6 กลยุทธ์หัวหน้างาน ช่วยปูทางให้คุณมุ่งสู่ความสำเร็จ

ANGA Mastery

28 JUNE 24

530

Angamasterc6.webp

รู้จักกลยุทธ์หัวหน้างาน เตรียมความพร้อมสู่ความสำเร็จ

ใคร ๆ ก็เป็นหัวหน้างานได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็นหัวหน้างานชั้นยอดได้ จากผลสำรวจของ Hays ในปี 2565 พบว่ากว่า 47% ของพนักงานที่ลาออกมีเหตุผลมาจากหัวหน้างานขาดทักษะและความพร้อมในตำแหน่ง โดยเฉพาะทักษะทางด้านการสื่อสาร การบริหาร และการให้ความสำคัญที่ผิดจุด ด้วยเหตุนี้ “หัวหน้างาน” จึงถือเป็นตำแหน่งที่สำคัญในองค์กรและมีบทบาทต่ออายุการทำงานของพนักงานเป็นอย่างมาก

หากคุณอยากเติบโตไปเป็นหัวหน้างานที่ดี เป็นหัวหน้างานที่ทีมรัก และประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานล่ะก็ คุณจะต้องมีความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน และบทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจและเตรียมตัวให้พร้อมในการเป็นหัวหน้างานกับ “6 กลยุทธ์หัวหน้างาน อันเป็นกุญแจไขประตูไปสู่ความสำเร็จ”
 

เฉลย 6 กลยุทธ์หัวหน้างาน เตรียมความพร้อมสู่ความสำเร็จ

ไม่ว่าตอนนี้คุณจะมีอายุมากอายุน้อย เพิ่งเริ่มทำงานหรือทำงานมานานแล้ว หรือจะเป็นคนที่ยังไม่ได้เก่งรอบด้าน เราเชื่อมั่นว่าคุณเองก็สามารถเป็นหัวหน้าคนได้เช่นกัน หากอยากเติบโตไปเป็นหัวหน้าที่ดี มีศักยภาพ และได้รับการยอมรับ มาเตรียมความพร้อมให้ตัวเองด้วย 6 กลยุทธ์นี้ได้เลย!

1. เชี่ยวชาญในงานที่ทำ

สิ่งแรกที่จะทำให้คนในทีมเชื่อมั่น ไว้วางใจ และยอมรับคุณในฐานะของหัวหน้า คือความเชี่ยวชาญในสายงานที่คุณทำ เช่น คุณเป็นหัวหน้าทีมการตลาด คุณก็จะต้องเก่งและเชี่ยวชาญด้านการตลาดอย่างถ่องแท้ ทั้งรายละเอียดของงาน ขั้นตอนการทำงาน จุดประสงค์ ผลลัพธ์ และอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้ ไม่เพียงแค่นั้น คุณจะต้องลงมือทำเพื่อให้ทีมเห็นเป็นตัวอย่างด้วย เพราะถ้าคุณทำไม่ได้หรือไม่ลงมือทำให้เห็น คนในทีมก็จะไม่เชื่อมั่นในตัวคุณแต่อย่างใด

2. พัฒนาตัวเองอยู่เสมอ

การพัฒนาตัวเองอยู่เสมอเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะทำให้คุณได้รับทักษะใหม่ ๆ ถึงแม้จะเป็นเรื่องในสายงานที่ทำอยู่แล้ว หรือจะเป็นทักษะที่เกี่ยวข้องก็ตาม ยิ่งคุณมีทักษะมากเท่าไหร่ มีประสบการณ์มากแค่ไหน คุณก็จะสามารถนำมันมาใช้ประโยชน์ในอนาคตได้ ทั้งใช้ในการทำงาน ใช้ในการแก้ปัญหา และใช้ในการหาตัวเลือกต่าง ๆ อีกทั้ง ยังเป็นแบบอย่างที่ดีและช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้แก่คนในทีมด้วย

3. มี Mindset และ Soft Skills ที่ดี

หัวหน้าที่มี Mindset และ Soft Skills ที่ดีจะช่วยส่งเสริมให้บรรยากาศการทำงานในทีม ความสัมพันธ์ของคนในทีม และประสิทธิภาพการทำงานของทีมดีขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่โอกาสในการเติบโตของบริษัทด้วย และนี่ก็เป็น Mindset และ Soft Skills ที่คนในหัวหน้าควรมี

