13 MARCH 25
441
ก่อนที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจซื้อสินค้าสักตัวหนึ่ง พวกเขาไม่ได้ดูแค่ชื่อสินค้าและรูปภาพเท่านั้น แต่ยังมีการอ่าน Product Description หรือข้อความที่ใช้อธิบายข้อมูลของสินค้าเพิ่มเติมด้วย เพื่อพิจารณาว่าสินค้าชิ้นนี้มีคุณสมบัติและความคุ้มค่าที่ตอบโจทย์พวกเขาจริง ๆ หรือไม่ Product Description ได้กลายมาเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เพราะสามารถกระตุ้นยอดขายได้จริง ให้คำตอบลูกค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ต้องคอยแอดมินมาตอบคำถามตามเวลาทำการ จึงทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อสินค้าได้ในไม่กี่วินาทีนั้นเลย และในวันนี้ ANGA Mastery จะพาคุณไปเจาะลึกว่า Product Description คืออะไร พร้อมแนบตัวอย่าง Product Description และแนะนำเทคนิคการเขียน Product Description ให้ดึงดูดใจผ่านบทความนี้
Product Description คือข้อความอธิบายรายละเอียดของสินค้า เพื่อให้ลูกค้าเข้าใจในตัวสินค้าอย่างครบถ้วนก่อนตัดสินใจซื้อ การเขียนคำอธิบายสินค้ามักจะประกอบไปด้วยข้อมูลสำคัญอย่าง ชื่อสินค้า รายละเอียดวัสดุ ขนาด สี น้ำหนัก คุณสมบัติเด่น ประโยชน์การใช้งาน และวิธีดูแลรักษา ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะช่วยลดข้อสงสัยและเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า ทำให้ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้ขาย โดย Product Description ส่งผลดีต่อทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายของผู้บริโภคหรือฝ่ายของแบรนด์ก็ตาม นอกจากนี้ Product Description ยังช่วยเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับบน Google และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซได้ง่ายขึ้นด้วย
เพื่อให้คุณเห็นภาพชัด ๆ ว่า Product Description เป็นยังไง เราก็เอาตัวอย่าง Product Description ของสินค้า 3 ประเภทมาฝากกันด้วย
เสื้อยืดสีขาวผลิตจากผ้าฝ้ายออร์แกนิก 100% เนื้อผ้านุ่ม ระบายอากาศได้ดี ไม่ร้อน มีให้เลือกหลายขนาดตั้งแต่ S ถึง XXL สามารถใส่ได้ทั้งชุดลำลองหรือใส่คู่กับเสื้อคลุม
เซรั่มวิตามินซีเข้มข้น 20% ขนาด 30 มล. ผลิตจากวิตามินซีบริสุทธิ์คุณภาพสูง ช่วยลดเลือนจุดด่างดำ รอยแดงจากสิว ปรับผิวให้กระจ่างใสอย่างเห็นผลภายใน 2 สัปดาห์ ลดเลือนริ้วรอยและกระชับรูขุมขน เนื้อเซรั่มบางเบา ซึมซาบเร็ว ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และน้ำหอม
หูฟังไร้สาย Bluetooth 5.2 รุ่น Pro X แบตเตอรี่อึดใช้งานต่อเนื่องได้นาน 36 ชั่วโมง พร้อมเคสชาร์จขนาดพกพา ระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Active Noise Cancellation ลดเสียงรบกวนภายนอกได้ถึง 35 dB มี 3 โหมดการฟัง (ตัดเสียงรบกวน/โหมดปกติ/โหมดได้ยินเสียงรอบข้าง) รองรับการเชื่อมต่อ 2 อุปกรณ์พร้อมกัน กันน้ำกันเหงื่อระดับ IPX7 ทนทานต่อการออกกำลังกายและใช้งานกลางแจ้ง ชิปประมวลผลเสียงรุ่นใหม่ล่าสุดให้เสียงทุ้มลึก เสียงกลางชัด และเสียงแหลมใสกระจ่าง มีไมโครโฟน 4 ตัวพร้อมเทคโนโลยี AI ลดเสียงลม ให้เสียงสนทนาคมชัดแม้ใช้โทรศัพท์ในที่มีเสียงรบกวน ควบคุมด้วยระบบสัมผัสอัจฉริยะ มาพร้อมจุกซิลิโคน 5 ขนาดให้เลือกใส่ได้พอดีหู
Product Description เป็นปัจจัยสำคัญในการกระตุ้นยอดขายให้กับธุรกิจ โดยพฤติกรรมของผู้บริโภคทั่วไปแล้ว มักจะตัดสินใจซื้อสินค้าอย่างรวดเร็ว เมื่อมีการบอกรายละเอียดอย่างครบถ้วน ด้วยอารมณ์และความรู้สึกในการต้องการสินค้าที่กำลังพลุ่งพล่าน ประกอบกับสามารถพิจารณาสินค้าได้ทันที โดยที่ไม่ต้องรอให้แอดมินหรือทางแบรนด์ตอบคำถามใด ๆ ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีการวิจัยรับรองอีกว่า Product Description คือปัจจัยลำดับที่สองรองจากรูปภาพที่ผู้บริโภคใช้ในการตัดสินใจซื้อ ด้วยเหตุนี้ การใส่ Product Description หรือรายละเอียดสินค้าและบริการจึงเป็นสิ่งที่คุณควรให้ความสนใจ
