In-House Training การฝึกอบรมที่องค์กรต้องให้ความสำคัญ

By Rachavit Whangpatanathon I MD at ANGA Group

02 DECEMBER 24

757

11.webp

การพัฒนาบุคลากรถือเป็นหัวใจสำคัญที่ผลักดันให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคง โดยเฉพาะการจัด In-House Training ที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรโดยเฉพาะ In-House Training ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มศักยภาพของพนักงานเท่านั้น แต่ยังสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องภายในองค์กร ส่งผลให้เกิดการเติบโตทั้งในระดับบุคคลและระดับองค์กรไปพร้อมกัน รวมทั้งยังประหยัดต้นทุนกว่าการส่งพนักงานไปอบรมภายนอกอีกด้วย สำหรับองค์กรใดที่กำลังสนใจจัดอบรมภายในองค์กร  มาทำความเข้าใจว่า In-House Training คืออะไร สำคัญอย่างไร ทำไมองค์กรถึงควรจัดผ่านบทความนี้กับ ANGA Mastery กัน

In-House Training คืออะไร

In-House Training คือการอบรมภายในองค์กรที่จัดขึ้นเป็นการเฉพาะสำหรับพนักงานภายในของตนเอง โดยมีการออกแบบหลักสูตรอบรมพนักงานภายในองค์กรให้สอดคล้องกับความต้องการและเป้าหมายขององค์กรในแต่ละช่วงเวลา การอบรมภายในองค์กรมีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับเปลี่ยนเนื้อหาและรูปแบบกิจกรรมได้ตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะเฉพาะทาง การเสริมสร้างภาวะผู้นำ หรือการพัฒนาทักษะการทำงานร่วมกันเป็นทีมก็ตาม 

องค์กรสามารถเลือกดำเนินการฝึกอบรมได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งการใช้วิทยากรภายในที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน หรือการจ้างวิทยากรมืออาชีพจากภายนอกมาถ่ายทอดความรู้ สถานที่จัดอบรมอาจเป็นภายในองค์กรเองหรือสถานที่ภายนอกก็ได้ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของกิจกรรมและจำนวนผู้เข้าร่วม โดยมุ่งเน้นให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริงในการทำงาน

In-House Training มีกี่แบบ

In-House Training สามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลักตามระยะเวลาและความเข้มข้นของการฝึกอบรม ได้แก่ การฝึกอบรมระยะสั้นและการฝึกอบรมระยะยาว โดยแต่ละรูปแบบมีจุดเด่นและวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน ดังนี้

1. การฝึกอบรมระยะสั้น

การฝึกอบรมภายในองค์กรระยะสั้น (Short-term Training) เป็นหลักสูตรที่ใช้เวลา 1-3 วัน เน้นการถ่ายทอดความรู้และทักษะแบบเข้มข้น เหมาะสำหรับการพัฒนาทักษะเฉพาะด้านที่ต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว หรือการปรับปรุงความรู้พื้นฐานที่จำเป็นต่อการทำงาน วิทยากรจะใช้ทั้งทฤษฎีและกรณีศึกษาจากประสบการณ์จริง เพื่อให้ผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้ทันทีหลังจบการอบรม เช่น คอร์ส SEO Strategy for Executives (คอร์สสอนวางกลยุทธ์ SEO) หรือคอร์สเรียน Google Analytics 4 ที่สายการตลาดไม่ควรพลาด เป็นต้น

2. การฝึกอบรมระยะยาว

การฝึกอบรมภายในองค์กรระยะยาว (Long-term Program) มีระยะเวลาตั้งแต่ 1-12 เดือน มุ่งเน้นการพัฒนาทักษะเชิงลึกและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมอย่างยั่งยืน โปรแกรมนี้เหมาะสำหรับการเตรียมความพร้อมบุคลากรสำหรับตำแหน่งที่สูงขึ้น หรือการพัฒนากลุ่มผู้มีศักยภาพสูง (Talent) ขององค์กร มีการติดตามผล รับฟีดแบค และปรับปรุงอย่างต่อเนื่องระหว่างการฝึกอบรม เพื่อให้มั่นใจว่าผู้เข้าอบรมสามารถนำความรู้ไปใช้ได้จริงและเกิดการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว

In-House Training มีประโยชน์อย่างไรต่อองค์กร

การฝึกอบรมภายในองค์กร สร้างประโยชน์ให้กับองค์กรในหลายมิติ โดยเฉพาะการพัฒนาบุคลากรให้สอดคล้องกับเป้าหมายและความท้าทายขององค์กร องค์กรสามารถออกแบบหลักสูตรอบรมภายในองค์กรที่ตอบโจทย์ความต้องการเฉพาะด้าน ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะการขาย การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน หรือการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในแต่ละแผนก ทำให้การพัฒนาบุคลากรเป็นไปอย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพสูงสุด

นอกจากการพัฒนาทักษะแล้ว In-House Training ยังช่วยเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงานในองค์กร ผ่านกิจกรรมที่ส่งเสริมการทำงานร่วมกัน การแก้ปัญหา และการสื่อสารระหว่างแผนก เมื่อพนักงานได้มีโอกาสแลกเปลี่ยนประสบการณ์และทำงานร่วมกัน จะเกิดความเข้าใจในบทบาทของแต่ละฝ่าย นำไปสู่การประสานงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในการทำงานจริง และที่สำคัญคือการจัดอบรมภายในองค์กรช่วยให้การถ่ายทอดความรู้มีประสิทธิภาพสูง เนื่องจากผู้เข้าอบรมมีพื้นฐานวัฒนธรรมองค์กรเดียวกัน เข้าใจบริบทและความท้าทายร่วมกัน ทำให้สามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการทำงานได้ทันที และเกิดการพัฒนาอย่างพร้อมเพรียงกันทั้งองค์กร

  • ตอบโจทย์เป้าหมายองค์กรได้ตรงจุด
  • พัฒนาทักษะพนักงานได้ตรงความต้องการ
  • สร้างความสัมพันธ์ระหว่างแผนก
  • ประหยัดต้นทุนการฝึกอบรม
  • ยืดหยุ่นด้านเวลาและสถานที่
  • พนักงานสามารถนำความรู้ไปใช้ได้ทันที
  • ช่วยแก้ปัญหาเฉพาะขององค์กร
  • พัฒนาทักษะการสื่อสารระหว่างทีม
  • สร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้ในองค์กร
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานโดยรวม
  • วัดผลและติดตามผลได้ง่าย

ข้อจำกัดของการทำ In-House Training

  • ความรู้พื้นฐานและทักษะของผู้เข้าอบรมแตกต่างกันมาก ทำให้ยากต่อการออกแบบหลักสูตร
  • บางคนอาจไม่เห็นความสำคัญและไม่ให้ความร่วมมือเท่าที่ควร
  • ผู้เข้าอบรมอาจมีความคาดหวังที่แตกต่างกัน ส่งผลต่อความพึงพอใจ
  • การหาเวลาที่เหมาะสมสำหรับทุกฝ่ายทำได้ยาก และผู้เข้าอบรมอาจถูกเรียกออกไปทำงานระหว่างการอบรมได้
  • วัตถุประสงค์การอบรมอาจไม่ชัดเจนหรือสื่อสารไม่ทั่วถึง
  • เป้าหมายการอบรมอาจไม่สอดคล้องกับความต้องการของทุกฝ่าย
  • การประสานงานระหว่างแผนกอาจมีความซับซ้อน ทำให้ข้อมูลสำคัญอาจตกหล่นระหว่างการประสานงานได้

8 วิธีทำให้ In-House Training มีประสิทธิภาพที่สุด

การจัด In-House Training หรืออบรมภายในองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องมีการวางแผนและดำเนินการอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มตั้งแต่การประเมินความต้องการไปจนถึงการติดตามผล การให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนจะช่วยให้การฝึกอบรมบรรลุวัตถุประสงค์และสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนให้กับองค์กร