Mindset

Positive Mindset : การมองโลกตามความเป็นจริง ที่เน้นมุมมองในด้านดีเป็นหลัก

Growth Mindset : เชื่อว่าคนเราสามารถพัฒนาและเติบโตไปได้ไกลกว่าตอนนี้ได้

Solution-Oriented Mindset : เชื่อว่าทุกอย่างมีทางออก และมองหาโอกาสใหม่ ๆ เสมอ

Soft Skills

Critical Thinking : ทักษะในการคิดวิเคราะห์

Problem Solving : ทักษะในการแก้ไขปัญหา

Time Management : ทักษะในการจัดการและบริหารเวลา

Communication : สามารถสื่อสารได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Negotiation : ทักษะในการเจรจาต่อรองและการโน้มน้าวใจ

Teamwork : ทักษะในการทำงานและประสานงานร่วมกับผู้อื่น

Coaching : สามารถให้คำปรึกษาและพัฒนาศักยภาพของคนในทีมได้

4. มอบหมายงานให้เหมาะกับคน

การมอบหมายงานให้เหมาะกับคนจะช่วยให้คนในทีมไม่กดดัน ได้ทำในสิ่งที่ตัวเองสามารถทำได้ดี มีความมั่นใจในการทำงาน และมีความสุขในการทำงาน ซึ่งเราแนะนำให้คุณเริ่มจากการทำความรู้จักว่าคนในทีมแต่ละคนเก่งในเรื่องไหน งานที่เข้ามาใหม่เป็นเรื่องใด และวิเคราะห์ว่าใครสามารถทำงานนั้นได้ดีที่สุด จากนั้นก็ทำการมอบหมายงานให้เหมาะกับคน

5. มีความฉลาดทางอารมณ์

หากคุณไม่มีความฉลาดทางอารมณ์หรือไม่สามารถควบคุมอารมณ์ได้ คุณก็จะไม่สามารถควบคุมสิ่งที่คุณกระทำหรือพูดออกมาได้เช่นกัน เพราะอารมณ์จะถูกส่งออกมาเป็น Energy ผ่านน้ำเสียงการพูด และลักษณะของการกระทำต่าง ๆ ซึ่งจะทำให้คุณดูเป็นคนที่ไม่มีวุฒิภาวะเอาเสียเลย บรรยากาศในทีมก็จะเสีย คนในทีมก็จะไม่เคารพคุณ หนำซ้ำยังเป็นสาเหตุที่ทำให้คนในทีมไม่อยากร่วมงานด้วยและลาออกไปอีกต่างหาก

6. สามารถแก้ปัญหาได้เป็นอย่างดี

หัวหน้าที่มีศักยภาพจะต้องเป็นคนที่สามารถแก้ไขปัญหาและหาทางออกให้กับคนในทีมได้ เพราะสิ่งนี้จะทำให้คนในทีมมองว่าคุณเป็นคนที่สามารถเชื่อใจได้ เกิดเป็นความมั่นใจในตัวคุณ มีความศรัทธา และสามารถนำพาทีมไปสู่การเติบโตได้

ปัญหาที่พบบ่อยของหัวหน้างาน

ชีวิตของการทำงานย่อมเจอกับปัญหาและอุปสรรคเข้ามาอยู่แล้ว แน่นอนว่าหัวหน้างานก็เช่นเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นตำแหน่งที่พบกับปัญหาได้บ่อยมากกว่าที่พนักงานทั่วไปเจออีกด้วย ในหัวข้อนี้เราจะมาพูดถึงปัญหาที่หัวหน้างานอาจพบบ่อย

