Product Description คืออะไร ช่วยกระตุ้นยอดขายได้จริงหรือ?

By Rachavit Whangpatanathon I MD at ANGA Group

13 MARCH 25

156

28.webp

ก่อนที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อสินค้าสักตัวหนึ่ง พวกเขาไม่ได้ดูแค่ชื่อสินค้าและรูปภาพเท่านั้น แต่ยังมีการอ่าน Product Description หรือข้อความที่ใช้อธิบายข้อมูลของสินค้าเพิ่มเติมด้วย เพื่อพิจารณาว่าสินค้าชิ้นนี้มีคุณสมบัติและความคุ้มค่าที่ตอบโจทย์พวกเขาจริง ๆ หรือไม่ Product Description ได้กลายมาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะสามารถกระตุ้นยอดขายได้จริง ให้คำตอบลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องคอยแอดมินมาตอบคำถามตามเวลาทำการ จึงทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ในไม่กี่วินาทีนั้นเลย และในวันนี้ ANGA Mastery จะพาคุณไปเจาะลึกว่า Product Description คืออะไร พร้อมแนบตัวอย่าง Product Description และแนะนำเทคนิคการเขียน Product Description ให้ดึงดูดใจผ่านบทความนี้

Product Description คืออะไร

Product Description คือข้อความอธิบายรายละเอียดของสินค้า เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจในตัวสินค้าอย่างครบถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ การเขียนคำอธิบายสินค้ามักจะประกอบไปด้วยข้อมูลสำคัญอย่าง ชื่อสินค้า รายละเอียดวัสดุ ขนาด สี น้ำหนัก คุณสมบัติเด่น ประโยชน์การใช้งาน และวิธีดูแลรักษา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยลดข้อสงสัยและเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ขาย โดย Product Description ส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายของผู้บริโภคหรือฝ่ายของแบรนด์ก็ตาม นอกจากนี้  Product Description ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้ง่ายขึ้นด้วย

ตัวอย่าง Product Description

เพื่อให้คุณเห็นภาพชัด ๆ ว่า Product Description เป็นยังไง เราก็เอาตัวอย่าง Product Description ของสินค้า 3 ประเภทมาฝากกันด้วย

1. เสื้อยืดสีขาว ผ้าฝ้าย 100% 

เสื้อยืดสีขาวผลิตจากผ้าฝ้ายออร์แกนิก 100% เนื้อผ้านุ่ม ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อน มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ S ถึง XXL สามารถใส่ได้ทั้งชุดลำลองหรือใส่คู่กับเสื้อคลุม

2. เซรั่มวิตามินซี

เซรั่มวิตามินซีเข้มข้น 20% ขนาด 30 มล. ผลิตจากวิตามินซีบริสุทธิ์คุณภาพสูง ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยแดงจากสิว ปรับผิวให้กระจ่างใสอย่างเห็นผลภายใน 2 สัปดาห์ ลดเลือนริ้วรอยและกระชับรูขุมขน เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม 

  • เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว แม้ผิวแพ้ง่าย ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญผิวหนัง ใช้ได้ทั้งเช้าและเย็น
  • วิธีใช้ : หลังล้างหน้า ทาโทนเนอร์ แล้วหยดเซรั่ม 3-4 หยด ลูบให้ทั่วใบหน้าและลำคอ ตามด้วยมอยส์เจอไรเซอร์

3. หูฟังไร้สาย Bluetooth

หูฟังไร้สาย Bluetooth 5.2 รุ่น Pro X แบตเตอรี่อึดใช้งานต่อเนื่องได้นาน 36 ชั่วโมง พร้อมเคสชาร์จขนาดพกพา ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Cancellation ลดเสียงรบกวนภายนอกได้ถึง 35 dB มี 3 โหมดการฟัง (ตัดเสียงรบกวน/โหมดปกติ/โหมดได้ยินเสียงรอบข้าง) รองรับการเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน กันน้ำกันเหงื่อระดับ IPX7 ทนทานต่อการออกกำลังกายและใช้งานกลางแจ้ง ชิปประมวลผลเสียงรุ่นใหม่ล่าสุดให้เสียงทุ้มลึก เสียงกลางชัด และเสียงแหลมใสกระจ่าง มีไมโครโฟน 4 ตัวพร้อมเทคโนโลยี AI ลดเสียงลม ให้เสียงสนทนาคมชัดแม้ใช้โทรศัพท์ในที่มีเสียงรบกวน ควบคุมด้วยระบบสัมผัสอัจฉริยะ มาพร้อมจุกซิลิโคน 5 ขนาดให้เลือกใส่ได้พอดีหู

