ถอดรหัสเบื้องหลังความสำเร็จ Netflix บทเรียนการตลาดที่คุณต้องรู้

ANGA Mastery

13 AUGUST 24

220

MASTERY-COVER-JUL-02.webp

Netflix ได้กลายเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการสตรีมมิ่งและความบันเทิง ด้วยผู้ใช้งานกว่า 230 ล้านคนทั่วโลก ความสำเร็จของ Netflix ไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ แต่เป็นผลมาจากกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาดและการปรับตัวที่รวดเร็ว บทความนี้ ANGA Mastery จะพาคุณไปเรียนรู้บทเรียนการตลาดที่ทำให้ Netflix ประสบความสำเร็จ และวิธีที่คุณสามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจของคุณได้

1. การสร้างคอนเทนต์ที่โดดเด่น

การสร้างคอนเทนต์ที่โดดเด่น

Netflix Originals เลือกลงทุนในคอนเทนต์คุณภาพ

Netflix ได้ลงทุนอย่างมหาศาลในการสร้างคอนเทนต์ออริจินัลของตัวเอง เช่น ซีรีส์อย่าง Stranger Things, The Crown, Narcos หรือภาพยนตร์อย่าง Bird Box และ The Irishman ที่ไม่เพียงแต่สร้างกระแสให้กับแพลตฟอร์ม แต่ยังช่วยดึงดูดและรักษาผู้ชมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงเท่านั้น Netflix ยังลงทุนในการดึงดูดผู้กำกับและนักแสดงชั้นนำมาร่วมงาน เช่น มาร์ติน สกอร์เซซี, เดวิด ฟินเชอร์, และชาร์ลิซ เธอรอน ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพและภาพลักษณ์ของคอนเทนต์ Netflix ให้สูงขึ้นไปอีก

ความหลากหลายของคอนเทนต์

Netflix นำเสนอคอนเทนต์ที่หลากหลาย ตั้งแต่ซีรีส์ ภาพยนตร์ สารคดี ไปจนถึงรายการเรียลลิตี้ และรายการสำหรับเด็ก ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ชมได้ทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่น ผู้ใหญ่ หรือครอบครัว นอกจากนี้ Netflix ยังให้ความสำคัญกับการนำเสนอคอนเทนต์จากทั่วโลก ทั้งซีรีส์เกาหลี ภาพยนตร์ยุโรป หรือแอนิเมชั่นญี่ปุ่น ซึ่งช่วยดึงดูดผู้ชมที่มีความสนใจหลากหลายและเพิ่มฐานผู้ชมในระดับนานาชาติ

การใช้ข้อมูลในการตัดสินใจสร้างคอนเทนต์

 

การใช้ข้อมูลเพื่อเข้าใจผู้ชม

Netflix ใช้ข้อมูลจากพฤติกรรมการรับชมของผู้ใช้ในการตัดสินใจว่าควรสร้างคอนเทนต์แบบไหน เช่น การวิเคราะห์ว่าผู้ชมชอบดูซีรีส์แนวไหน นักแสดงคนไหนได้รับความนิยม หรือรูปแบบการเล่าเรื่องแบบไหนที่ดึงดูดผู้ชมได้มากที่สุด ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ Netflix สามารถสร้างคอนเทนต์ที่มีโอกาสประสบความสำเร็จสูง

ตัวอย่างเช่น ความสำเร็จของซีรีส์ "House of Cards" เกิดจากการวิเคราะห์ข้อมูลที่พบว่าผู้ชมชื่นชอบผลงานของเดวิด ฟินเชอร์ นักแสดงอย่างเควิน สเปซีย์ และเนื้อหาทางการเมือง จึงนำมาสู่การสร้างซีรีส์ที่รวมองค์ประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกัน

2. การใช้ข้อมูลเพื่อเข้าใจผู้ชม

ระบบแนะนำที่ชาญฉลาด

Netflix ใช้ข้อมูลพฤติกรรมการรับชมของผู้ใช้เพื่อสร้างระบบแนะนำที่แม่นยำ ช่วยให้ผู้ชมค้นพบคอนเทนต์ที่ตรงใจได้ง่ายขึ้น ระบบนี้ใช้อัลกอริทึมที่ซับซ้อนในการวิเคราะห์ประวัติการรับชม การให้คะแนน และแม้กระทั่งช่วงเวลาที่ผู้ใช้มักจะรับชม เพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่เหมาะสมที่สุด ซึ่งเจ้าระบบแนะนำนี้ไม่เพียงแต่ช่วยให้ผู้ใช้ค้นพบคอนเทนต์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจเท่านั้น แต่ยังช่วยเพิ่มอัตราการรับชมและลดอัตราการยกเลิกสมาชิกได้ด้วย เพราะเนื่องจากผู้ใช้รู้สึกว่าได้รับรู้ถึงคุณค่าจากการสมัครสมาชิก Netflix