ความกดดัน

อย่างแรกเลยที่คนเป็นหัวหน้าต้องเจอคือความกดดันจากหลาย ๆ อย่าง อาทิ ความคาดหวังจากผู้บริหาร, ความกดดันในตัวเองเพราะตำแหน่ง, ปัญหาที่เข้ามาไม่เว้นแต่ละวัน, การคิดว่าต้องทำอย่างไรถึงจะดึงศักยภาพของคนในทีมออกมาได้ และยังรวมไปเรื่องความกดดันจากการอยากทำทุกอย่างให้ดี จนไม่ยอมปล่อยงานให้กับคนในทีมด้วย ถ้าคุณเจอปัญหานี้อยู่แนะนำให้เปลี่ยนจากการลงมือทำด้วยตัวเอง เป็นการมอบหมายงานให้ทีมทำ ส่วนเราที่อยู่ในฐานะหัวหน้าคอยเป็นคนสนับสนุนและคอยให้คำแนะนำเขาดีกว่า

ความจริงจัง VS ความยืดหยุ่น

ปัญหาเรื่องความสมดุล (Balance) ระหว่างความจริงจัง VS ความยืดหยุ่นกับคนในทีม หากหัวหน้าใจดีเกินไป ไม่กล้าฟีดแบคอย่างตรงไปตรงมา คนในทีมก็จะทำงานแบบสบาย ๆ ขี้เกียจมากขึ้น และอาจทำให้งานออกมาไม่มีคุณภาพได้ แต่ถ้าหัวหน้าเคร่งครัดและจริงจังจนเกินไป อาจทำให้คนในทีมอึดอัด เหมือนถูกกดดัน และหมดไฟในการทำงานได้

การทำงานกับคนในวัยต่าง ๆ

มีความเป็นไปได้สูงมากว่าหัวหน้างานจะได้เจอกับคนในทีมที่มีอายุแตกต่างกันในช่วงวัยต่าง ๆ อาจจะเป็นคนอายุน้อยกว่า เท่ากัน หรือมากกว่าก็ได้ ซึ่งแต่ละคนก็จะมีวิธีการทำงานและความคิดที่แตกต่างกันออกไป ความยากของหัวหน้างานคือการปรับตัวให้เหมาะสมกับทุก ๆ คน โดยไม่ลำเอียง

คนในทีมลาออก

ปัญหาเรื่องคนในทีมลาออก สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ปัญหา คือ ปัญหาที่เราแก้ได้และปัญหาที่เราแก้ไม่ได้ นอกจากการพูดคุยอย่างตรงไปตรงมาแล้ว หัวหน้าจะต้องมีการคิดแผนสำรองเอาไว้อยู่เสมอ เพื่อใช้สำหรับการแก้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นอีกครั้งในอนาคต

บทสรุปเรื่องกลยุทธ์หัวหน้างาน

เป็นอย่างไรกันบ้างกับกลยุทธ์หัวหน้างานและทักษะต่าง ๆ ที่จะนำคุณไปสู่ความสำเร็จในเส้นทางของหัวหน้า ต้องบอกว่าสิ่งต่าง ๆ ที่เราเอามาแชร์กันนี้ สามารถยืดหยุ่นได้ตามความเหมาะสมกับสายงานและประสบการณ์ของคุณ แค่นำเรื่องเหล่านี้ไปเป็นสิ่งพื้นทางเพื่อปูทางเตรียมความพร้อมในการเป็นหัวหน้าที่ดีก็เพียงพอแล้ว ยิ่งคุณทำได้มากเท่าไหร่ เจ้านายและคนในทีม รวมถึงตัวคุณเองก็จะมีความสุขมากขึ้นเท่านั้น ทั้งนี้ เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยคุณตอบคำถามของคุณได้เป็นอย่างดี

 

Related News

คู่มือการทำ Schema Markup บน WordPress ฉบับสมบูรณ์ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด

Wordpress schema markup เป็นทักษะที่ SEO Specialist ควรเชี่ยวชาญ ในบทความนี้ เราจะสอนการลงมือทำแบบละเอียดโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเมอร์

แชร์ 10 เทคนิคทำโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ เร่งยอดขาย 2025

