5 เทคนิคการจัดสัมมนาออนไลน์ (Webinar) ให้ประสบความสำเร็จ

ANGA Mastery

14 AUGUST 24

360

MASTERY-COVER-AUG-08.webp

นับตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 การสื่อสารออนไลน์กลายเป็นส่วนสำคัญของธุรกิจและการศึกษา Webinar (Web Seminar) ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การแบ่งปันความรู้ และการสร้างโอกาสทางธุรกิจ แต่การจัด Webinar ให้ประสบความสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องอาศัยการวางแผนที่ดีและเทคนิคที่มีประสิทธิภาพ

บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ 5 เทคนิคสำคัญในการจัด Webinar ให้ประสบความสำเร็จ ตั้งแต่การวางแผนและเตรียมการ ไปจนถึงการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วมและการติดตามผล ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการ นักการตลาด หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขาใดก็ตาม เทคนิคเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถจัด Webinar ที่น่าสนใจและมีประสิทธิภาพ สร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กรของคุณ

ทำไม Webinar ถึงสำคัญในยุคปัจจุบัน?

ก่อนที่เราจะไปดูเทคนิคการจัด Webinar มาทำความเข้าใจก่อนว่าทำไม Webinar ถึงมีความสำคัญในโลกธุรกิจและการศึกษายุคปัจจุบัน

  1. ประหยัดค่าใช้จ่าย: เมื่อเทียบกับการจัดสัมมนาแบบออฟไลน์ Webinar ช่วยลดค่าใช้จ่ายในด้านสถานที่ การเดินทาง และอุปกรณ์ต่างๆ
  2. เข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น: Webinar ช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงผู้ชมจากทั่วโลกโดยไม่มีข้อจำกัดด้านภูมิศาสตร์
  3. สร้างความน่าเชื่อถือ: การแบ่งปันความรู้และความเชี่ยวชาญผ่าน Webinar ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์หรือองค์กรของคุณ
  4. เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ผลได้ง่าย: เครื่องมือจัด Webinar ส่วนใหญ่มีฟีเจอร์ในการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์ผล ช่วยให้คุณเข้าใจพฤติกรรมและความสนใจของผู้เข้าร่วมได้ดีขึ้น
  5. สร้างโอกาสทางธุรกิจ: Webinar เป็นช่องทางที่ดีในการนำเสนอสินค้าหรือบริการ และสร้างลูกค้าที่มีศักยภาพ

5 เทคนิคการจัด Webinar ให้ประสบความสำเร็จ

8.1 เทคนิคการจัด Webinar ให้ประสบความสำเร็จ.webp

ต่อไปนี้คือ 5 เทคนิคสำคัญที่จะช่วยให้การจัด Webinar ของคุณประสบความสำเร็จ

1. วางแผนและเตรียมการอย่างรอบคอบ

การวางแผนที่ดีเป็นกุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของ Webinar

  • กำหนดวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน: ระบุว่าคุณต้องการให้ผู้เข้าร่วมได้อะไรจาก Webinar นี้
  • เลือกหัวข้อที่น่าสนใจ: เลือกหัวข้อที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายและสอดคล้องกับวัตถุประสงค์
  • กำหนดกลุ่มเป้าหมาย: ระบุว่าใครคือกลุ่มเป้าหมายของคุณ เพื่อปรับเนื้อหาและวิธีการนำเสนอให้เหมาะสม
  • เลือกวันและเวลาที่เหมาะสม: พิจารณาเลือกวันและเวลาที่กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าร่วมได้สะดวก
  • เตรียมอุปกรณ์และเทคโนโลยี: ตรวจสอบอุปกรณ์ต่างๆ เช่น คอมพิวเตอร์ ไมโครโฟน กล้อง และอินเทอร์เน็ต ให้พร้อมใช้งาน

2. สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจและมีคุณค่า

เนื้อหาที่ดีเป็นหัวใจสำคัญของ Webinar ที่ประสบความสำเร็จ

  • วิจัยและรวบรวมข้อมูล: ค้นคว้าข้อมูลที่เกี่ยวข้องและทันสมัย เพื่อให้เนื้อหามีความน่าเชื่อถือ
  • สร้างโครงร่างที่ชัดเจน: จัดโครงสร้างเนื้อหาให้เป็นระบบ ง่ายต่อการติดตาม
  • ใช้ตัวอย่างและกรณีศึกษา: ยกตัวอย่างจริงหรือกรณีศึกษาเพื่อให้เนื้อหาเข้าใจง่ายและน่าสนใจ
  • เตรียม Visual Aid: ใช้สไลด์ รูปภาพ หรือวิดีโอประกอบการนำเสนอเพื่อดึงดูดความสนใจ
  • เตรียมคำถามและคำตอบ: คาดการณ์คำถามที่อาจเกิดขึ้นและเตรียมคำตอบไว้ล่วงหน้า

3. สร้างการมีส่วนร่วมและปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วม

การสร้างปฏิสัมพันธ์ช่วยให้ผู้เข้าร่วมรู้สึกมีส่วนร่วมและจดจำเนื้อหาได้ดีขึ้น

  • ใช้เครื่องมือโพล (Poll): สร้างโพลถามความคิดเห็นหรือทดสอบความเข้าใจของผู้เข้าร่วม
  • เปิดโอกาสให้ถามคำถาม: จัดช่วงถาม-ตอบ หรือใช้ฟีเจอร์ Q&A ในแพลตฟอร์ม Webinar
  • ใช้ Chat Box: กระตุ้นให้ผู้เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นหรือแบ่งปันประสบการณ์ผ่าน Chat Box
  • จัดกิจกรรมหรือเกม: สร้างกิจกรรมสั้นๆ หรือเกมที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเพื่อสร้างความสนุกสนาน
  • ใช้เทคนิคการเล่าเรื่อง: ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องเพื่อดึงดูดความสนใจและสร้างอารมณ์ร่วม

4. ฝึกซ้อมและเตรียมพร้อมก่อนวันงาน

การเตรียมพร้อมช่วยลดความผิดพลาดและเพิ่มความมั่นใจในการนำเสนอ

  • ฝึกซ้อมการนำเสนอ: ซ้อมการนำเสนอหลายๆ ครั้งเพื่อให้คุ้นเคยกับเนื้อหาและการใช้เวลา
  • ทดสอบอุปกรณ์และเทคโนโลยี: ตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ทุกชิ้น รวมถึงแพลตฟอร์ม Webinar ที่ใช้
  • เตรียมแผนสำรอง: วางแผนรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น เช่น อินเทอร์เน็ตขัดข้อง หรืออุปกรณ์เสีย
  • เตรียมทีมงานสนับสนุน: จัดเตรียมทีมงานเพื่อช่วยจัดการด้านเทคนิคและตอบคำถามผู้เข้าร่วม
  • จัดเตรียมสภาพแวดล้อม: จัดสถานที่ให้เหมาะสมกับการถ่ายทอดสด เช่น แสงสว่าง เสียงรบกวน

5. ติดตามผลและวิเคราะห์หลังจบ Webinar

การติดตามผลช่วยให้คุณเรียนรู้และปรับปรุงสำหรับการจัด Webinar ครั้งต่อไป

  • ส่งแบบสอบถามความพึงพอใจ: ขอ Feedback จากผู้เข้าร่วมเพื่อนำมาปรับปรุง
  • วิเคราะห์ข้อมูลการเข้าร่วม: ดูสถิติต่างๆ เช่น จำนวนผู้เข้าร่วม ระยะเวลาการรับชม การมีส่วนร่วม
  • ติดตามผลลัพธ์ทางธุรกิจ: วัดผลตามวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้ เช่น ยอดขาย ลูกค้าที่มีศักยภาพ
  • แชร์การบันทึก Webinar: ส่งการบันทึก Webinar ให้ผู้ที่พลาดชมสด หรือใช้เป็นคอนเทนต์ในช่องทางอื่นๆ
  • วางแผนสำหรับ Webinar ครั้งต่อไป: นำข้อมูลและ Feedback ที่ได้มาวางแผนปรับปรุงในครั้งต่อไป

เครื่องมือและแพลตฟอร์มสำหรับจัด Webinar

เครื่องมือและแพลตฟอร์มสำหรับจัด Webinar

การเลือกเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เหมาะสมเป็นส่วนสำคัญในการจัด Webinar ให้ประสบความสำเร็จ ต่อไปนี้คือตัวอย่างของเครื่องมือและแพลตฟอร์มยอดนิยมสำหรับการจัด Webinar

