณะของ Key Message ที่ดีเป็นอย่างไร

  • กระชับรวบรัด ใช้ประโยคสั้น ๆ 1-3 ประโยคต่อ Key Message อ่านจบภายใน 30 วินาที
  • มีความเป็นกลยุทธ์ อธิบายที่มาที่ไปและประโยชน์ได้ชัดเจน บอกความแตกต่างที่โดดเด่น
  • เกี่ยวข้องกับกลุ่มเป้าหมาย สื่อสารในสิ่งที่ผู้ฟังสนใจและอยากรู้
  • น่าดึงดูดและกระตุ้นการตอบสนอง สร้างแรงจูงใจให้เกิดการกระทำ
  • มีความจริงใจ ใช้โทนเสียงที่จริงใจ ไม่เหมือนสโลแกนโฆษณาทั่วไป
  • น่าจดจำ เนื้อหาต้องจดจำได้ง่าย สร้างความประทับใจ
  • เข้าใจง่าย ใช้ภาษาที่เข้าใจได้ทันที หลีกเลี่ยงคำกำกวมที่ตีความได้หลายแบบ

Key Message มีความสำคัญอย่างไร

  • สร้างการจดจำแบรนด์ ด้วยข้อความที่กระชับ โดดเด่น และมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทำให้ผู้บริโภคนึกถึงแบรนด์เป็นอันดับแรก
  • เชื่อมโยงอารมณ์และความรู้สึก กระตุ้นให้เกิดความรู้สึกร่วมระหว่างแบรนด์กับผู้บริโภค สร้างความผูกพันในระยะยาว
  • สร้างความน่าเชื่อถือ ถ่ายทอดจุดยืนและคุณค่าของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน ทำให้ผู้บริโภคเข้าใจและไว้วางใจ
  • แยกความแตกต่างจากคู่แข่ง ทำให้แบรนด์มีจุดยืนที่ชัดเจนและโดดเด่นในตลาด แม้จะมีสินค้าหรือบริการที่คล้ายคลึงกัน
  • เพิ่มประสิทธิภาพการสื่อสาร ทำให้ทุกช่องทางการสื่อสารมีความสอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน
  • ช่วยปิดการขายได้ดีขึ้น เมื่อลูกค้าเข้าใจและจดจำแบรนด์ได้ การตัดสินใจซื้อจะเกิดขึ้นง่ายและรวดเร็วกว่า

Key Message กับ Slogan ต่างกันยังไง

Key Message และ Slogan มีความแตกต่างที่ชัดเจนในการสื่อสารแบรนด์ Key Message คือแก่นหลักของการสื่อสารที่บอกถึงคุณค่าและจุดยืนของแบรนด์ สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามกลุ่มเป้าหมายและสถานการณ์ ในขณะที่ Slogan คือวลีสั้น ๆ ที่ใช้ในการโฆษณาเพื่อสร้างการจดจำ มีรูปแบบตายตัวและไม่เปลี่ยนแปลงบ่อย เช่น Nike มี Key Message คือ "คุณสามารถบรรลุเป้าหมายได้ถ้าพยายาม" แต่มี Slogan ว่า "Just Do It"

ตัวอย่าง Key Message ของแบรนด์ต่าง ๆ 

  • AIS - “Digital For Thais" (ดิจิทัลเพื่อคนไทย)
  • BMW - "The Ultimate Driving Machine" (สุดยอดรถยนต์)
  • CP - “Quality First" (คุณภาพต้องมาก่อน)
  • True -  "Together We Are Stronger" (ไปด้วยกัน เราแข็งแกร่งกว่า)
  • McDonald's -  "I'm Lovin' It" (ผมชอบ)
  • King Power -  "We Fly, You Shop" (เราบิน คุณช้อป)
  • Central - "Everything For Everyone" (ทุกสิ่งเพื่อทุกคน)
  • Nike - "Just Do It" (ทำในสิ่งที่ใช่)
  • PTT - "Powering Life" (เติมพลังให้ชีวิต)
  • Apple -  "Think Different" (คิดต่าง)
  • L'Oréal - "Because You're Worth It" (เพราะคุณคู่ควร)
  • Coca-Cola - "Open Happiness" (เปิดความสุข)
  • SCB - "Your Story, Our Support" (เรื่องของคุณ เราช่วยสนับสนุน)
  • Airbnb - "Belong Anywhere" (เป็นเจ้าของได้ทุกที่)
  • The Mall Group -  "Your Happy Place" (ที่แห่งความสุขของคุณ)
  • Disneyland -  "The Happiest Place on Earth" (สถานที่ที่มีความสุขที่สุดในโลก)
  • Volvo -  "For Life" (เพื่อชีวิต)