Product Description สำคัญอย่างไร

Product Description เป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจ โดยพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วไปแล้ว มักจะตัดสินใจซื้อสินค้าอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการบอกรายละเอียดอย่างครบถ้วน ด้วยอารมณ์และความรู้สึกในการต้องการสินค้าที่กำลังพลุ่งพล่าน ประกอบกับสามารถพิจารณาสินค้าได้ทันที โดยที่ไม่ต้องรอให้แอดมินหรือทางแบรนด์ตอบคำถามใด ๆ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการวิจัยรับรองอีกว่า Product Description คือปัจจัยลำดับที่สองรองจากรูปภาพที่ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจซื้อ ด้วยเหตุนี้ การใส่ Product Description หรือรายละเอียดสินค้าและบริการจึงเป็นสิ่งที่คุณควรให้ความสนใจ

  • เพิ่มคำสั่งซื้อและยอดขาย คำบรรยายที่ดีช่วยโน้มน้าวและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • ติดหน้าแรก Google การใส่คำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสินค้า (คีย์เวิร์ด) ช่วยให้ติดอันดับการค้นหาบน Google ได้ดีขึ้น เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าพบเห็นสินค้าและคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ของคุณ
  • สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ รูปแบบการเขียน Product Description จะสะท้อนบุคลิกของแบรนด์
  • เพิ่มความน่าเชื่อถือ คำอธิบายที่ละเอียดแสดงถึงความใส่ใจและความเป็นมืออาชีพของร้านค้า
  • ลดอัตราการคืนสินค้า เมื่อลูกค้าได้รับข้อมูลครบถ้วน โอกาสที่จะผิดหวังและส่งคืนสินค้าจะลดลง
  • ประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการตลาด คำบรรยายที่โดดเด่นช่วยดึงดูดลูกค้าได้โดยไม่ต้องลงทุนในการโฆษณาใด ๆ เพิ่มเติม

6 เทคนิคการเขียน Product Description ให้ดึงดูดใจ

การเขียน Product Description คือต้องเขียนข้อมูลให้ครบถ้วน ประกอบกับการใช้ฝีมือการเขียนที่น่าสนใจและชวนให้คล้อยตาม จนกระตุ้นให้เกิดการสั่งซื้อสินค้าจริง สำหรับเทคนิคการเขียน Product Description ที่เราจะมาแชร์กันนี้ ไม่ได้ช่วยกระตุ้นยอดขายทางตรงเท่านั้น ยังช่วยสร้างภาพจำและเพิ่มโอกาสในการนำมาซึ่งลูกค้าใหม่ผ่านการติดอันดับ SEO บน Google อีกด้วย

1. ทำความเข้าใจกลุ่มเป้าหมาย

ก่อนเขียน Product Description คุณต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร การสร้าง Customer Persona จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพของลูกค้าได้ชัดเจน และสามารถเลือกใช้ภาษา เนื้อหา และการนำเสนอที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด

2. ใช้ภาษาที่เรียบง่ายและกระชับ

การเขียน Product Description ที่ดีควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ชัดเจน และกระชับ หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์เฉพาะทางที่ลูกค้าทั่วไปอาจไม่เข้าใจ เว้นแต่กลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ ควรใช้ประโยคสั้น ๆ ที่สื่อความหมายได้ตรงประเด็น มีการยกตัวอย่างหรือเปรียบเทียบเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น

3. ใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง

การใส่คีย์เวิร์ด (Keyword) หรือคำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสินค้า (เรียกว่า SEO) เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าค้นพบสินค้าของคุณได้ง่ายขึ้น คุณจะต้องทำ Keyword Research เพื่อดูว่าลูกค้าค้นหาสินค้าของคุณผ่านคีย์เวิร์ดคำไหน แล้วสอดแทรกคำเหล่านั้นเข้าไปในคำบรรยายสินค้าอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งในชื่อสินค้า หัวข้อย่อย และรายละเอียดสินค้า การทำแบบนี้จะช่วยให้สินค้ามีโอกาสแสดงผลบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ และ Google ง่ายมากขึ้น