การเขียน Product Description คือต้องเขียนข้อมูลให้ครบถ้วน ประกอบกับการใช้ฝีมือการเขียนที่น่าสนใจและชวนให้คล้อยตาม จนกระตุ้นให้เกิดการสั่งซื้อสินค้าจริง สำหรับเทคนิคการเขียน Product Description ที่เราจะมาแชร์กันนี้ ไม่ได้ช่วยกระตุ้นยอดขายทางตรงเท่านั้น ยังช่วยสร้างภาพจำและเพิ่มโอกาสในการนำมาซึ่งลูกค้าใหม่ผ่านการติดอันดับ SEO บน Google อีกด้วย
ก่อนเขียน Product Description คุณต้องรู้ก่อนว่ากลุ่มเป้าหมายคือใคร การสร้าง Customer Persona จะช่วยให้คุณมองเห็นภาพของลูกค้าได้ชัดเจน และสามารถเลือกใช้ภาษา เนื้อหา และการนำเสนอที่ตรงใจกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด
การเขียน Product Description ที่ดีควรใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย ชัดเจน และกระชับ หลีกเลี่ยงการใช้คำศัพท์เฉพาะทางที่ลูกค้าทั่วไปอาจไม่เข้าใจ เว้นแต่กลุ่มเป้าหมายของคุณเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้น ๆ ควรใช้ประโยคสั้น ๆ ที่สื่อความหมายได้ตรงประเด็น มีการยกตัวอย่างหรือเปรียบเทียบเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจได้ง่ายขึ้น
การใส่คีย์เวิร์ด (Keyword) หรือคำสำคัญที่เกี่ยวข้องกับสินค้า (เรียกว่า SEO) เป็นกลยุทธ์สำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าค้นพบสินค้าของคุณได้ง่ายขึ้น คุณจะต้องทำ Keyword Research เพื่อดูว่าลูกค้าค้นหาสินค้าของคุณผ่านคีย์เวิร์ดคำไหน แล้วสอดแทรกคำเหล่านั้นเข้าไปในคำบรรยายสินค้าอย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งในชื่อสินค้า หัวข้อย่อย และรายละเอียดสินค้า การทำแบบนี้จะช่วยให้สินค้ามีโอกาสแสดงผลบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ และ Google ง่ายมากขึ้น
การจัดรูปแบบที่ดีช่วยให้ข้อมูลอ่านง่าย น่าติดตาม และดึงดูดความสนใจได้มากขึ้น คุณสามารถใช้ Bullet Points แบ่งข้อมูลเป็นส่วน ๆ เพื่อเน้นย้ำคุณสมบัติสำคัญ ประโยชน์หลัก หรือข้อมูลจำเพาะของสินค้าได้ นอกจากนี้ การใช้ตัวหนา ตัวเอียง หรือสัญลักษณ์พิเศษยังช่วยดึงดูดสายตาและเน้นข้อมูลสำคัญได้อีกด้วย
Call to Action หรือ CTA คือคำกระตุ้นการตัดสินใจ ซึ่งจะช่วยโน้มน้าวใจช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น คุณควรใช้ประโยคที่กระชับ เข้าใจง่าย และสร้างความรู้สึกเร่งด่วน เช่น มีจำนวนจำกัด”, "สั่งซื้อเลยวันนี้รับส่วนลด 20%” หรือ "กดติดตามร้าน เพื่อรับโค้ดส่วนลด” เป็นต้น CTA ที่ดีควรอยู่ในตำแหน่งที่มองเห็นได้ง่ายและเชื่อมโยงกับข้อมูลสำคัญของสินค้า
FAB ย่อมาจาก Feature-Advantage-Benefit เป็นโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้การเขียน Product Description มีความครบถ้วนและโน้มน้าวใจผู้บริโภคได้เป็นอย่างดี ซึ่ง FAB ประกอบไปด้วย 3 ส่วน ดังนี้
เราสามารถบอกได้ว่า Product Description คือกลยุทธ์ทางการตลาดอันเป็นส่วนหนึ่งของการทำ Content Marketing ก็ว่าได้ เพราะ Product Description คือข้อความที่ใช้ในการอธิบายสินค้า ซึ่งจะต้องมีการใช้เทคนิคการเขียนและทักษะการวิเคราะห์ร่วมด้วย เพื่อให้ Product Description ออกมาน่าสนใจและตอบโจทย์ผู้บริโภคมากที่สุด หวังว่าเทคนิคการเขียน Product Description ที่เราเอามาแชร์กันจะเป็นประโยชน์กับคุณไม่มากก็น้อย นอกจากการนำไปใช้เขียน Product Description บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee, Lazada, TikTok Shop ฯลฯ แล้ว ยังสามารถใช้ประกอบสินค้าบนเว็บไซต์และ Social Mdia ได้อีกด้วย
สำหรับเจ้าของธุรกิจที่อยากลงมือทำการตลาดออนไลน์ด้วยตัวเอง แต่ยังไม่มีสกิลและทักษะในด้านการตลาด ANGA Master ขอแนะนำคอร์สเรียน Marketing ที่สอนโดยผู้เชี่ยวชาญจากดิจิทัลเอเจนซี่รับทำ SEO และ Performance Marketing ชั้นนำในไทย อาทิ คอร์สเรียน SEO สำหรับผู้เริ่มต้น, คอร์สเรียน SEO Strategy for Executives สำหรับเจ้าของธุรกิจ, คอร์สเรียน Google Analytics 4 (เครื่องมือวิเคราะห์) รวมถึงคอร์สเรียน Google Ads และคอร์สเรียน Facebook Ads สำหรับผู้ที่อยากเร่งยอดขายด้วยการทำโฆษณา
พัฒนาสกิลที่ถูกต้องสำหรับผู้นำ
ด้านการตลาดออนไลน์
26 MAY
คอร์สเรียน Google Tag Manager โดยตรงจากเอเจนซี่ สอนทุกเทคนิคการติดตั้ง Tracking โดยไม่ต้องเขียนโค้ด
26 MAY
26 MAY
19 MAY
19 MAY
19 MAY
ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