แจกเทคนิคการสร้าง Key Message ให้ทรงพลัง

การสร้าง Key Message ที่มีพลังและโดนใจกลุ่มเป้าหมาย สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ขั้นตอน ดังนี้

รวบรวมข้อมูลและความคิดเห็น

  • ดูว่าแบรนด์เรามีจุดยืนและเป้าหมายอะไร
  • ตั้งเป้าว่าอยากสื่อสารอะไรกับลูกค้าบ้าง
  • ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมายว่าเขาสนใจและต้องการอะไร
  • ดูคู่แข่งว่าเขาสื่อสารยังไง เราจะทำให้ต่างจากเขาได้อย่างไร

ลงมือร่างและปรับแต่ง

  • เขียนข้อความสั้น ๆ ที่เข้าใจง่ายและจำได้ทันที
  • เน้นบอกว่าลูกค้าจะได้อะไรจากแบรนด์เรา
  • ใช้ภาษาที่เหมาะกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย
  • ตรวจดูว่าแตกต่างจากแบรนด์อื่นชัดเจนไหม

ทดลองใช้และปรับปรุง

  • ลองใช้กับลูกค้าจริง ๆ ดู
  • ฟังความเห็นและคำติชมจากลูกค้า
  • ปรับให้เข้ากับแต่ละช่องทางที่จะใช้สื่อสาร
  • คอยดูผลตอบรับและปรับปรุงให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ

สรุป

การสื่อสารที่ประสบความสำเร็จในยุคนี้ต้องมีจุดยืนที่ชัดเจนและแตกต่าง Key Message คือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้แบรนด์โดดเด่นและจับใจกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารผ่านช่องทางไหน รูปแบบใด แบรนด์ต้องมี Key Message ที่ชัดเจน เข้าใจง่าย และสร้างการจดจำ โดยอาจต้องปรับเปลี่ยนวิธีการนำเสนอตามแต่ละช่องทาง แต่แก่นของข้อความต้องคงเดิมเพื่อสร้างภาพจำที่ชัดเจนในใจผู้บริโภค

Related News

Flash Sale คืออะไร มีส่วนช่วยในการเร่งยอดขายอย่างไร

รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับแฟลชเซลล์ Flash Sale คืออะไร ข้อดี ข้อเสียเหมาะกับธุรกิจแบบไหนบ้าง พร้อมแชร์เทคนิคการจัด Flash Saleในปี 2025

Cost Per Lead (CPL) คืออะไร คำนวณอย่างไร ทำไมคนยิงแอดต้องรู้

ทำความเข้าใจ Cost Per Lead คืออะไร ตั้งแต่วิธีคำนวณ สาเหตุที่ทำให้ Cost Per Lead (CPL) สูง พร้อมวิธีแก้ เพื่อผลลัพธ์จากการทำโฆษณาคุ้มค่าที่สุด

อาชีพ SEO Specialist คืออะไร เจาะลึกหน้าที่ ทักษะ และรายได้

ทำความรู้จักอาชีพ SEO Specialist คืออะไร ตำแหน่งนี้มีหน้าที่อะไรบ้าง ต้องมีทักษะอะไรติดตัว หางานยากไหม และได้เงินเดือนเท่าไหร่ อัปเดต 2025

Flash Sale คืออะไร มีส่วนช่วยในการเร่งยอดขายอย่างไร

รวมทุกเรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับแฟลชเซลล์ Flash Sale คืออะไร ข้อดี ข้อเสียเหมาะกับธุรกิจแบบไหนบ้าง พร้อมแชร์เทคนิคการจัด Flash Saleในปี 2025

Cost Per Lead (CPL) คืออะไร คำนวณอย่างไร ทำไมคนยิงแอดต้องรู้

ทำความเข้าใจ Cost Per Lead คืออะไร ตั้งแต่วิธีคำนวณ สาเหตุที่ทำให้ Cost Per Lead (CPL) สูง พร้อมวิธีแก้ เพื่อผลลัพธ์จากการทำโฆษณาคุ้มค่าที่สุด

อาชีพ SEO Specialist คืออะไร เจาะลึกหน้าที่ ทักษะ และรายได้

ทำความรู้จักอาชีพ SEO Specialist คืออะไร ตำแหน่งนี้มีหน้าที่อะไรบ้าง ต้องมีทักษะอะไรติดตัว หางานยากไหม และได้เงินเดือนเท่าไหร่ อัปเดต 2025

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