  1. Zoom:
    • จุดเด่น: ใช้งานง่าย รองรับผู้เข้าร่วมจำนวนมาก มีฟีเจอร์ที่หลากหลาย
    • เหมาะสำหรับ: องค์กรทุกขนาด การศึกษา และการประชุมทางไกล
  2. GoToWebinar:
    • จุดเด่น: มีเครื่องมือวิเคราะห์ผลที่ละเอียด การจัดการลงทะเบียนที่ดี
    • เหมาะสำหรับ: การจัด Webinar ขนาดใหญ่ และองค์กรที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก
  3. WebinarJam:
    • จุดเด่น: ใช้งานง่าย มีเครื่องมือการตลาดในตัว เช่น Pop-up CTA
    • เหมาะสำหรับ: นักการตลาดออนไลน์ และผู้ที่ต้องการจัด Webinar เพื่อขายสินค้า
  4. Microsoft Teams:
    • จุดเด่น: บูรณาการกับ Microsoft 365 ได้ดี เหมาะสำหรับการทำงานร่วมกัน
    • เหมาะสำหรับ: องค์กรที่ใช้งาน Microsoft 365 อยู่แล้ว
  5. Google Meet:
    • จุดเด่น: ใช้งานง่าย ฟรีสำหรับการใช้งานพื้นฐาน บูรณาการกับ Google Workspace
    • เหมาะสำหรับ: ธุรกิจขนาดเล็กถึงกลาง และผู้ที่ใช้งาน Google Workspace

เทคนิคการโปรโมท Webinar ให้มีผู้เข้าร่วมมาก

การจัด Webinar ที่ดีไม่เพียงพอ คุณยังต้องทำให้มีคนรู้จักและเข้าร่วมด้วย ต่อไปนี้คือเทคนิคการโปรโมท Webinar ให้มีผู้เข้าร่วมมาก

  1. ใช้ Social Media:
    • แชร์รายละเอียด Webinar บนช่องทาง Social Media ทุกแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้งาน
    • สร้าง Event บน Facebook และเชิญชวนผู้ติดตามให้เข้าร่วม
    • ใช้ Hashtag ที่เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มการเข้าถึง
  2. ส่ง Email Marketing:
    • ส่งอีเมลเชิญชวนไปยังฐานข้อมูลลูกค้าหรือผู้สนใจ
    • สร้างชุดอีเมลเพื่อกระตุ้นความสนใจ เช่น อีเมลแนะนำ อีเมลเตือน และอีเมลก่อนวันงาน
  3. ใช้ Paid Advertising:
    • ลงโฆษณาบน Facebook, Google Ads หรือ LinkedIn เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่สนใจ
    • ใช้ Retargeting เพื่อแสดงโฆษณากับผู้ที่เคยแสดงความสนใจในเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
  4. สร้าง Landing Page ที่น่าสนใจ:
    • ออกแบบ Landing Page ที่ให้ข้อมูลครบถ้วนและกระตุ้นให้ลงทะเบียน
    • ใช้ Call-to-Action (CTA) ที่ชัดเจนและโดดเด่น
  5. ร่วมมือกับ Influencers หรือพาร์ทเนอร์:
    • ขอความร่วมมือจาก Influencers ในวงการที่เกี่ยวข้องให้ช่วยประชาสัมพันธ์
    • จับมือกับพาร์ทเนอร์ทางธุรกิจเพื่อขยายฐานผู้เข้าร่วม
  6. ใช้ Content Marketing:
    • เขียนบทความที่เกี่ยวข้องกับหัวข้อ Webinar และแชร์บนบล็อกหรือ Medium
    • สร้าง Teaser Video สั้นๆ เพื่อดึงดูดความสนใจ
  7. เสนอ Incentive:
    • มอบส่วนลดพิเศษ, eBook หรือของแถมสำหรับผู้ที่ลงทะเบียนล่วงหน้า
    • จัดการแข่งขันหรือการจับรางวัลสำหรับผู้เข้าร่วม

การวัดความสำเร็จของ Webinar

หลังจากจัด Webinar เสร็จสิ้น การวัดผลความสำเร็จเป็นสิ่งสำคัญเพื่อการปรับปรุงในครั้งต่อไป ต่อไปนี้คือ KPI (Key Performance Indicators) ที่ควรพิจารณา