ธุรกิจจะอยู่รอดต่อไปในอนาคตได้หรือไม่ ยอดขายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าคุณมียอดขายสูงพอ มันก็จะครอบคลุมในส่วนของเงินทุนที่เสียไปในตอนแรกและได้ทั้งกำไรที่จะต่อยอดธุรกิจต่อไป ซึ่งแบรนด์อย่างเรา ๆ ก็ต้องพยายามกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค ให้พวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องมีสิ่งนี้ และตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้นในท้ายที่สุด ผ่านการพูดโน้มน้าวใจโฆษณาสินค้าไปยังช่องทางต่าง ๆ อาทิ TikTok, Facebook หรือ Website ด้วยเหตุนี้การโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ จึงไม่ได้มีหน้าที่เพียงกระตุ้นความต้องการแล้วจบไปเท่านั้น แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิด Conversion ขึ้นจริง มาทำความเข้าใจเรื่องโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ พร้อมดูตัวอย่างการโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจจากแบรนด์ต่าง ๆ กับ ANGA Mastery ได้ที่นี่เลย

Google My Business คือเครื่องมือสำคัญ ที่ทุกธุรกิจห้ามพลาด

เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ ไม่ว่าใครก็ต้องหันมาพึ่งพาการทำการตลาดออนไลน์กันทั้งนั้น เพราะเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือข้อมูลบนโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักและเติบโตได้เร็วกว่าธุรกิจที่ไม่มีข้อมูลบนโลกออนไลน์เลย ยิ่งธุรกิจใดมีการปักหมุดแผนที่ลงไปใน Google Maps และใส่ข้อมูลรายละเอียดของธุรกิจอย่างครบครันด้วยล่ะก็ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ในวันนี้ ANGA Mastery จะมาแนะนำให้คุณรู้จักว่า Google My Business คืออะไร บอกได้เลยว่าสิ่งนี้ช่วยธุรกิจของคุณได้มาก ทั้งธุรกิจที่มีหน้าร้านก็ดี หรือธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านก็ตาม อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการทำ SEO พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ Local SEO ให้กับธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

คู่มือการทำ Schema Markup บน WordPress ฉบับสมบูรณ์ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด

Wordpress schema markup เป็นทักษะที่ SEO Specialist ควรเชี่ยวชาญ ในบทความนี้ เราจะสอนการลงมือทำแบบละเอียดโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเมอร์

แชร์ 10 เทคนิคทำโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ เร่งยอดขาย 2025

ธุรกิจจะอยู่รอดต่อไปในอนาคตได้หรือไม่ ยอดขายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าคุณมียอดขายสูงพอ มันก็จะครอบคลุมในส่วนของเงินทุนที่เสียไปในตอนแรกและได้ทั้งกำไรที่จะต่อยอดธุรกิจต่อไป ซึ่งแบรนด์อย่างเรา ๆ ก็ต้องพยายามกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค ให้พวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องมีสิ่งนี้ และตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้นในท้ายที่สุด ผ่านการพูดโน้มน้าวใจโฆษณาสินค้าไปยังช่องทางต่าง ๆ อาทิ TikTok, Facebook หรือ Website ด้วยเหตุนี้การโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ จึงไม่ได้มีหน้าที่เพียงกระตุ้นความต้องการแล้วจบไปเท่านั้น แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิด Conversion ขึ้นจริง มาทำความเข้าใจเรื่องโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ พร้อมดูตัวอย่างการโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจจากแบรนด์ต่าง ๆ กับ ANGA Mastery ได้ที่นี่เลย

Google My Business คือเครื่องมือสำคัญ ที่ทุกธุรกิจห้ามพลาด

เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ ไม่ว่าใครก็ต้องหันมาพึ่งพาการทำการตลาดออนไลน์กันทั้งนั้น เพราะเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือข้อมูลบนโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักและเติบโตได้เร็วกว่าธุรกิจที่ไม่มีข้อมูลบนโลกออนไลน์เลย ยิ่งธุรกิจใดมีการปักหมุดแผนที่ลงไปใน Google Maps และใส่ข้อมูลรายละเอียดของธุรกิจอย่างครบครันด้วยล่ะก็ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ในวันนี้ ANGA Mastery จะมาแนะนำให้คุณรู้จักว่า Google My Business คืออะไร บอกได้เลยว่าสิ่งนี้ช่วยธุรกิจของคุณได้มาก ทั้งธุรกิจที่มีหน้าร้านก็ดี หรือธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านก็ตาม อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการทำ SEO พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ Local SEO ให้กับธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