การปรับแต่งประสบการณ์ผู้ใช้

ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูล Netflix สามารถปรับแต่งหน้าโฮมและการนำเสนอคอนเทนต์ให้เหมาะกับผู้ใช้แต่ละคน เพื่อเพิ่มโอกาสในการรับชมและความพึงพอใจ การปรับแต่งนี้รวมถึงการเลือกภาพปกของคอนเทนต์ที่แสดงให้ผู้ใช้เห็น โดยอ้างอิงจากความชอบของผู้ใช้แต่ละคน เช่น หากผู้ใช้ชอบดูหนังที่มีนักแสดงนำหญิง ระบบอาจเลือกแสดงภาพปกที่เน้นตัวละครหญิงมากกว่า

นอกจากนี้ Netflix ยังปรับแต่งการจัดวางหมวดหมู่และแถวแนะนำคอนเทนต์บนหน้าโฮมให้เหมาะกับแต่ละผู้ใช้ ทำให้ผู้ใช้รู้สึกว่า Netflix เข้าใจความต้องการของตนเองอย่างแท้จริง

การวิเคราะห์พฤติกรรมการรับชม

Netflix ไม่เพียงแต่วิเคราะห์ว่าผู้ใช้ดูอะไร แต่ยังวิเคราะห์ว่าพวกเขาดูอย่างไรด้วย เช่น การเก็บข้อมูลว่าผู้ชมดูจบทั้งซีซั่นหรือไม่ ใช้เวลานานแค่ไหนในการดูจบหนึ่งซีซั่น หรือมีการกดข้ามไปดูฉากไหนบ่อยๆ ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้ Netflix เข้าใจว่าคอนเทนต์แบบไหนที่ดึงดูดผู้ชมได้ดีที่สุด และนำไปใช้ในการพัฒนาคอนเทนต์ในอนาคต

ตัวอย่างเช่น หาก Netflix พบว่าผู้ชมส่วนใหญ่ดูซีรีส์จบทั้งซีซั่นภายในสองสามวัน อาจนำไปสู่การตัดสินใจปล่อยซีรีส์ทั้งซีซั่นพร้อมกันทีเดียว แทนที่จะทยอยปล่อยรายสัปดาห์

3. กลยุทธ์การขยายตลาดระดับโลก

กลยุทธ์การขยายตลาดระดับโลก

การปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น

Netflix ให้ความสำคัญกับการสร้างคอนเทนต์ที่เข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่นในแต่ละประเทศ เช่น ซีรีส์ Dark จากเยอรมนี, Kingdom จากเกาหลีใต้, หรือ Sacred Games จากอินเดีย การลงทุนในคอนเทนต์ท้องถิ่นไม่เพียงแต่ช่วยดึงดูดผู้ชมในประเทศนั้นๆ แต่ยังสร้างความหลากหลายให้กับคลังคอนเทนต์ของ Netflix ในระดับโลก

ไม่หมดเท่านั้น Netflix ยังปรับแต่งอินเทอร์เฟซและการนำเสนอคอนเทนต์ให้เหมาะกับแต่ละประเทศ เช่น การแสดงคอนเทนต์ท้องถิ่นบนหน้าโฮมมากขึ้นในบางประเทศ หรือการปรับเปลี่ยนชื่อและคำอธิบายคอนเทนต์ให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมตามผู้ใช้งาน

การแปลและพากย์เสียงที่มีคุณภาพ

เพื่อให้คอนเทนต์เข้าถึงผู้ชมทั่วโลก Netflix ลงทุนในการแปลและพากย์เสียงที่มีคุณภาพสูง ช่วยลดอุปสรรคทางด้านภาษา โดยบริษัทได้พัฒนาระบบการแปลบทบรรยายที่มีประสิทธิภาพ และจ้างนักแปลมืออาชีพเพื่อให้แน่ใจว่าการแปลมีความถูกต้องและเข้ากับบริบททางวัฒนธรรม