  1. จำนวนผู้ลงทะเบียนและผู้เข้าร่วมจริง:
    • เปรียบเทียบจำนวนผู้ลงทะเบียนกับผู้ที่เข้าร่วมจริง
    • วิเคราะห์อัตราการเข้าร่วม (Attendance Rate)
  2. ระยะเวลาการรับชม:
    • ดูว่าผู้เข้าร่วมอยู่รับชม Webinar นานแค่ไหน
    • วิเคราะห์ช่วงเวลาที่มีผู้ออกจาก Webinar มากที่สุด
  3. การมีส่วนร่วมของผู้เข้าร่วม:
    • จำนวนคำถามที่ได้รับ
    • การมีส่วนร่วมใน Poll หรือกิจกรรมต่างๆ
    • การแสดงความคิดเห็นใน Chat
  4. Feedback จากผู้เข้าร่วม:
    • ผลการประเมินความพึงพอใจ
    • ข้อเสนอแนะและความคิดเห็นที่ได้รับ
  5. การบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ:
    • จำนวนลูกค้าที่มีศักยภาพ (Leads) ที่ได้รับ
    • ยอดขายหรือการสมัครใช้บริการที่เกิดขึ้นหลัง Webinar
  6. การแชร์และการรับชมย้อนหลัง:
    • จำนวนครั้งที่การบันทึก Webinar ถูกแชร์
    • จำนวนผู้รับชมย้อนหลัง
  7. ROI (Return on Investment):
    • เปรียบเทียบค่าใช้จ่ายในการจัด Webinar กับผลตอบแทนที่ได้รับ

บทสรุป

การจัด Webinar ที่ประสบความสำเร็จต้องอาศัยการวางแผนที่ดี การเตรียมเนื้อหาที่มีคุณภาพ และการสร้างปฏิสัมพันธ์กับผู้เข้าร่วม 5 เทคนิคที่เราได้กล่าวถึง - การวางแผนและเตรียมการอย่างรอบคอบ การสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ การสร้างการมีส่วนร่วม การเตรียมพร้อมก่อนวันงาน และการติดตามผล - จะช่วยให้คุณสามารถจัด Webinar ที่มีประสิทธิภาพและสร้างผลลัพธ์ที่ดีให้กับธุรกิจหรือองค์กรของคุณ

นอกจากนี้ การเลือกเครื่องมือและแพลตฟอร์มที่เหมาะสม การโปรโมทอย่างมีประสิทธิภาพ และการวัดผลความสำเร็จ ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะช่วยยกระดับ Webinar ของคุณ ในขณะที่เทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป Webinar ก็จะพัฒนาและปรับตัวตามไปด้วย การติดตามแนวโน้มใหม่ๆ และการเปิดรับเทคโนโลยีล่าสุดจะช่วยให้คุณสามารถจัด Webinar ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้เข้าร่วมและสร้างผลลัพธ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง

ไม่ว่าคุณจะเป็นผู้ประกอบการ นักการตลาด หรือผู้เชี่ยวชาญในสาขาใด การใช้เทคนิคเหล่านี้และการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงจะช่วยให้คุณสามารถใช้ประโยชน์จาก Webinar ในการสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจหรือองค์กรของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ

Related News

คู่มือการทำ Schema Markup บน WordPress ฉบับสมบูรณ์ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด

Wordpress schema markup เป็นทักษะที่ SEO Specialist ควรเชี่ยวชาญ ในบทความนี้ เราจะสอนการลงมือทำแบบละเอียดโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเมอร์

แชร์ 10 เทคนิคทำโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ เร่งยอดขาย 2025

ธุรกิจจะอยู่รอดต่อไปในอนาคตได้หรือไม่ ยอดขายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าคุณมียอดขายสูงพอ มันก็จะครอบคลุมในส่วนของเงินทุนที่เสียไปในตอนแรกและได้ทั้งกำไรที่จะต่อยอดธุรกิจต่อไป ซึ่งแบรนด์อย่างเรา ๆ ก็ต้องพยายามกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค ให้พวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องมีสิ่งนี้ และตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้นในท้ายที่สุด ผ่านการพูดโน้มน้าวใจโฆษณาสินค้าไปยังช่องทางต่าง ๆ อาทิ TikTok, Facebook หรือ Website ด้วยเหตุนี้การโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ จึงไม่ได้มีหน้าที่เพียงกระตุ้นความต้องการแล้วจบไปเท่านั้น แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิด Conversion ขึ้นจริง มาทำความเข้าใจเรื่องโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ พร้อมดูตัวอย่างการโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจจากแบรนด์ต่าง ๆ กับ ANGA Mastery ได้ที่นี่เลย