  1. วิเคราะห์ความต้องการขององค์กรและพนักงานอย่างละเอียด ทั้งด้านทักษะที่ขาด ปัญหาที่ต้องแก้ไข และเป้าหมายที่ต้องการบรรลุ
  2. กำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมายที่ชัดเจน วัดผลได้ เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันและสามารถประเมินความสำเร็จได้
  3. ออกแบบหลักสูตรให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมองค์กรและระดับความรู้ของผู้เข้าอบรม เน้นการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
  4. เลือกวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญและเข้าใจบริบทขององค์กร สามารถถ่ายทอดความรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  5. สร้างบรรยากาศการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง กระตุ้นให้เกิดการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์
  6. จัดเตรียมสื่อและอุปกรณ์การเรียนรู้ที่เหมาะสม ทันสมัย และสนับสนุนการเรียนรู้
  7. ติดตามและประเมินผลอย่างเป็นระบบ ทั้งระหว่างการอบรมและหลังการอบรม เพื่อวัดประสิทธิภาพและนำไปปรับปรุง
  8. ส่งเสริมการนำความรู้ไปใช้จริง โดยสร้างโอกาสให้ผู้เข้าอบรมได้ประยุกต์ใช้สิ่งที่เรียนรู้ในการทำงาน

บทสรุป

ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของโลกการตลาดและโลกธุรกิจ In-House Training หรือการฝึกอบรมภายในองค์กรคือคำตอบสำหรับการพัฒนาบุคลากรให้พร้อมรับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ด้วยการออกแบบหลักสูตรที่เฉพาะเจาะจงแตกต่างจาก Public Training [เช็คเลย Public Training คืออะไร !] การติดตามผลอย่างเป็นระบบ และการสร้างวัฒนธรรมแห่งการเรียนรู้ องค์กรสามารถเสริมสร้างความแข็งแกร่งจากภายในสู่ภายนอกได้อย่างมีประสิทธิภาพ สุดท้ายนี้ หากคุณกำลังมองหาหลักสูตรอบรมภายในองค์กรด้านการตลาดออนไลน์อย่าง Google Analytics 4 หรือมองหาสถาบันสอน SEO โดยผู้เชี่ยวชาญอยู่ สามารถติดต่อ ANGA Mastery หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่หน้าคอร์สเรียนการตลาดได้เลย 

Related News

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

รู้จัก Churn Rate คืออะไร ทำไมถึงกลายเป็นฝันร้ายของคนทำธุรกิจ

Churn Rate คือตัวชี้วัดการสูญเสียลูกค้าที่ส่งผลโดยตรงต่อกำไรธุรกิจ เรียนรู้สาเหตุและ 5 เทคนิคลด Churn Rate ที่พิสูจน์แล้วว่าได้ผลจริงในบทความนี้

แชร์ 5 เครื่องมือใช้เช็กอันดับเว็บไซต์ SEO ที่เอเจนซี่ใช้จริง

รวม 5 เครื่องมือเช็กอันดับเว็บที่เอเจนซี่รับทำ SEO ใช้จริง พร้อมวิธีใช้งานทีละขั้นตอน ทั้ง Google Search Console, SERanking, Ahrefs และอื่น ๆ

สอนวิธีเช็กอันดับเว็บไซต์ เช็กอันดับ SEO ด้วยตัวเอง

รวมวิธีสอนเช็กอันดับเว็บง่าย ๆ ด้วยตัวเอง เช็กอันดับ SEO ยังไงได้บ้าง เลือกมาให้แค่วิธีที่ง่ายและฟรี มือใหม่ทำได้ ไม่ต้องจ้างเอเจนซี่ อัปเดต 2025

logo

ติดต่อเรา

ANGA Mastery คือแพลตฟอร์มแห่งการเรียนรู้ด้านการตลาดในยุคดิจิตอล ที่ไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่เป็นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริงของเอเจนซีชั้นนำที่เคยลงมือทำจริง เรียนรู้เทคนิคที่ใช้ได้ผลจริง และนำไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณได้ทันที เหมาะสำหรับ ผู้บริหารองค์กร เช่น CEO, MD, VP, ผู้บริหารระดับสูง นักการตลาดระดับสูง เช่น Marketing Manager และ เจ้าของธุรกิจ