ที่สำคัญ Netflix ยังลงทุนในเทคโนโลยีการพากย์เสียงขั้นสูง เช่น การใช้ AI ในการสร้างเสียงพากย์ที่เหมือนจริงมากขึ้น และการพัฒนาระบบการซิงค์ปากที่แม่นยำ ทำให้ประสบการณ์การรับชมคอนเทนต์ต่างภาษาเป็นธรรมชาติมากขึ้น

การร่วมมือกับผู้ผลิตคอนเทนต์ท้องถิ่น

Netflix ไม่เพียงแต่สร้างคอนเทนต์เอง แต่ยังร่วมมือกับผู้ผลิตคอนเทนต์ท้องถิ่นในหลายประเทศ การร่วมมือนี้ช่วยให้ Netflix เข้าถึงความเชี่ยวชาญและความเข้าใจในวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างลึกซึ้ง ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้ชมในแต่ละประเทศ

ตัวอย่างเช่น ในญี่ปุ่น Netflix ร่วมมือกับสตูดิโอแอนิเมชั่นชั้นนำในการสร้างอนิเมะออริจินัล ในขณะที่ในอินเดีย บริษัทร่วมมือกับผู้กำกับและนักแสดงชื่อดังของบอลลีวูดในการสร้างภาพยนตร์และซีรีส์ โดยการร่วมมือนี้ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์กับอุตสาหกรรมบันเทิงในท้องถิ่น ซึ่งเป็นประโยชน์ในระยะยาวสำหรับการขยายธุรกิจของ Netflix ในตลาดต่างประเทศ

4. โมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่น

 

โมเดลธุรกิจที่ยืดหยุ่น

การปรับราคาและแพ็กเกจ

Netflix มีการปรับราคาและนำเสนอแพ็กเกจที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่แตกต่างกัน บริษัทมีการเสนอแพ็กเกจหลายระดับ ตั้งแต่แบบพื้นฐานที่มีราคาถูกแต่จำกัดคุณภาพวิดีโอและจำนวนอุปกรณ์ที่ใช้งานพร้อมกันได้ ไปจนถึงแพ็กเกจพรีเมียมที่ให้คุณภาพวิดีโอสูงสุดและสามารถใช้งานพร้อมกันได้หลายอุปกรณ์

นอกจากนี้ Netflix ยังทดลองใช้โฆษณาบางแพ็กเกจในบางประเทศ เพื่อเสนอทางเลือกที่มีราคาถูกลงสำหรับผู้ใช้ที่ยอมรับการมีโฆษณาได้ โดยกลยุทธ์การปรับราคาและแพ็กเกจนี้ช่วยให้ Netflix สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้ใช้ที่หลากหลายมากขึ้น และเพิ่มความยืดหยุ่นในการแข่งขันกับคู่แข่งในตลาดสตรีมมิ่ง

การทดลองฟีเจอร์ใหม่ๆ

Netflix ไม่หยุดนิ่งในการทดลองฟีเจอร์ใหม่ๆ เพื่อเพิ่มประสบการณ์การใช้งานและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ที่เปลี่ยนแปลงไป ตัวอย่างของฟีเจอร์เหล่า เช่น

  • การดาวน์โหลดคอนเทนต์เพื่อรับชมออฟไลน์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูคอนเทนต์ได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต
  • โหมดสุ่มเลือกคอนเทนต์ สำหรับผู้ใช้ที่ไม่แน่ใจว่าอยากดูอะไร
  • การข้ามไตเติ้ลอัตโนมัติ ที่ช่วยประหยัดเวลาในการรับชมซีรีส์หลายตอน
  • การปรับความเร็วในการรับชม ทำให้ผู้ใช้สามารถเร่งหรือช้าการรับชมได้ตามต้องการ

การปรับตัวตามการแข่งขันในตลาด

Netflix ต้องเผชิญกับการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นจากบริการสตรีมมิ่งอื่นๆ เช่น Disney+, Amazon Prime Video, และ HBO Max บริษัทจึงต้องปรับตัวอย่างต่อเนื่องเพื่อรักษาความได้เปรียบในการแข่งขัน โดยมีกลยุทธ์วิธีการปรับตัวในเรื่องต่างๆ ตลอดเวลา รวมถึง

  • การเพิ่มการลงทุนในคอนเทนต์ออริจินัลที่มีคุณภาพสูง
  • การขยายไปสู่ตลาดใหม่ๆ โดยเฉพาะในประเทศกำลังพัฒนา
  • การพัฒนาเทคโนโลยีสตรีมมิ่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  • การสร้างพันธมิตรกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมและผู้ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์

5. การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

การสร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง

การตลาดแบบไวรัล

Netflix ใช้การตลาดแบบไวรัลอย่างชาญฉลาด โดยสร้างกระแสผ่านโซเชียลมีเดียและการทำ Meme Marketing ที่เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่ วิธีการนี้ช่วยให้แบรนด์ Netflix เป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางโดยใช้งบประมาณการตลาดที่ต่ำกว่าการโฆษณาแบบดั้งเดิม ซึ่งมีตัวอย่างการตลาดแบบไวรัลของ Netflix เช่น

  • การสร้าง Meme จากฉากในซีรีส์หรือภาพยนตร์ยอดนิยม
  • การใช้ Twitter เพื่อสื่อสารกับผู้ชมด้วยโทนเสียงที่เป็นกันเอง
  • การสร้างแคมเปญที่กระตุ้นให้ผู้ชมมีส่วนร่วม เช่น การประกวดคอสเพลย์ตัวละครจากซีรีส์ Netflix

การสร้างวัฒนธรรม Binge-watching

Netflix ได้สร้างวัฒนธรรมการรับชมแบบมาราธอน หรือ Binge-watching ซึ่งกลายเป็นส่วนหนึ่งของไลฟ์สไตล์ของผู้ชมยุคใหม่ ด้วยการ

  • ปล่อยซีรีส์ทั้งซีซั่นพร้อมกันทีเดียว
  • ใช้ระบบ Auto Play ที่เล่นตอนถัดไปโดยอัตโนมัติ
  • สร้างคอนเทนต์ที่ออกแบบมาเพื่อการรับชมต่อเนื่อง

การใช้โซเชียลมีเดียอย่างมีประสิทธิภาพ

Netflix ใช้โซเชียลมีเดียอย่างชาญฉลาดในการสร้างการมีส่วนร่วมกับผู้ชมและส่งเสริมคอนเทนต์ของตน วิธีการใช้โซเชียลมีเดียของ Netflix รวมถึง

  • การสร้างบัญชีโซเชียลมีเดียเฉพาะสำหรับซีรีส์หรือภาพยนตร์ยอดนิยม
  • การใช้ Instagram Stories และ Reels เพื่อนำเสนอเบื้องหลังการถ่ายทำหรือสัมภาษณ์นักแสดง
  • การจัด Live Q&A กับนักแสดงและผู้กำกับบน Facebook Live
  • การใช้ TikTok เพื่อสร้าง Challenge ที่เกี่ยวข้องกับคอนเทนต์ของ Netflix

สรุปบทเรียนจากความสำเร็จของ Netflix

บทเรียนจากความสำเร็จของ Netflix สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจอื่นๆ ได้อย่างกว้างขวาง ข้อแรกคือ การให้ความสำคัญกับคุณภาพของผลิตภัณฑ์หรือบริการ โดย Netflix ลงทุนอย่างมากในการสร้างคอนเทนต์คุณภาพสูง ประการที่สองคือการใช้ข้อมูลและเทคโนโลยีอย่างชาญฉลาดเพื่อเข้าใจลูกค้าและปรับปรุงบริการอย่างต่อเนื่อง ประการที่สามคือการพร้อมปรับตัวและนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ ประการที่สี่คือการสร้างประสบการณ์ลูกค้าที่เป็นเลิศ และสุดท้ายคือการขยายธุรกิจสู่ตลาดโลกอย่างชาญฉลาดด้วยการปรับตัวเข้ากับวัฒนธรรมท้องถิ่น บทเรียนเหล่านี้สามารถเป็นแนวทางให้ธุรกิจอื่นๆ ในการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนและก้าวขึ้นเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของตัวเองได้

 

Related News

คู่มือการทำ Schema Markup บน WordPress ฉบับสมบูรณ์ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด

Wordpress schema markup เป็นทักษะที่ SEO Specialist ควรเชี่ยวชาญ ในบทความนี้ เราจะสอนการลงมือทำแบบละเอียดโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเมอร์

แชร์ 10 เทคนิคทำโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ เร่งยอดขาย 2025