Google My Business คือเครื่องมือสำคัญ ที่ทุกธุรกิจห้ามพลาด

เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ ไม่ว่าใครก็ต้องหันมาพึ่งพาการทำการตลาดออนไลน์กันทั้งนั้น เพราะเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือข้อมูลบนโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักและเติบโตได้เร็วกว่าธุรกิจที่ไม่มีข้อมูลบนโลกออนไลน์เลย ยิ่งธุรกิจใดมีการปักหมุดแผนที่ลงไปใน Google Maps และใส่ข้อมูลรายละเอียดของธุรกิจอย่างครบครันด้วยล่ะก็ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ในวันนี้ ANGA Mastery จะมาแนะนำให้คุณรู้จักว่า Google My Business คืออะไร บอกได้เลยว่าสิ่งนี้ช่วยธุรกิจของคุณได้มาก ทั้งธุรกิจที่มีหน้าร้านก็ดี หรือธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านก็ตาม อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการทำ SEO พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ Local SEO ให้กับธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

คู่มือการทำ Schema Markup บน WordPress ฉบับสมบูรณ์ โดยไม่ต้องเขียนโค้ด

Wordpress schema markup เป็นทักษะที่ SEO Specialist ควรเชี่ยวชาญ ในบทความนี้ เราจะสอนการลงมือทำแบบละเอียดโดยไม่ต้องพึ่งโปรแกรมเมอร์

แชร์ 10 เทคนิคทำโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ เร่งยอดขาย 2025

ธุรกิจจะอยู่รอดต่อไปในอนาคตได้หรือไม่ ยอดขายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญที่สุด เพราะถ้าคุณมียอดขายสูงพอ มันก็จะครอบคลุมในส่วนของเงินทุนที่เสียไปในตอนแรกและได้ทั้งกำไรที่จะต่อยอดธุรกิจต่อไป ซึ่งแบรนด์อย่างเรา ๆ ก็ต้องพยายามกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภค ให้พวกเขารู้สึกว่าจำเป็นต้องมีสิ่งนี้ และตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการนั้นในท้ายที่สุด ผ่านการพูดโน้มน้าวใจโฆษณาสินค้าไปยังช่องทางต่าง ๆ อาทิ TikTok, Facebook หรือ Website ด้วยเหตุนี้การโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ จึงไม่ได้มีหน้าที่เพียงกระตุ้นความต้องการแล้วจบไปเท่านั้น แต่เป็นการกระตุ้นให้เกิด Conversion ขึ้นจริง มาทำความเข้าใจเรื่องโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจ พร้อมดูตัวอย่างการโฆษณาสินค้าโน้มน้าวใจจากแบรนด์ต่าง ๆ กับ ANGA Mastery ได้ที่นี่เลย

Google My Business คือเครื่องมือสำคัญ ที่ทุกธุรกิจห้ามพลาด

เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ ไม่ว่าใครก็ต้องหันมาพึ่งพาการทำการตลาดออนไลน์กันทั้งนั้น เพราะเราก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือข้อมูลบนโลกออนไลน์ เป็นที่รู้จักและเติบโตได้เร็วกว่าธุรกิจที่ไม่มีข้อมูลบนโลกออนไลน์เลย ยิ่งธุรกิจใดมีการปักหมุดแผนที่ลงไปใน Google Maps และใส่ข้อมูลรายละเอียดของธุรกิจอย่างครบครันด้วยล่ะก็ ก็ยิ่งมีโอกาสที่จะได้ลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้นมากเท่านั้น ในวันนี้ ANGA Mastery จะมาแนะนำให้คุณรู้จักว่า Google My Business คืออะไร บอกได้เลยว่าสิ่งนี้ช่วยธุรกิจของคุณได้มาก ทั้งธุรกิจที่มีหน้าร้านก็ดี หรือธุรกิจที่ไม่มีหน้าร้านก็ตาม อีกทั้งยังส่งผลดีต่อการทำ SEO พร้อมกับเพิ่มประสิทธิภาพของการทำ Local SEO ให้กับธุรกิจที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