4. จัดรูปแบบให้ดึงดูดสายตา

การจัดรูปแบบที่ดีช่วยให้ข้อมูลอ่านง่าย น่าติดตาม และดึงดูดความสนใจได้มากขึ้น คุณสามารถใช้ Bullet Points แบ่งข้อมูลเป็นส่วน ๆ เพื่อเน้นย้ำคุณสมบัติสำคัญ ประโยชน์หลัก หรือข้อมูลจำเพาะของสินค้าได้ นอกจากนี้ การใช้ตัวหนา ตัวเอียง หรือสัญลักษณ์พิเศษยังช่วยดึงดูดสายตาและเน้นข้อมูลสำคัญได้อีกด้วย

5. เพิ่ม Call to Action

Call to Action หรือ CTA คือคำกระตุ้นการตัดสินใจ ซึ่งจะช่วยโน้มน้าวใจช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น คุณควรใช้ประโยคที่กระชับ เข้าใจง่าย และสร้างความรู้สึกเร่งด่วน เช่น มีจำนวนจำกัด”,  "สั่งซื้อเลยวันนี้รับส่วนลด 20%” หรือ  "กดติดตามร้าน เพื่อรับโค้ดส่วนลด” เป็นต้น CTA ที่ดีควรอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่ายและเชื่อมโยงกับข้อมูลสำคัญของสินค้า

6. ใช้เทคนิค FAB (Feature-Advantage-Benefit)

FAB ย่อมาจาก Feature-Advantage-Benefit เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้การเขียน Product Description มีความครบถ้วนและโน้มน้าวใจผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ซึ่ง FAB ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ดังนี้

  1. Feature (คุณสมบัติ) คือการระบุลักษณะเฉพาะของสินค้า เช่น วัสดุ ขนาด ส่วนประกอบ หรือเทคโนโลยีที่ใช้ เป็นการบอกว่าสินค้าของคุณ "มีอะไร" หรือ "เป็นอย่างไร"
  2. Advantage (ข้อดี) คือการอธิบายข้อดีของคุณสมบัตินั้น ๆ ที่เหนือกว่าคู่แข่ง เป็นการบอกว่าคุณสมบัตินั้น "ดีอย่างไร"
  3. Benefit (ประโยชน์) คือการระบุประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับจากการใช้สินค้า เป็นการตอบคำถามว่า "แล้วทำไมฉันต้องสนใจ" หรือ "ฉันจะได้อะไร"

สรุป

เราสามารถบอกได้ว่า Product Description คือกลยุทธ์ทางการตลาดอันเป็นส่วนหนึ่งของการทำ Content Marketing ก็ว่าได้ เพราะ Product Description คือข้อความที่ใช้ในการอธิบายสินค้า ซึ่งจะต้องมีการใช้เทคนิคการเขียนและทักษะการวิเคราะห์ร่วมด้วย เพื่อให้ Product Description ออกมาน่าสนใจและตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุด หวังว่าเทคนิคการเขียน Product Description ที่เราเอามาแชร์กันจะเป็นประโยชน์กับคุณไม่มากก็น้อย นอกจากการนำไปใช้เขียน Product Description บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee, Lazada, TikTok Shop ฯลฯ แล้ว ยังสามารถใช้ประกอบสินค้าบนเว็บไซต์และ Social Mdia ได้อีกด้วย 

สำหรับเจ้าของธุรกิจที่อยากลงมือทำการตลาดออนไลน์ด้วยตัวเอง แต่ยังไม่มีสกิลและทักษะในด้านการตลาด ANGA Master ขอแนะนำคอร์สเรียน Marketing ที่สอนโดยผู้เชี่ยวชาญจากดิจิทัลเอเจนซี่รับทำ SEO และ Performance Marketing ชั้นนำในไทย อาทิ คอร์สเรียน SEO สำหรับผู้เริ่มต้น, คอร์สเรียน SEO Strategy for Executives สำหรับเจ้าของธุรกิจ, คอร์สเรียน Google Analytics 4 (เครื่องมือวิเคราะห์) รวมถึงคอร์สเรียน Google Ads และคอร์สเรียน Facebook Ads สำหรับผู้ที่อยากเร่งยอดขายด้วยการทำโฆษณา

Related News

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