ธุรกิจจะอยู่รอดต่อไปในอนาคตได้หรือไม่ ยอดขายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าคุณมียอดขายสูงพอ มันก็จะครอบคลุมในส่วนของเงินทุนที่เสียไปในตอนแรกและได้ทั้งกำไรที่จะต่อยอดธุรกิจต่อไป ซึ่งแบรนด์อย่างเรา ๆ ก็ต้องพยายามกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค ให้พวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องมีสิ่งนี้ และตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้นในท้ายที่สุด ผ่านการพูดโน้มน้าวใจโฆษณาสินค้าไปยังช่องทางต่าง ๆ อาทิ TikTok, Facebook หรือ Website ด้วยเหตุนี้การโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ จึงไม่ได้มีหน้าที่เพียงกระตุ้นความต้องการแล้วจบไปเท่านั้น แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิด Conversion ขึ้นจริง มาทำความเข้าใจเรื่องโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ พร้อมดูตัวอย่างการโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจจากแบรนด์ต่าง ๆ กับ ANGA Mastery ได้ที่นี่เลย

Google My Business คือเครื่องมือสำคัญ ที่ทุกธุรกิจห้ามพลาด

เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ ไม่ว่าใครก็ต้องหันมาพึ่งพาการทำการตลาดออนไลน์กันทั้งนั้น เพราะเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือข้อมูลบนโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักและเติบโตได้เร็วกว่าธุรกิจที่ไม่มีข้อมูลบนโลกออนไลน์เลย ยิ่งธุรกิจใดมีการปักหมุดแผนที่ลงไปใน Google Maps และใส่ข้อมูลรายละเอียดของธุรกิจอย่างครบครันด้วยล่ะก็ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ในวันนี้ ANGA Mastery จะมาแนะนำให้คุณรู้จักว่า Google My Business คืออะไร บอกได้เลยว่าสิ่งนี้ช่วยธุรกิจของคุณได้มาก ทั้งธุรกิจที่มีหน้าร้านก็ดี หรือธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านก็ตาม อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการทำ SEO พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ Local SEO ให้กับธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

คู่มือการทำ Schema Markup บน WordPress ฉบับสมบูรณ์ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด

Wordpress schema markup เป็นทักษะที่ SEO Specialist ควรเชี่ยวชาญ ในบทความนี้ เราจะสอนการลงมือทำแบบละเอียดโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเมอร์

แชร์ 10 เทคนิคทำโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ เร่งยอดขาย 2025

ธุรกิจจะอยู่รอดต่อไปในอนาคตได้หรือไม่ ยอดขายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าคุณมียอดขายสูงพอ มันก็จะครอบคลุมในส่วนของเงินทุนที่เสียไปในตอนแรกและได้ทั้งกำไรที่จะต่อยอดธุรกิจต่อไป ซึ่งแบรนด์อย่างเรา ๆ ก็ต้องพยายามกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค ให้พวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องมีสิ่งนี้ และตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้นในท้ายที่สุด ผ่านการพูดโน้มน้าวใจโฆษณาสินค้าไปยังช่องทางต่าง ๆ อาทิ TikTok, Facebook หรือ Website ด้วยเหตุนี้การโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ จึงไม่ได้มีหน้าที่เพียงกระตุ้นความต้องการแล้วจบไปเท่านั้น แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิด Conversion ขึ้นจริง มาทำความเข้าใจเรื่องโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ พร้อมดูตัวอย่างการโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจจากแบรนด์ต่าง ๆ กับ ANGA Mastery ได้ที่นี่เลย

Google My Business คือเครื่องมือสำคัญ ที่ทุกธุรกิจห้ามพลาด

เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ ไม่ว่าใครก็ต้องหันมาพึ่งพาการทำการตลาดออนไลน์กันทั้งนั้น เพราะเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือข้อมูลบนโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักและเติบโตได้เร็วกว่าธุรกิจที่ไม่มีข้อมูลบนโลกออนไลน์เลย ยิ่งธุรกิจใดมีการปักหมุดแผนที่ลงไปใน Google Maps และใส่ข้อมูลรายละเอียดของธุรกิจอย่างครบครันด้วยล่ะก็ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ในวันนี้ ANGA Mastery จะมาแนะนำให้คุณรู้จักว่า Google My Business คืออะไร บอกได้เลยว่าสิ่งนี้ช่วยธุรกิจของคุณได้มาก ทั้งธุรกิจที่มีหน้าร้านก็ดี หรือธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านก็ตาม อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการทำ SEO พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ Local SEO ให้กับธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